Saturday, July 31, 2010

มหาวิทยาลัยในอเมริกาล้มเหลวอย่างไร

เมื่อไปอ่านข่าวตามลิงก์แล้ว ก็มีความรู้สึกว่า มหาวิทยาลัยในไทยอาจจะมีแนวคิดจะตามแนวอเมริกา ถ้าไปหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านก็ท่าจะดี

บวกกับหนังสือแนวทางการศึกษาแนวพุทธที่เมืองไทยมีอยู่หลายเล่ม

Friday, July 23, 2010

a view of one of my bookshelves


I just found a website collecting nice pictures of beautiful bookshelves and bookstacks; linked here. That 's a nice website for bookworms, like me. So I feel a knack to put up an old picture of one of my bookshelves at home in my blog too.

I think I have a couplel thousand books in several bookshelves around the house. But they are scattered in many rooms, as well as in a smaller house behind my main house too. It would be a dream to put them together and form a nice home library. But I am running out of time and can not do that as I 'd love to.

Monday, July 19, 2010

มีการปล่อยแตนเบียนเพื่อทำลายเพลี้ยแป้งที่ขอนแก่น

จากข่าว ลิงก์ข้างต้น
มีการนำเข้าแตนเบียน parasitic wasp, Anagyrus lopezi ที่นำเข้ามาทดลองเลี้ยงขยายพันธุ์เมื่อปีกลาย จากต่างประเทศ และได้มีพิธีปล่อยที่ ขอนแก่น จำนวน 250,000 ตัว โดยปล่อยเป็นคู่ เพื่อให้ไปจัดการกับเพลี้ยแป้ง ของมันสำปะหลัง cassava mealybug ที่ตอนนี้ระบาดในภาคอีสาณ ประมาณ 1.6 ล้านไร่ หรือประมาณ 200,000 hectares

รู้สึกว่าดี ที่มีการใช้ การควบคุมทางชีวภาพ (biological pest control) แทนการใช้ยาฆ่าแมลง

Monday, July 12, 2010

ไปได้หนังสือธรรมะมาใหม่ (2)

สองอาทิตย์ก่อน ไปได้หนังสือจาก มหาจุฬาบรรณาคารมา ๑ เล่ม พลิกๆดูแล้ว เห็นว่าน่าอ่านดีคือ

หนังสือชุด ฉลาดรู้ธรรม
เล่ม ๑ ตอน วิเคราะห์ ทฤษฎีว่าด้วยการอ่านพระไตรปิฎกและอรรถกถา ฉบับทดลองนำเสนอ
โดย
นาวาเอก(พิเศษ) ทองย้อย แสงสินชัย ร.น. ป.ธ. ๙
อดีตผู้อำนวยการ กองอนุศาสนาจารย์ทหารเรือ

ผมอ่านผ่านๆ น่าอ่านดี

โดยหลักคือท่านวิพากย์ ค้านความเห็นของอาจารย์มหาวิทยาลัย คนหนึ่งว่าท่านไม่เห็นด้วยอย่างไรบ้าง

ผมคิดเอาเอง จากความรู้สึกคร่าวๆ ก็คือ นักวิชาการไทยส่วนมาก มักโดนฝรั่งล้างสมองมาโดยไม่รู้ตัว (ผมก็โดน) บางทีก็ไม่เข้าใจอะไรลึกพอ ก็เต็มไปด้วยทิฏฐิ ซึ่งแปลว่าความเห็น (ตัวเองก็โดนตัวเองด้วยอีกแหละ) และบ่อยครั้ง การแสดงความรู้ออกมาก็มีโมหะแทรก และการอยากรู้เรื่องวิชาการ ก็มีโลภะแทรก (ผมโดนเองอีก) ทำได้ทุกอย่าง (ผมเองสมัยก่อนก็ยอมผิดศีลข้อ ๑ ฆ่าสัตว์ทดลองมาแล้วแยะ เพราะอยากรู้ แต่ตอนนี้เลิกแล้ว) นักวิชาการที่เป็นชาวพุทธจึงต้องสำเหนียกให้มาก

ไปได้หนังสือธรรมะมาใหม่ (1)

เมื่อวันอาทิตย์ไปแวะร้านมหาจุฬาบรรณาคาร ได้หนังสือเล่มเล็กๆมา ๒ เล่ม เล่มใหญ่ๆมาอีก ๒ เล่ม แต่วันนี้จะพูดถึงหนังสือเล่มเล็ก ๑ เล่มก่อน เพราะเพิ่งอ่านจบไปเมื่อสักครู่ หนังสือนี้ชื่อว่า

