Thursday, March 30, 2006

เข่าเสื่อม

ดูเหมือนว่า ไลฟสไตล์ที่เคยยกน้ำหนัก และ จ๊อกกิ้งคงจะต้องเปลี่ยนไปเมื่อน้ำหนักตัวแยะขึ้น อายุเร่ิมมากขึ้น เริ่มเจ็บเข่าเป็นครั้งคราว

ปัจจัยที่จะที่ทำให้ โรคเข่าเสื่อมมีอาการมากขึ้นอีกก็ได้แก่ การนั่งขัดสมาธิ การนอนบนพื้นกระดาน เพราะไปกดเข่ามากกว่าปกติ แหม แบบนี้การปฏิบัติธรรมก็ลำบากหน่อย

วิธีแก้ให้ทุเลาคือการบริหารกล้ามเนื้อ และ การบริหารข้อเข่า ทุกวัน
และต้องมีการลดน้ำหนัก และ การงดการวิ่ง เพราะการวิ่งน้ำหนักจะกดเข่าเป็น ๕ เท่า ของปรกติ

อีกอย่างผมไปซื้อผ้ายืดสำหรับสวมรัดข้อหัวเข่าก็แก้ได้ สองวันก็หายเจ็บ

การออกกำลังกาย เพื่อนผมคนหนึ่งบอกว่าเขาใช้วิธีปั่นจักรยานอยู่กับที่ และแนะนำให้เอาบ้าง แต่เพื่อนอีกคนบอกว่าไม่เวอร์กหรอก เพราะปั่นอย่างมากสองอาทิตย์ก็เลิกแล้ว เสียเงินแพงเปล่าๆ ตกลงผมเลยยังไม่ซื้อ

Wednesday, March 29, 2006

ทำไงจะสู้สินค้าราคาถูกจากต่างประเทศได้

อ่านข่าวเจอที่สัมภาษณ์ชาวสวนผลไม้่ไทยที่ต้องเจ๊ง ราคาผลไม้ตกต่ำแล้วก็สงสาร เป็นเพราะผลกระทบจากเอฟทีเอ ไทยกับจีน ความจริงก่อนหน้านี้ ถ้าผมมีโอกาสเดินตลาดนัด เจอผลไม้ไทยก็จะซื้อเยอะๆมากินอยู่แล้ว อย่างเงาะเนี่ยซื้อทีก็อย่างน้อยสาม ก.ก.

ปัญหาที่เห็นว่าบ้านเราขาดคือ ขาดการให้การศึกษาประชาชนทั่วไป เรื่องการรณรงค์ช่วยกันกินช่วยกันซื้อของไทย และต้องสอนต้ังแต่ในโรงเรียนประถม ให้มีค่านิยมที่ช่วยซื้อของในท้องถิ่น ให้เงินหมุนอยู่ในสังคมมากๆ

อีกอย่างก็เรื่องคุณภาพ สินค้าไทยต้องสู้ด้วยคุณภาพเท่านั้น สินค้าถูกๆเช่นจากจีนเข้ามาตีตลาดด้วยราคาเป็นหลัก คุณภาพยังไม่ดีนัก สินค้่าไทยเราต้องเอาคุณภาพที่ดีเข้าสู้ และเอาชื่ีอแบรนด์ไทยที่เชื่อถือได้เข้าไปสู้ สู้ด้วย positioning ทางการตลาด สู้ด้วยความสนับสนุนของคนในสังคม แต่ก็ต้องอาศัยการให้การศึกษา การประชาสัมพันธ์ การรณรงค์

