Friday, April 24, 2009

ผักกระเฉด

ตามข่าวในลิงก์บอกว่า ออสเตรเลียกำลังพยายามกำจัดวัชพืช (pest plant) ชนิดหนึ่งที่ใช้ทำอาหารไทย ชื่อว่า Water mimosa (Neptunia spp.) ซึ่งเป็น nitrogen fixing legume
ดูจากรูปผมคาดว่าน่าจะเป็นผักกะเฉด ที่หลายคนชอบกินผัดผักกระเฉดไฟแดง (แต่ยังไม่ได้เช็ด)

เขาบอกว่า พืชน้ำชนิดนี้ปล่อยไนโตรเจนลงไปในแหล่งน้ำ ทำให้เกิดการเบ่งบานของสาหร่ายต่างๆ และไปเป็นอาหารของวัชพืชน้ำอื่นๆ เช่น ผักตบชวา (water hyacinth) และก็ water lettuce และ salvinia (ไม่รู้ว่าอะไร ยังขี้เกียจไปค้นหนังสือของ ศ. ดร. เต็ม ที่อยู่ในตู้ใดตู้หนึ่งที่แต่ละตู้อัดแน่นไปด้วยหนังสือสารพัดที่ซื้อหามา แต่ก็อ่านมั่งไม่ได้อ่านมั่ง)

ก็เป็นความรู้ใหม่ เลยโพสต์เก็บไว้

Wednesday, April 22, 2009

ร้อนและแล้ง แก้อย่างไร

ขับรถไปอุบลคราวนี้ ได้เห็นว่าที่อุบลไม่ค่อนร้อนเท่าไร แต่จังหวัดระหว่างทางจะร้อนกว่า แล้งกว่า เพราะป่าแทบไม่เหลือ กลายเป็นที่นาไปหมด แต่ไม่มีน้ำในหน้าแล้งและหน้าร้อน ก็ทำอะไรไม่ได้เป็นระยะเวลานาน ทุ่งหญ้าแห้งเป็นสีน้ำตาล วัวควายก็ไม่มี ถ้ามีก็คงไม่ออกมากินฟางหญ้าแห้งๆ

ผมมาคิดว่า ถ้าเปลี่ยนผืนนาสุดลูกหูลูกตาในจังหวัดอีสาณเหล่านั้น มาเป็นไร่นาสวนประสม ตามแบบพระราชดำริ ทฤษฎีใหม่ เสียให้หมดในวันนี้ ก็อาจจะแก้ปัญหาแล้งซ้ำซากได้ เพราะพื้นที่บางส่วนที่ทำสวนและปลูกไม้ยืนต้นมากขึ้น ก็จะช่วยเก็บความชื้นให้กับท้องที่ได้มากขึ้น ลดการระเหยของน้ำจากผิวดิน และที่สำคัญ โลกกำลังร้อนขึ้น แล้งมากขึ้น ในอนาคตมันจะยิ่งเลวร้ายไปกว่านี้ถ้่าไม่ทำ

โลกเราเหลือเวลากอบกู้สิ่งแวดล้อมอีกไม่นานนัก เมื่อเทียบกับกรอบเวลาทางธรณีวิทยา คนรุ่นใหม่จะเดือดร้อน และคนรุ่นปัจจุบันหากตายไปและมาเกิดใหม่ก็จะยิ่งประสบกับปัญหาสิ่งแวดล้อมมากไปกว่านี้อีก ก็เขียนไป เอาไว้อ่านเองแหละ เพราะคงไม่มีใครเอาไปทำ ขนาดเป็นพระราชดำริที่ดียิ่งก็ยังไม่ค่อยมีคนทำมากเท่าที่ควร

ไปนอนวัดป่ามา (4)