หนังสือธรรมะทรงคุณค่า ปฏิปัตติปุจฉาวิสัชนา
ปุจฉา: พระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล)
วิสัชนา: พระอาจารย์ มั่น ภูริทัตตเถระ

เล่มละ ๒๐ บาท จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา

ดีมาก เหมาะสำหรับนักปฏิบัติ และนักปริยัติที่ปฏิบัติด้วย
อ่านแล้วเข้าใจสภาวธรรมได้ดีมาก ผมเชื่อคำอธิบายของท่าน

หนังสือเล่มนี้ก็เป็นหนึ่งเล่มที่ผมซื้อไว้เพิ่มเป็นพิเศษในชุดที่จะฝากเพื่อนไปถวายครูบาอาจารย์แทนตนเองที่อีสาณองค์หนึ่งด้วยเล่มหนึ่ง เพื่อท่านจะได้ไว้ให้พระและโยมได้ศึกษาพิจารณาต่อไป

Tuesday, July 06, 2010

บริจาคเลือดประจำไตรมาศ

ไปบริจาคเลือดประจำไตรมาศเมื่อเดือนที่แล้ว ความที่ยุ่งๆเลยไม่ได้โพสต์

คิดว่าตนเองคงจะบริจาคได้อีกไม่กี่ครั้ง เพราะมีแผนออกป่าราวๆกลางปีหน้าเป็นต้นไป อาจจะต้องเลิกบริจาคด้วยเหตุหลายอย่าง ที่สำคัญคือสภากาชาดคงไม่อยากรับเลือดจากคนที่จะโดนยุงป่ากัดเป็นประจำ

รูปนี้ขำดี ถ่ายไว้เอง

ผมถ่ายไว้หลายเดือนแล้ว อยู่ในมือถือ เพิ่งเอามาโพสต์ เห็นแล้วขำดี แต่อย่างไรก็ตาม
ก็ต้องขออนุโมทนา แม่นาคพระโขนง วัดมหาบุษย์ ที่ทำบุญบริจาครถพยาบาล ให้รามา

คนที่ตายไปแล้วก็จริง แต่ผลบุญ และความดียังมีหลงเหลืออยู่นะ


Monday, July 05, 2010

ปั่นจักรยานอ่านหนังสือ

ช่วงนี้ฝนตกตอนค่ำๆ ออกกำลังกายนอกบ้านไม่สะดวก ก็เลยออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานอยู่กับที่ในห้องทำงาน ใน โฮมออฟฟิส ที่บ้าน มีแอร์ด้วย แต่กระนั้นก็เหงื่อออกโซ่กไป

ก่อนหน้านี้ผมมักจะอ่านหนังสือทั่วไป สารคดีวิทยาศาสตร์บ้าง นิยายธรรมะบ้าง ต่อมาก็สลับ ไปดูวีดิโอ จาก Miro บนเครื่องโน้ตบุ้คบ้าง ฟัง mp3 บ้างจากไอทูนบ้าง (ไอพ๊อดมันเจ๊งไปแล้วไม่อยากซื้อตัวที่สาม)

ระยะหลังนี้กลับมาฟังเทศน์หลวงพ่อฤาษีลิงดำบ่อยๆ ท่านจิตโตบ้าง หลวงพี่เล็กบ้าง บ่อยๆ ก็เลยนึกอยากไปบ้านซอยสายลม วันเสาร์ที่ผ่านมาก็เลยได้ไปที่นั่น ไปได้หนังสือมาหลายเล่ม ราคาไม่แพง ส่วนมากเล่มละไม่เกิน ๕๐ บาท ซื้อมาดูเหมือนจะ ๕ เล่ม ยังไม่ถึง ๒๐๐ บาทเลย จากนั้นก็ไปถวายสังฆทานหลวงพี่เล็ก และกราบถามปัญหากัมมัฏฐานจากท่าน ที่แถวอนุสาวรีย์ชัยฯ ท่านก็เมตตาตอบให้แบบตรงใจทีเดียว ไม่เคยเจอองค์จริงท่าน เคยเห็นแต่ในรูป หรือฟัง mp3 เจอท่านผมคิดว่าผิวพรรณท่านผ่องใสมากเลย