ผมมีความรู้สึกในใจว่า การที่รัฐบาล ทรท. ไม่ได้นำเรื่องเอฟทีเอ เข้าสภา ทั้งที่ทำได้ อาจจะมีเจตนาที่ดีแฝงอยู่ คือนอกจะเร็วสมใจพ่อค้าในวงการรัฐบาลแล้ว ในอนาคตหากเกิดผลเสียหายมาก รัฐบาลในอนาคตก็อาจให้รัฐสภายกเลิกเอฟทีเอ ก็น่าจะได้ เพราะรัฐสภาไม่เคยให้ความเห็นชอบมาก่อน แต่เรื่องนี้เกี่ยวกับมหาอำนาจก็ทำยากหน่อย

ยกตัวอย่างเรื่องสิทธิประโยชน์บริษัทอเมริกันในประเทศไทย ที่รัฐบาลไทยยุคถนอมไปให้เขาไว้ ให้มีสิทธิเท่าเทียมบริษัทคนไทยทุกประการ แล้วตอนนี้พอใครไปพูดถึง ตอนจะทำเอฟทีเอกับเขา คนของสถานฑูตอเมริกันก็เตยให้สัมภาษณ์มาทำนองว่า สิทธิที่เป็นของให้ไปแล้วก็อย่าไปพูดถึงมันอีก เข้าทำนองอ้อยเข้าปากช้างไปแล้ว จะไปเอาออกมาได้อย่างไร ใครจะกล้า

Sunday, March 26, 2006

แบ้คแพ็คจากนกแอร์


ไปซื้อเป้มาจากบนเครื่อง Nok Air สีสวยดี ราคาไม่แพงนัก 360 บาท ถูกกว่า backpack ของต่างประเทศที่มีขนาดเท่าๆกันที่ราคาใบละสองพันบาท ที่สำคัญคือขนาดใหญ่พอจะใส่ laptop ขนาด 15" ได้ ข้างในเป็นผ้ายางกันน้ำได้ ฝนตกก็ปลอดภัย ถ้าไปดูตามห้าง แบ้คแพ็คไทยส่วนมากมีขนาดเล็กกว่านี้

อย่างไรก็ดี เนื่องจากไม่มีโฟมกันกระแทก ผมเลยต้องใช้ซองกันกระแทกสำหรับใส่คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปขนาด 15" ของ Dicota ของสิงคโปร์ ราคา 700 บาทไว้ข้างใน (ซื้อได้ที่สนามบินชางอี)

Friday, March 24, 2006

ภูเก็ต เมืองของต่างชาติ


แวะไปเที่ยวภูเก็ตมา หลังจากไม่ได้ไปมานานหลายปี ความรู้สึกเปลี่ยนไป รู้สึกว่าเพิ่งเห็นเมืองไทยในมุมมองใหม่ ได้เห็นชัดๆว่า
ต่างชาติเข้ามากว้านซื้อที่ดินริมทะเลไปแยะ ทั้งที่มาสร้างเป็นโรงแรม และมาสร้างบ้านเรือนไว้พักผ่อน
ขณะที่กรุงเทพฯร้อนมาก ภูเก็ตเย็นสบาย และช่วงนี้ฝนตกทุกวัน

วิธีทำธุรกิจของต่างชาติ คือเอาเงินชาวบ้านไปใช้

พ่อค้่าสิงคโปร์นี่ฉลาดจริงๆ ใช้เงินชาวบ้านเอาไปหมุน เอาเงินในปัจจุบันไปแลกกับสัญญาเชิงฝันหวานในอนาคต และในราคาที่เขากำหนดขึ้นตามอำเพอใจ