ได้มีโอกาสไปกราบเรียนขอกัมมัฏฐานจากหลวงพ่อเข็ม สุชีโว ที่กุฎิ ท่านได้เมตตาสอนให้หลายชั่วโมง สรุปบทเรียนได้ว่า
เนื่องจากผมถนัดการนั่งสมาธิแบบอาณาปาณสติ หลวงพ่อจึงแนะให้ให้วิธีของหลวงพ่อ คือรู้สึกลมกระทบที่เพดานปากด้านบน จะรู้สึกเย็นๆ แล้วให้พิจารณาไป ว่ากายมันไม่ใช่ตัวเรา ด้วยประการต่างๆ ไม่ต้องไปเอาฌาน คนเรายึดมั่นในกาย ทำอะไรก็เพื่อกาย อย่างชื่อเสียง ก็ทำเพื่อกาย หรือคนด่า เขาด่ากาย เราไม่ต้องไปสนใจ เขาไม่ได้ด่าจิต ถ้าตัดสักกายทิฏฐิได้ จิตเห็นว่ากายไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา ก็เป็นพระโสดาบันได้
นอกจากนี้ ให้ถามตัวเองว่า จะเอานิพพานจริงหรือไม่ หรือว่ายังตัดอะไรๆไม่ได้ เช่น ครอบครัว ปากว่าอยากได้นิพพาน แต่ว่าจิตมันไม่อยากได้ ก็ไม่ได้
เรารับปากท่านว่า จะไปพิจารณาดู เพราะเท่าที่ผ่านมา ได้แต่ทำสมถะ ไม่ได้คิดพิจารณา กลัวฟุ้งซ่าน แต่การพิจารณาก็จะทำแบบมีสติ หลวงพ่อบอกว่าดีแล้ว

ไปนอนวัดป่ามา (3)



ในป่ามืดเร็วมาก ไปไหนต้องมีไฟฉายติดมือไปด้วย หลังทุ่มหนึ่งจะมองทางไม่ค่อยเห็น หลังสองทุ่มจะมืดสนิทถ้าไม่มีพระจันทร์ ผมไปนอนคนเดียวในป่าที่มืดตึ๊ดตื่อ (ก่อนหน้านั้น ที่เคยไปวัดหลวงพ่อจรัลเมื่อสิบปีก่อนราวสามครั้งก็เป็นวัดบ้าน และคนเจ็ดร้อยคนไปปฏิบัติธรรมแน่นไปหมดที่สิงห์บุรีจึงไม่เงียบเหงานัก) แต่ที่ป่าในวัดที่นาจะหลวยนี้ก็ไม่น่ากลัวเพราะอยู่ในรั้วอิฐบล๊อกรอบวัด ที่มีบริเวณราวสองสามร้อยไร่ ถ้าจะกลัวก็อาจจะแต่อมนุษย์ หรืองู หรือยุงกัด มากกว่า

ไปอยู่กุฏิก็จับลมหายใจ ทำอาณาปานสติไปเรื่อยๆ พร้อมกับดูจิต

ตั้งแต่เย็นๆแล้ว มีเสียงแปลกๆที่ไม่เคยได้ยินในเมือง พวกจักจั่นเริ่มส่งเสียง พอหกโมงเย็นก็มี แมลงบ้าอะไรก็ไม่รู้เสียงเสียดสีปีกมันแหลมมากอย่างกับเสียงแตร เป่าโน้ตเสียงสูงมาก และ ลากเสียงยาวกว่าหวูดรถไฟอีก ฟังเหมือนมันมาเป่าอยู่ใกล้ๆตัวเรานี่เอง บางช่วงก็นึกด่าแมลงว่า มันก็มีตัณหาเหมือนคนแฮะ ขยับปีกทำเสียงเรียกหาคู่เป็นนาน พอเจอกันแล้ว ค่ำๆหน่อย ผสมพันธุ์เสร็จก็เงียบกริบ ป่าก็เงียบลง เสียงนกก็ค่อยๆเงียบลง

ตกดึก บางทีได้ยินเสียงคล้ายคนเดินบนใบไม้แห้งดังกรอบแกรบ ตัวสัตว์นั่นเอง แต่จิตเราก็หวาดระแวง บางทีก็เสียงเคาะบนหลังคา คงเป็นพวกสัตว์เคาะไล่ตัวแมลงออกมาจะได้กิน อีกทีก็แมลงตัวใหญ่บินมากระแทกหน้าต่าง เสียงเหมือนคนมาเคาะหน้าต่างหรือหลังคา บางขณะรู้สึกกลัวจนขนลุก แต่ก็มีสติอยู่พอควร โดยรวมแล้วจิตก็ระแวดระวังอยู่เกือบตลอดเวลา แต่เรื่องฟุ้งซ่านก็บ่อยมาก แต่ก็เห็นว่าฟุ้งซ่าน นอนจับลมหายใจไปเรื่อยๆ พอตีสองก็ลุก ตื่นตีสองทุกวัน มันตื่นเอง ไม่อยากนอกต่อ มานั่งสมาธิ และสลับจงกรม

