Saturday, August 30, 2008

สถานการณ์บ้านเมือง

ช่วงนี้สถานการณ์บ้างเมืองเป็นเรื่องที่คนไทยที่รู้ประสาส่วนมากเป็นห่วง (ยกเว้นบางกลุ่ม อย่างเช่น วัยรุ่นลูกหลานที่แค่ดีใจที่โรงเรียนหยุด และก็ดูโทรทัศน์รายการเกาหลีหาความบันเทิงไปเรื่อยๆ ไม่สนใจเรื่องอื่น) เชื่อว่าคนไทยทุกคนก็คงอยากให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็ว แต่ว่าบางคนก็ปรุงแต่งใจตัวเองมากกว่านั้น คืออยากให้เรื่องจบไปในทางที่ตัวชอบหรือต้องการ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวหรือกลุ่มของตัว (อันนั้นก็มากไปหน่อย)

แต่เพื่อนชาวพุทธนักปฏิบัติธรรมส่วนมากที่อยากให้เรื่องจบ เท่าที่รู้ ก็จะช่วยกันทำสมาธิทุกวัน สวดมนต์ แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ (คนก็เป็นสัตว์) เพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของบ้านเมือง และเพื่อความสุขของโลก พวกเขาไม่อยากให้ใครเป็นอะไรไปจากเหตุการณ์ในปัจจุบัน เพื่อนชาวพุทธนักปฏิบัติเป็นผู้มีจิตใจสูง ระดับคุณธรรมสูง และหลายคนมีหลังจิตที่มากกว่าคนทั่วไป พวกเขาส่วนมากเป็นปัญญาชน แม้บางคนอาจจะยังอยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียนอยู่ก็มี เขามีความคิดความอ่านเรื่องการเมืองแน่นอน แต่ที่สำคัญที่สุด เขาเลือกที่จะไม่รับอารมณ์โทสะเข้าไปในใจเขา อะไรที่เขาไม่ชอบเขาก็รู้ตัวอย่างมีสติ จิตใจเศร้าหมองที่เห็นบางเรื่องเป็นอธรรมก็เฝ้ารู้ไป เห็นทุกอย่างมีเหตุ เมื่อเกิดมาแล้วก็ต้องดับไป เป็นอนิจจัง ทุกขัง และก็อนัตตา และพวกท่านเหล่านั้นก็มุ่งแต่จะแผ่ความเมตตาของพวกเขาให้เพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ถ้วนหน้า นักปฏิบัติท่านเหล่านั้นน่าสรรเสริญ

ผมคิดว่าจะร่วมกับท่านนักปฏิบัติเหล่านั้นในการทำสมาธิภาวนาและเจริญเมตตาด้วยเหมือนกัน

2 comments:

Unknown said...

บ้านเมืองจะล่มจะจมอย่แล้ว เขา(จำลอง)ยังจะบอกว่า "เสียหายเล็กน้อย"อีกหรือ ดูสถานการณ์บ้านเมืองซะก่อน นปก.ก็เหมือนกัน ทำร้ายเขา(พ่อแกนนำ พธม.เชียงใหม่)เสียชีวิตเลย นิสัย

Burachai Sonthayanon said...

โทสะทำให้จิตใจเศร้าหมอง เป็นอกุศลจิต มีอยู่ ๒ ดวง (จากอกุศลจิตทั้งหมด ๑๒ ดวง) เมื่อรู้สึกตัว มหากุศลจิตเกิดขึ้น การระลึกถึงอารมณ์(ที่เศร้าหมองนั้น)ดับไป ในมหากุศลจิตนั้นเอง มีปัญญาเจตสิกอยู่ด้วย
เมื่อมีปัญญา ก็จะเห็นทางพ้นทุกข์ได้