ลองดูสถานการณ์ทำนองนี้แล้วคิดดูสิว่าใครจะตัดสินใจอย่างไร
สมมุติว่าถ้ามีบริษัทใหญ่น่าเชื่อถือมาเสนอกับเราว่า เขามีรถยนต์หรูราคาคันละหลายล้านบาทเอาหมุนเวียนให้ไว้บริการสมาชิก เรามีสิทธิใช่รถได้ฟรี ๗ วันเต็มในช่วงเวลาแต่ช่วงๆละสองปี ไปเรื่อยๆ และเรามีสิทธิเป็นสมาชิกไปจนถึง ๒๕ ปี โดยจ่ายเงินตอนนี้เลย ๓ แสนบาท (หรือดาวน์ ๒๕ เปอร์เซ็นของยอดนี้ แล้วผ่อนต่อไปอีกเดือนละ ๗ พันกว่าบาทไปอีก ๓ ปีเต็ม) เราควรจะซื้อสิทธินั้นไหม
ถ้า ๗ วันต่อสองปีเราไม่พอ จะเช่ารถนั้นเพิ่มก็ได้ จะได้ลดราคาค่าเช่ารายวันลง ๓๐ เปอร์เซ็นต์จากราคาเต็ม และหากว่าเราไปต่างประเทศยังมีสิทธิได้ลดราคาค่าเช่ารถในต่างประเทศทั่วโลกจากบริษัทในสมาคมรถเช่าอีกกว่าสองพันแห่งอีกด้วย

ข้ออ้างของบริษัทที่มาเสนอขายคึอว่า ถ้าเราจะไปเสียเงินเช่ารถแบบนี้ทุกๆปี ปีละสามสี่วัน จากราคาค่าเช่านั้นรวมกันแล้วสู้มาซื้อสมาชิกภาพไม่ได้
และเขาพยายามจะปิดการขายให้เราตกลงรูดบัตรเครดิตวางเงินมัดจำในทันที ภายใน ๑ ชม. โดยหลอกว่าถ้าตกลงเลยจะลดราคาให้ จาก ๔ แสนบาทเหลือ ๓ แสนบาท เราจะตกลงไหม (ถ้าคนจิตไม่โลภก็จะรู้ว่าเนี่ยเป็นละครแหกตา ราคาเว่อร์ๆ แล้วก็หลอกว่าลดให้)

ประเด็นที่น่าสนใจคือ ถ้าตกหลุมไป เงิน ๓ แสนนั้นซื้อกรรมสิทธิไม่ได้ ได้แต่สิทธิใช้่งาน นอกจากนี้เรายังต้องมีภาระเสียค่าบำรุงรักษารายปีอีกปีละ ๕ พันกว่าบาทอีกด้วย ไม่ว่าเราจะใช้รถหรือไม่
ในทางตรงข้าม ต่อให้เราไม่ได้เป็นสมาชิก เราก็เอาเงินนี้ไปเช่ารถใช้เป็นบางปีหรือเช่าทุกปีก็ยังได้ ราคาไม่ค่อยแตกต่างกันมาก

อีกแง่หนึ่งคือ คนที่จะซื้อคือเรานั้นจะต้องเอาเงินสดตอนนี้ไปซื่้อโอกาสอนาคต โดยเชื่อใจบริษัท ต้องเอาเงินของเราไปให้บริษัทที่เราไม่่ใช่เจ้าของใช้ก่อน และเราก็จะไม่ได้ที่สถานะเป็นเจ้าหนี้บริษัทด้วย หากว่าบริษัทเลิกกิจการไป หรือเปลี่ยนเจ้าของเราก็อาจสูญเปล่า
แถมว่าถ้าเราเอาเงินก้อนนี้่ไปหาดอกผล หรือลงทุน ก็ยังจะได้ผลตอบแทนมากกว่าส่วนลดที่บริษัทนั้น

