Sunday, December 31, 2006

พระพุทธคุณคุ้มครอง

โพสต์นี้คงเป็นโพสต์สุดท้ายของปี พ.ศ. ๒๕๔๙ สำหรับบล๊อกนี้
เพื่อความเป็นสิริมงคล จึงใส่รูปหลวงพ่อ พระพุทธชินสีห์ ที่วัดบวรนิเวศน์วิหาร กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นมงคลแก่ข้าพเจ้าและเพื่อนๆที่ติดตามอ่าน ขอให้พระพุทธคุณคุ้มครองผู้ปฏิบัติธรรม ผู้มีคุณธรรม จงปลอดภัยจากสรรพภยันตรายทั้งปวง
ขอให้ความจำเริญในธรรมจงมีแก่ข้าพเจ้า สมความตั้งใจด้วยเทอญ

สิ้นปี ๒๕๔๙

สิ้นปีแล้ว เร็วเหลือเกิน ในส่วนตัวแล้ว เรื่องงานอะไรๆมันคาราคาซังอยู่แยะ อย่างไรเสียก็โพสต์รูปโต๊ะโล่งๆไว้เป็นกำลังใจ ว่าต่อจากนี้ไป โต๊ะผมที่บ้านจะเป็นอย่างนี้ นับจากนี้ไป จะได้ทำงานด้วยความสุขใจ และ มุ่งเป้าอย่างไม่วอกแว่ก

Bangkok residents are stirred up today

Today's small explosions in Bangkok is like a wake up call for Thai police nation wide. Perhaps they have been too relaxing in the past year. This was either a coordinated attempt by insurgents from the south to stir up Bangkokians a bit to show that they are still relevant, or an attempt by a group affiliated with politicians from former goverment to undermine the present Thai goverment. My businessman friends have been worrying about this for over a year, and this is just an event that will eliminate their fears. Now that what was feared has become a reality, perhaps we the public need to be more vigilant about our neighborhoods, workplaces, and where we go, but lives will go on as usual. Whatever that will happen, we can not control. Bad people will be caught up and punished with their bad karma oneday. This is Buddhist faith.

ทีวีแอลซีดี

แวะไปดูร้านของแซมซุงเมื่อวานที่เซ็นทรัลลาดพร้าว เห็นเขาโชว์ จอ 42" LCD TV ราคา 80,000 (แต่ลดให้สิบบาท) ดูเหมือนจะเป็น high definition จะว่าแพงก็แพง แต่คุณภาพก็สูง แต่ว่าไม่รู้จะใครซื้อมาทำไม เพราะเมืองไทยไม่มี HDTV แล้วใครจะไปซื้อไฮเดฟินิชันดีวีดีมาดูปีละกี่ครั้งกัน
ทืวีชนิดจอแบนแบบซีอาร์ทีตอนนี้ถูกมาก เคยเห็นคนซื้อจากดีพาร์ทเม็นท์สโตร์แยะ บางคนเห็นถูกๆก็ซื้อทีวีจอ 29" ผมว่าสุดจะเปลืองไฟ ไม่รู้ว่าซื้อไปทำอะไรกัน แล้วคนไทยส่วนมากไม่ได้มีคฤหาสน์หลังใหญ่ ซื้อไปไว้ในบ้านห้องเล็กๆ ดูทีวีใกล้มากๆเด็กจะตาถั่วหมด
แบบนี้โดยภาพรวม การใช้พลังงานเมืองไทยมันถึงสูงขึ้นๆ
ผมคาดว่าภายในปีสองปี คาดว่าทีวีชนิดซีอาร์ทีจะหมดไปจากท้องตลาด

Saturday, December 30, 2006

Number of Mac users in Thailand as of 2006

A Mac dealer came over to visit his customers in our office north of Bangkok. I had a brief discussion with him. At one time I asked him how many customers are using Apple 's Mac in Thailand. He said he does not know exactly but it should in in the range of 80,000 people, including those using older G3 systems.
My guess (guesstimate) further is this: assuming that there are about 4 million PC in use today (not counting very old machines that likely are either in storage or recycled) that would be about 2% of the country, which is about half of the estimated 4% worldwide.

อ่านสัมภาษณ์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จากขวัญเรือน Chalermchai 's interview

คนที่บ้านไปซื้อ นิตยสารขวัญเรือน มา ผมไปหยิบพลิกๆดูโดยบังเอิญ เลยเจอสัมภาษณ์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์

อ่านดูแล้วชอบมาก เพราะเขามีลูกบ้าแยะ และใช้ให้เป็นประโยชน์

เขาเป็นคนมีเป้าหมายระยะยาวในชีวิต ล่วงหน้าเป็นสิบๆปี
เขาเป็นคนมุมานะ ทำงานหนัก ยอมอดออม ยอมจน เพื่ออนาคตที่วางไว้
เขาวางแผนการเงินไว้ดีมาก จำได้คร่าวๆ เขาบอกว่า
เขาใช้เองส่วนตัว 10%
เขาให้ครอบครัว 30%
เขาเก็บออม 20%
เขาให้ลูกน้อง 10%
สงสัยทีเหลือเป็นต้นทุน เช่น ค่าวัสดุอุปกรณ์ สี และอาจจะเป็นค่าซ่่อมบ้าน และอาจจะเป็นค่าใช้จ่ายสังคม และทำบุญอีก

เขามีความปราถนาที่จะเป็นศิลปินเยี่ยมที่สุดในเมืองไทย และเป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลก
เขาต้องการจะฝากผลงานไว้ให้แผ่นดินไทย และโลก
เขาฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนา
เขามีบารมี มีลูกน้องแยะ เพราะแบ่งปันมาก