อยู่คนเดียวในป่า รู้สีกว่า คนเรามีอะไรที่เกินต้องการสำหรับการดำรงชีวิตไปมาก แรกเริ่มเลย กลางคืนคนส่วนมากก็เอาแสงไฟเป็นเพื่อน ถ้าไม่มีแสงไฟจะรู้สึกกลัวว่าจะมีภัย กลัวสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตา ถ้าไม่มีแสงไฟตอนกลางคืน คนเราก็ไม่ตาย ดังนั้นแสงไฟจึงไม่ใช่ของจำเป็นในชีวิต แต่ก็ต้องมีไฟฉายไม่งั้นหาของไม่เจอ หรือไม่ก็อาจจะสะดุดของล้มลง

ตอนหัวค่ำมืดสนิท ต้องใช้ไฟฉาย ตอนหลังตีสามไปแล้วจะเริ่มสว่างขึ้นเล็กน้อยเมื่อพระจันทร์ขึ้น และสว่างมากขึ้นจนถึงตีห้า ไก่บางตัวขันตั้งแต่ตีสาม ต่อมาก็ราวตีสี่ ตีห้า พอตีห้าครึ่งพวกนกก็เริ่มตื่น ส่งเสียงเจึ๊ยวจ๊าวกัน ต่อมาก่อนรุ่งพวกจักจั่นก็ส่งเสียงระงมกันอีกรอบหนึ่ง

เห็นวงจรของแสงสว่างค่อยๆมืดลง และจากมืดมิด ค่อยๆสว่างขึ้น ทำให้เห็นว่า โลกก็เป็นอย่างนี้ มีทุกข์แล้วก็สุขสลับกันไป

ไปนอนวัดป่ามา (2)


วันนี้จะโพสต์รายละเอียดเพิ่มเติม

ผมขับรถบีเอ็มไปนาจะหลวย คนเดียว เป็นครั้งแรกที่ไปอุบลราชธานี และเป็นครั้งแรกที่ไปนอนวัดป่่า จากกรุงเทพ ไปทางโคราช แวะสวนน้าชาติที่เชื่อนลำตะคองสักครู่ จากนั้นขับรถต่อไป ก่อนถึงสีคิ้วก็แยกไปทางหลวงสาย ๒๔ มุ่งตะวันออกไปทางเดชอุดม โดยแวะเที่ยวประสาทพนมรุ้ง และปราสาทเมืองต่ำ ที่นางรอง ช่วงแรกเป็นเส้นเป็นทางหลวงแบ่งกลาง ไป ๒ กลับ ๒ แต่จากนางรองเป็นทางเล็ก ไปหนึ่งมาหนึ่ง ต้องรอแซงถ้ามีรถใหญ่ขับช้า ทำให้ขับได้ไม่เร็วนัก ขากลับกลับทางเขาพระวิหาร มาทางกัณทรลักษณ์ ระยะทางเท่ากัน แต่ทางดีกว่า รถน้อยกว่าเล็กน้อย

ขอบ่นนอกเรื่องหน่อยเหอะ ขากลับที่กลับทางนี้ เพราะผมอยากจะแวะเที่ยวเขาพระวิหาร กับ ผามออีแดงเสียหน่อย ที่คนเขาว่าสวยมาก แต่พอไปถึงก็เข้าไปไม่ได้ อุทยานแห่งชาติปิด มีทหารพรานเราเฝ้าไว้ เพราะทหารเขมรมันบุกขึ้นมายึดพื้นที่ประเทศไทยส่วนนี้เอาไว้ ก็เลยรู้สึกเซ็งเล็กน้อยที่ประเทศใหญ่โดนประเทศเล็กกว่ามาระราน แต่ก็เถอะนะ คนไทยเราชีวิตมีค่ามากกว่า ถ้ารบกัน คนไทยตายน่าเสียดายมากกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสมมุติทางโลก ทางธรรมท่านไม่ให้ยึดถืออะไรทั้งนั้น เราก็ต้องปลงไป