มาวิเคราะห์ดูดีๆ โมเดลธุรกิจของบริษัทนี้คือ ถ้่่าบริษัทนั้นสามารถสามารถหาสมาชิกได้สัก 50 คนก็จะได้เงิน 15 ล้าน เฉลี่ยแล้วเอาไปซื้่อรถได้สามคัน ปีหนึ่งมี 52 สัปดาห์ สองปีก็ 104 สัปดาห์ เผื่อรถเข้าอู่ซ่อมบำรุงด้วยสักสองสามสัปดาห์ต่อปี ก็ยังมีเวลารวมราว 3 x 100 = 300 สัปดาห์-คัน ก็เอามาหมุนเวียนให้ลูกค้าใช้สบาย แถมยังเอาไปให้คนอื่นเช่าได้อีกเป็นสัดส่วนที่แยะกว่าอีกด้วย (ซึ่งเขาอ้างว่าให้ลูกค้าภายนอกเช่าในราคาเต็ม แต่จริงๆแล้วเราไม่รู้หรอกว่า ราคาที่เขามากล่าวอ้างเพื่อขายสมาชิกภาพนั้นโอเวอร์ไปแค่ไหน) เขากำไรเห็นๆ ได้แยะมาก แถมบริษัทยังเป็นเจ้าของทรัพย์สิน หากเลิกกิจการก็ยังขายสินทรัพย์ไปได้เงินอีก

เอาละ คราวนี้เปลี่ยนเรื่องสมมุติกลับมาเป็นเรื่องจริงบ้าง โดยเปลี่ยนแค่ตัวสินค้าจากรถยนต์หรู เป็นห้องพักโรงแรมห้าดาวชายทะเลแทน อย่างอื่นคงเดิมทุกประการรวมท้ังจำนวนเงิน และความจริงที่ต่างไปก็คือ ราคาที่ดินและอาคารนั้นมีแต่เพิ่มขี้น ไม่มีลดลง แต่รถยนต์น่ะมีแต่เสื่อมราคาลง

เห็นฝีมือเสี่ยเมืองสิงห์โตหรือยัง ผ่องถ่ายเอาเงินจากกระเป๋าคนไทย(และฝรั่งจำนวนหนึ่ง) ได้เป็นเงินมหาศาล (ไม่ต่ำกว่าร้อยล้านบาท) ไปซื้อและสร้างอสังหาริมทรัพย์ที่ตัวเป็นเจ้าของถือครองในประเทศไทย แล้วมาปล่อยเช่า โดยไม่ต้องกู้แบงก์เสียดอกเบี้ย

แบบนี้แหละเงินคนไทยช่วยเขายึดเมืองไทยไปในตัว

ข่าวเทวรูปพระพรหมที่โรงแรมเอราวัน

เมื่อวานนี้ อ่านเจอจากบางกอกโพสต์ว่าเทวรูปพระพรหม โดนคนวิกลจริตทุบแตก 

ข่าวนี้ก็เป็นการเตือนให้เห็นหลักความจริงที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนไว้เรื่อง ไตรลักษณ์ คือ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา

ขนาดเทวรูปของพรหม ก็ยังโดนทุบพังได้ในวันหนี่ง ไม่ได้อยู่ยืนยงเป็นพันๆปี หรือตลอดไป

ผมดูแล้วก็รู้สึกสะท้อนใจนิดๆว่า คนไทยจำนวนมากขนาดเป็นชาวพุทธก็ไม่รู้หลักอภิธรรมของพุทธศาสนาให้เข้าใจ 

Saturday, March 18, 2006

Thai Tax online

Deadline of personal income tax filing in Thailand is the end of March.  Recently, I just submitted the tax form online at the Revenue Department 's website:-
http://www.rd.go.th/

At first I was a bit worried but Mac 's Safari browser could be used without any problem. Looks like their server uses JSP.

I heard from my friend that an excessive tax money withheld would be refuned by a check mailed within 2 weeks after the filing. Let's see how it will turn out for me.

(Note added a week later: I received a refund check in the mail within 7 days after my online filing. Pretty efficient.)

Another memorable picture at Three Pagodas Pass


This is another picture taken in November 2004 at the Thai-Burma border. The Myanma flag can be seen in the background.

I had been fascinated by the Three Pagados Pass in Thai history of war between Hongsawadee and Ayutthaya that I wished since my school-childhood to go there.