ประเด็นสำคัญที่จะพูดก็คือ ตอนนี้กำลังอ่านหนังสือเรื่อง "ล่าพระอาจารย์ และ ล่องเชียงแสน" อยู่ ๒ เรื่องในเล่มเดียวกัน เพลินดีมาก สนุกมาก เป็นการถอดเทปหลวงพ่อฤาษีลิงดำ มา บางตอนผมคิดว่าก็เคยอ่านมาแล้วสมัยหลายสิบปีก่อน ได้กลับมาอ่านเป็นเรื่องราวอีกที ความรู้ความเข้าใจเปลี่ยนไป เรามีความคิดอ่านสุขุมมากขึ้นตามวัย(ชรา) อ่านไปได้สักครึ่งเล่มก็เท่ากับปั่นจักรยานได้ ๑ ชม.พอดี เท่ากับระยะทางสัก ๑๓ กม. หรือ เผาพลังงานได้สัก ๕๐๐ แคลอรี่ ก็วางลง แล้ววันต่อไปก็มาอ่านต่อ เมื่อวานไม่ได้อ่านเพราะไปดูวีดีโอ ดร.สนอง บรรยายธรรมะถวายพระบวชใหม่ ดาวน์โหลดมาจากเว็บ หนังสือเล่มนั้น วันนี้ก็ยังอ่านไม่จบเล่มนี้

โดยเฉพาะอ่านในครึ่งเล่มหลัง ตอน ล่องเชียงแสน ผมได้ไอเดียอะไรกระฉูดแยะมาก โดยเฉพาะเรื่องการเมือง เรื่องการทะเลาะของคนในชาติ สิ่งที่หลวงพ่อเทศน์ท่านไว้เมื่อราว พ.ศ. ๒๕๑๘ ไม่ล้าสมัย ปัญหาก็คือ คนรุ่นใหม่จะแทบไม่มีทางเอาหนังสือดีๆแบบนี้มาอ่าน แล้วจะคนไทยได้ปัญญาที่ไหน สิ่งหนึ่งที่ผมได้คิดจากอ่านคำเทศน์ของท่านในตอนนี้ก็คือ การปกครองในระบอบพ่อปกครองลูกของไทยสมัยสุโขทัยนั้น ผมเพิ่งซึ้งใจจากคำเทศน์ของหลวงพ่อนี้เอง ก่อนหน้านี้เรียนมาต้งแต่เป็นเด็กนักเรียน ๔๐ ปีก่อนก็ไม่เก็ท ตอนนี้ผมเพิ่งเก็ทแล้วว่า ระบอบพ่อปกครองลูกก็คือระบอบประชาธิปไตยของไทยเดิมเรานั่นเอง เพราะพระมหากษัตริย์สุโขทัยหรือแม้แต่เชียงแสน ท่านทรงเป็นพ่อเมือง และสมัยนั้นท่านทรงลงไปเยือนราษฎรแต่ละครั้งๆในฐานะพ่อเมือง เป็นกันเอง แต่งองค์ธรรมดาเหมือนชาวบ้าน ซึ่งก็คือเป็นการทำ caucus หรือ ประชาพิจารณ์ กับพสกนิกรโดยตรงเป็นประจำนั่นเอง

ผมเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยว่า การปกครองระบบประชาธิปไตยที่ไทยเราไปลอกฝรั่งมาเกือบทั้งดุ้นตอนนี้มันใช้ไม่ดี เพราะปล่อยให้คนไม่ดี คนไม่มีศีล จำนวนมากเข้ามาหาประโยชน์จากอำนาจรัฐ เข้ามาป่วนเพื่อชิงอำนาจรัฐ เข้ามามีอำนาจออกกฎหมายตามอำเพอใจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน เข้ามาเบียดบังงบประมาณหลวงเข้ากระเป๋าของตนและพวกพ้อง คนที่ไม่ดี สามารถโกหกหน้าด้านๆแบบไม่มีหิริโอตตัปปะ ไม่มีความเลวอะไรอื่นอีกที่ทำไม่ได้ เข้ามาในระบอบนี้แยะมาก

ทุกอย่างมีเหตุปัจจัย ผมไม่อยากให้จิตผมมันดิ้นไปมาก แม้แต่ข่าวเรื่องพวกเขมรพมารุกล้ำชายแดนก็ตาม พยายามปล่อยวาง ทุกเรื่องเป็นเรื่องชั่วคราว อย่าไปเครียดกับมัน ปล่อยธรรมชาติจัดการ สมดุลย์จะมาเอง ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ

ลิงก์ไปยังเว็บหนังสือใส่ไว้ข้างบน