ระยะทางเฉพาะไปวัดไม่รวมแวะรายทางก็ 580 กม. ไปกลับก็พันสองร้อยกิโลรวมระยะทางที่แวบไปโน่นนี่ วัดที่เป็นเป้าหมายของการไปทำบุญ และปฏิบัติธรรมในครั้งนี้คือ วัดป่าโนนนิเวศน์ หรือ วัดห้วยซันเหนือ ที่มีหลวงพ่อเข็ม สุชีโว หรือ พระครูสุชีพภาวนานุวัฒน์ เป็นเจ้าอาวาส
ได้ยินมาว่า พรรษาที่ท่านบวชมาราว ๔๓ พรรษา และท่านอยู่ในวัยหกสิบเศษ และตามที่เคยได้กราบท่านมาเมื่อปีที่แล้ว ได้สัมผัสกับความเมตตาจากท่าน จึงอยากไปร่วมงาน ทักษิณานุปทาน ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีของวัดนี้

Monday, April 20, 2009

วีดิโอคลิปน่าดู

อาจารย์อาจอง และ คุณตังตฤณ พูด น่าฟัง ลิงก์ข้างบนครับ เรื่องภัยพิบัติ โลกร้อน แผ่นดินไหว น้ำท่วม สีนามิ อะไรๆที่คนอยากรู้

ไปนอนวัดป่ามา



ได้ไปนอนกุฏิเดี่ยวกลางป่า ที่โดดเดี่ยวไกลลึกเข้าไป ยามค่ำนั้นมืดตึ๊ดตื่อ (มีไฟฟ้าให้ใช้ แต่ผมไม่เปิด เพราะต้องการจะดูใจตัวเองว่าเป็นยังไง) ก็เป็นการเรียนรู้จิตตัวเองได้เป็นอย่างดี ต้องเผชิญกับเสียงประหลาดๆต่างๆที่บางทีก็ไม่เคยได้ยิน ได้เห็นจิตตัวเองใจที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทั้งคืน (เป็นทุกขัง อนิจจัง) จิตบางครั้งก็ขนลุกตื่นกลัวขึ้นมาเอง (ควบคุมไม่ได้ เป็นอนัตตา) บางครั้งก็เงียบสงบ

ผมคิดว่า การได้ได้ขับ ๘ ถึง ๙ ชั่วโมง มาเข้ากัมมัฏฐาน ครั้งนี้ เป็นเสมืือนการมารีเซ็ทสมองผมได้เป็นอย่างดี ได้ตัดความวุ่นวาย ที่เมื่ออยู่ในเมืองนั้นไม่ค่อยได้เห็น ไปได้เห็นส่วนเกินในชีวิตที่ไม่เคยได้เห็น (ได้เห็นว่า แม้แต่แสงไฟฟ้่าที่คนทั่วไปเอาเป็นที่พี่งแก้ความกลัวในยามค่ำคืน ก็เป็นส่วนเกิน ไม่จำเป็นสำหรับชีวิตนักในยามกลางคืน)

(เป็นส่วนหนึ่งของข้อความที่ผมไปโพสต์ที่อื่นมาแล้ว)

Thursday, April 09, 2009

เล็คเชอร์ ใน ไอทูน

ข่าวจากเว็บลิงก์ข้างบนน่าสนใจ เพราะเขาบอกว่า สแตนฟอร์ด กำลังจะเปิดให้คนไปดาวน์โหลดวีดิโอคำบรรยายวิชา การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์สำหรับไอโฟน ผ่าน ไอทูนสโตร์

นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของสถาบันชั้นนำของโลกหลายๆแห่งที่มีการเปิดเนื้อหาบางวิชาสู่สาธารณชนของโลก โดยใช้ พ็อดแคสต์ มาในรอบสองสามปีที่ผ่านมา อันที่จริง นักวิชาการไทยบางคนพูดเรื่องพ็อดแคสต์ (หรือจะสะกดว่า พ็อดคาสต์ ก็ตาม) มาสองสามปีเหมือนกัน แต่ดูๆ ก็ไม่ค่อยมีการทำพ็อดแคสต์เล็คเชอร์นักในเมืองไทย