And that 's when my BMW hit a bump and had a problem with broken engine oil pan underneath and it had to be taken out and welded in a foreign country (beyond that flag). :-)  It 's a big joke among my friends that I had to "have a BMW fixed in Burma". (In reality, it is fixed in Thailand by Thai mechanics, but there was no gas-torch in the village that could weld aluminium alloy so it had to be removed and taken across the border to weld there.)  I still remember the Thai villagers' kindness and hospitality.
To conclude the story, after coming to Bangkok, I eventually decided to replace that welded pan a few months later anyway. That incident reminded me that I should consider buying a 4WD pickup or a SUV for driving around the country.

Sunset beyond Thailand


This is a memorable which picture I took near the Three Pagodas Pass in Kanchanaburi in November 2004, shortly before I left.  Since the location is only about 1 km from the Thai-Burma border, the distant view of sunset is apparently beyond the Thai border.  It is among my pictures taken at most western spot in Thailand.

Wednesday, March 08, 2006

Thai CD library ?

วันนี้ไปรื้อ CD ที่คิดว่าไม่ต้องการ หรือไม่ใช้แน่ๆทิ้งไปบ้าง ก็เลยได้คิดว่า คนทิ้งซีดีที่ไม่ใช้กันแยะ ไม่รู้ว่า หอสมุดแห่งชาติไทยจะเก็บซีดีไว้บ้างไหมหนอ ผมหมายถึงเก็บอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ผมเดาว่าคงยังไม่ ถ้าเป็นดังคาด ในอนาคตใครจะหา software archive เก่าๆ หรือ เอกสารดิจิตอลที่แจกไปแล้ว (อย่างเช่นรายงานประจำปีของบริษัทใหญ่ๆเดี๋ยวนี้ก็แจกเป็นซีดีเพื่อลดรายจ่ายค่าพิมพ์หนังสือเป็นแสนๆเล่ม เซฟได้แยะ) คงหาได้ยาก

Monday, March 06, 2006

Qos of True's broadband in Thailand as judged from VDO streaming 

ปกติผมไม่เคยนึกอยากดูวีิิดิโอสรีมมิงผ่านเว็บ เพ่ิงเมื่อวานเปิดดูการถ่ายทอดของ  ASTV เป็นเรื่องการชุมนุมที่สนามหลวงกับการเดินมาประท้วงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก่อนไปต่อยังทำเนียบ นับเป็นครั้งแรก ก็ฟังเพลินดี ดูอยู่หลายชั่วโมงตอนดึกที่บ้าน แต่ภาพเล็กมาก ขนาดติดบรอดแบนด์เซอร์วิส 256 Mbps แต่เอาเข้าจริงก็รับได้แค่แบนด์วิธ 56K เท่านั้นเอง แสดงว่า QoS ของ True ยังไม่ดีเท่าไร 

My 11 years old daughter and a laptop

Now it is summer vacation time and she started to have some free time on week days so she 's taken full possession of my old Atec Vegus Athlon (Windows ME) laptop, the Toaster as I used to call it.  I had installed 2 Barbie games for her in it, but later she installed 4 others herself without anyone's supervision. Installation 's not that difficult but I think it 's amazing that the kids in this generation could do a lot more things than grownups might imagine. I told her that in the next few years when she is in high school, I can get her a new laptop of her choice (or give her this current PowerBook if I happen to buy a new one then). I think I 'll teach her Unix commands and Perl (or Python) as well.

Saturday, March 04, 2006

กูเกิ้ลเอร์ธ Thai Google Earth

ไปดาวน์โหลดข้อมูลที่คนปักหมุดที่ต่างๆในประเทศไทยมาไว้ดู เริ่มมีีหลายหมุดน่าสนใจ

http://www.thaigoogleearth.com/index.php

Friday, March 03, 2006

My laptop costed an equivalent of 3.27 tonnes of grade A1 Thai jasmine rice

Pondering about various things, I eventually came to calculate how much my Mac PowerBook G4 that I bought over 3 months ago would cost Thailand's foreign exchange, in term of rice export. Since I have no idea about the price that that Thai rice dealers sold rice to overseas merchants, I use a Thailand's supermarket price for the grade A1 that I usually bought, each costing about 130 Baht per bag of 5 kg.  Converting the 85,000 Baht educational price I paid (if I remember correctly), that amounted to about 3.27 tonnes of jasmine rice (equivalent to my extended-family's consumption for 27 years). 