พูดเรื่องนี้แล้ว ผมก็หวังว่ามหาวิทยาลัยไทยจะใจกว้างกันอย่างฝรั่งบ้าง ผมรู้สึกเอาเองว่า ตอนนี้แนวคิดในมหาวิทยาลัยบ้านเรากำลังตามก้นฝรั่งอยู่สองทศวรรษน่าจะได้ เพราะมัวไปพูดกันเรื่อง ไอพี หรือ intellectual property ที่มหาวิทยาลัยฝรั่งเน้นกันมากหลายทศวรรษก่อน แต่ตอนนี้เขาเริ่มใจกว้างมากขึ้น (อาจจะเข้าทำนองเป็นเศรษฐีแล้วเลยใจบุญก็ได้) บ้านเราไม่ใจกว้างเรื่อง open source / open content กัน คงเป็นเพราะรู้สึกว่ายังไม่ค่อยมีไอพี ก็เลยอยากจะตุนกันไว้ก่อน แต่ผมคิดว่าตุนไอพีไว้มากเกินไปจะทำให้สังคมไทยโดยรวมเสียประโยชน์ ผมคิดว่าถ้าเห็นแก่ประโยชน์การศึกษาของเยาวชนกัน เราก็น่าจะทำพวก open content กันมากขึ้น อย่างกรณีพ๊อดแคสต์เล็คเชอร์นี่ วัยรุ่นส่วนมากก็มีเครื่องเล่น mp3 หรือโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆราคาไม่แพงนักก็เล่นได้ และเล่นวีดิโอได้ทั้งนั้น (รวมทั้งของผมด้วย) ก็จะเป็นประโยชน์กับพวกเขา

อีกเรื่องที่อยากคอมเม็นต์ก็คือ เรื่องการพัฒนาโปรแกรมสำหรับไอโฟนเป็นเรื่องที่ฮ็อตมากในต่างประเทศตอนนี้ โปรแรมเมอร์ที่หันมาพัฒนาบนไอโฟนบางคนประสบความสำเร็จมาก

Wednesday, April 08, 2009

บทความ ติวการใช้ยูนิกส์ เป็นภาษาไทย

ใส่ลิงก์ไว้ เผื่อคนสนใจ

----------
....
หนึ่งเดีือนผ่านไป ขออัพเดทหน่อย
ขณะนี้โพสต์สั้นๆ บรรทัดเดียวนี้อยู่บนกูเกิลอันดับหนี่งถ้าค้นหาด้วยคำที่อยู่ในหัวเรื่อง
ส่วนบทความที่ลิงก์ไปน่ะเป็นอันดับสอง

ก็ดี คิดว่าตอนนี้เด็กๆที่ค้นหา คงจะได้ประโยชน์ แม้ว่าบทความนั้นมันจะอัดแน่นไปหน่อยก็ตาม หวังว่าคนเขียนคงมีเวลาอัพเดท เพราะยังมีพิมพ์ผิดอยู่บ้างเล็กน้อย แต่เห็นว่าตอนนี้ไม่มีเวลา

Monday, April 06, 2009

โลกร้อน

จากข่าวที่ลิงก์ข้างบน บางโมเดลบอกว่า ขั้วโลกเหนือจะไม่มีน้ำแข็งในอีก ๓๒ ปีข้างหน้า บางโมเดลก็บอกว่าเพียง ๑๑​ปี
โดยทั่วไปนักวิทยาศาสตร์มักจะคอนเซอร์เวทีฟ ดังนั้น ผมมีแนวโน้มจะเชื่อโมเดลที่บอกว่าแค่ ๑๑ ปีมากกว่่า

แต่ที่น่ากังวลไม่ใช่ข่าวนี้ แต่เป็นข่าวอื่น คือข่าวที่รายงานว่า หิ้งน้ำแข็งขั้วโลกใต้ชื่อต่างๆทะยอยละลายเร็วมาก ตัวนี้แหละที่น่ากังวล เพราะถ้าน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้ละลายหมด หรือเป็นส่วนมาก ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นมาก สูงขึ้นหลายสิบเมตร ถ้าเป็นแบบนั้น จะสร้างเขื่อนกั้นอ่าวไทยตามข้อเสนอของคุณสมิทธิ์ก็ไม่น่าจะเวอร์ค (บ้านเรายังต้องกังวลเรื่องน้ำจากหิมาลัยด้วยนะ) แต่ตอนนั้นผมคงไม่อยู่แล้ว ลูกหลานก็ต้องขวนขวายกันเองในอนาคต