From that figure, now I can also see how much a foreign car would worth, a few hundred years' consumption of rice for my family.

สมองแก่ตัว

เคยอ่านเจอว่า คนที่อายุเลยยี่สิบไปแล้ว เซลล์ประสาทในสมองหรือนิวรอนจะตายไปเฉลี่ยอยู่ราวๆ 2% ทุกๆสิบปี ใครที่อายุราว ๕๐ ก็คงหายไปแล้ว 6% เทียบกับหนุ่มสาว

อันนี้เป็นเรื่องของสังขาร

แต่ว่ากันว่า เข้าสมาธิทุกวันจะช่วยได้

อีกอย่างก็อาจจะอัดพวกไวตามินเช่น ซี หรือ อี ไว้เป็นประจำ ก็คงชะลอได้บ้าง และก็เห็นว่า กินกาแฟประจำก็ช่วยได้

วันนี้ไม่มีอะไร รู้สึกรำคาญนิดๆที่บางทีนึกอะไรไม่ออก โชคดีที่ปลงอนิจจังได้ว่าเป็นเรื่องของไตรลักษณ์ และ
ที่แม็๋คก็มี spot light และมี Google ไว้บริการบนอินเทอร์เน็ต ช่วยค้นอะไรได้

Thursday, March 02, 2006

Thai Grid 's officially launched

March 1, 2006, Thai Grid 's officially started.

ราคาค่า โดเมนเนม ในกลุ่ม dot com และ dot net จะขึ้นราคา

สงสัยว่าต่อไป ใครจะจดทะเบียน domain names จะต้องหันไปใช้พวก dot org หรือ dot info กันมากขึ้นแล้ว เพราะข่าวออกมาเช้านี้ว่า VeriSign ได้รับอนุญาคจาก ICANN ให้ขึ้นราคาได้ปีละ 7-10% สี่ครั้งในกรอบ ๖ ปีจากนี้ไป (ส่วนอื่นยังไม่ขึ้น)

สำหรับคนไทย ถ้่าจะให้ไปใช้ dot co dot th หรือ dot or dot th น่ะหรือ ยุ่งยากเปล่าๆ เมืองไทยทำอะไรชอบเอาระเบียบราชการเข้าไปผูก แพงอีกต่างหาก

Wednesday, March 01, 2006

แม็ค มินิ ใหม่ จาก แอปเปิ้ล

เปิดตัววันวานนี้เอง แม็คมินิ น่าใช้ ชนิดซีพียู คอร์ดูอัล จากอินเทล ราคาไม่แพง สูงสุด 799 เหรืยญ ฮาร์ดดิสก์ 80 GB จะทำให้คนที่คิดเรื่องราคาเป็นหลักหันมาใช้แม็คมากขึ้น
แต่ถ้าจะซื่อไว้ใช้ที่บ้านนั้น คุยกับเพื่อนคิดว่า iMac 20" core duo น่าจะดีกว่า

ในส่วนตัวผมเองคาดว่าอีกสองปี คอมพิวเตอร์ระดับดีๆ อย่าง PowerBook จะเป็น 4 core และมี บลูเรย์ดีวีดีไดรฟ์ และฮาร์ดดิสน่าจะเป็น 200 GB สำหรับโน้ตบุ้ค จอภาพคงไม่ดีไปกว่านี้แล้ว ขนาดกว้่าง 1440 pixels สำหรับจอ 15" นี้ก็เพ่งจนปวดตาอยู่แล้ว