ผมนับถือ และ ศรัทธา ในความมุ่งมั่นของเขา

ผมจะทำได้แบบเขาไหม อาจจะยาก นิสัยมันเสียจนจะเป็นสันดาล พอแก่ตัวขึ้นแล้ว พระท่านเรียกว่าวาสนา

อย่างไรก็ดี ตั้งใจว่า อีกสองสามปีข้างหน้าจะแวะไปวัดร่องขุ่นอีก เพื่อทำบุญร่วมกับเขาอีกครั้งหนึ่ง

Taiwan earthquake and Internet & phone disruption in Asia

Asia 's Internet and international phones (including stock trading) in several countries have been affected since December 28 after a 5.5 Rictor scale earthquakes in Taiwan dirupted underseas cables. Thailand 's Internet went slow from that day. Expected to continue for at least 2-3 more weeks. I could not access some websites. Some Thai companies which use foreign servers could learn a big lessen when their websites could not be accessed (either by the webmaster, editors, or the customers) in Thailand.

Also this is a big reminder for government officials who are planners, and CAT Telecom people, and their clients (mainly ISPs). I understand that all the Internet gateway for Thailand must pass through the monopolic CAT gateways. This has created not only a severe botttle neck but also created an articially high cost for Internet communications for Thailand. Customers have been complaining and this is another complain.

I can also forsee a future problem that if a diaster, say a super storm hit Bangkok and then all the gateways in central Thailand are knocked out. Thailand 's communications would be paralysed. They have not taken advantaged of the distributed network structure of the Internet protocol to decentralize the country 's networks enough.

Is disinformation in advertisement legal in Thailand ?

Recently, I found advertisement of a big Chinese manufacturer of PC in Thailand's English language newspapers, the Bangkok Post, on several occasions. The same advertisement claimed that their computers are of such a good quality and they guarantee no virus can infect them. I found the wording disturbing.
I do not agree with the advertisement. I would call that a public propaganda or disinformation, a falsification, and directly aimed to mislead customers. I strongly believe that PC 's security depends mainly on operating system software. I suppose that disinformed advertisement could be illegal in other countries, but perhaps no one care much about it in Thailand.

สะท้อนมุมมองจากการไปเดินพันธุ์ทิพย์พลาซ่า

วันนี้แวะไปพันธุ์ทิพย์พลาซ่ามา หลังจากไม่ได้ไปมาหลายเดือน ร้านขายซีดีเถื่อนเหลือไม่มาก ราว ๑ ใน ๑๐ ของเดิม แต่ก็ยังไม่หมดไปเสียทีเดียว ที่อยากจะพูดถึงคือที่สังเกตุเห็นได้จากร้านใหญ่ๆสองร้านที่นั่น ร้านใหญ่ๆ หันมาขายของซัพพลายส์มากขึ้น ฮาร์ดแวร์ต่างๆน่าจะขายไม่ค่อยดี เพราะไม่ค่อยมีอะไรตื่นเต้นเท่าไรมากระตุ้นผู้บริโภค ผมว่าคงเป็นเพราะไมโครซอฟต์เลื่อนการออกโอเอสช้าไปหลายปี คนเลยไม่เห็นความจำเป็นของการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ และที่จะออกวิสต้ามาในเร็วๆนี้ ก็คงไม่ทันการเยียวยามากนัก เพราะเป็นมาตราการทางการตลาดมากกว่า ในทางเทคนิคแล้วโอเอสฟังดูผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นแล้วท่าทางไม่ค่อยพร้อมเท่าไร
ในอีกนัยหนึ่ง จะเห็นว่าบริษัทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก (ส่วนมากเป็นไต้หวัน ประกอบในจีนมากกว่า) และบริษัทเทรดดิง ร้านค้า ต่างๆ ขึ้นกับวินโดว์สมากแค่ไหน
อีกเหตุผลหนึ่งก็คงเป็นเพราะคนมีคอมฯและอุปกรณ์ต่างๆกันเกือบทั่วแล้ว ไม่ค่อยมีความต้องการอะไรใหม่ๆมากนัก
หรือไม่ก็เศรษฐกิจในส่วนลึกๆแล้วไม่ได้ดีมากนัก อัตราการเติบโตของจีดีพีไทยไม่ได้สะท้อนการกระจายตัวของเงินในสังคมเท่าไร

Saturday, December 23, 2006

พระวิสุทธิมรรค

วันนี้ไปได้หนังสือดีมาหลายเล่ม จากร้านหนังสือของมหามกุฏราชวิทยาลัย หน้าวัดบวรฯ แต่ที่จะพูดถึงคือ

พระวิสุทธิมรรค เล่มเดียวจบ มหาวงศ์ ชาญบาลี ผู้ชำระและตรวจสอบทาน

ท่านแรกพิมพ์ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๖ คงราวสมัย ร. ๖
ฉบับนี้ตีพิมพ์ใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕ หรือสิบสี่ปีมาแล้ว โดยโรงพิมพ์ธรรมบรรณาคาร ปกแข็ง กระดาษปอนด์ ๘๘๐ หน้า ราคาเพียง ๒๐๐ บาท
เหลืออยู่เพียงสองเล่ม เลยซื้อมาได้ ดีใจ เพราะคัมภีร์นี้ ภาษาบาลี รจนาโดย พระพุทธโฆษาจารย์ อายุตั้งเกือบ ๑๖๐๐ ปี ถือว่าเป็นคัมภีร์ยอดเยี่ยมของพุทธศาสนาเล่มหนึ่ง (คู่กันกับมิลินทปัญหา ที่เคยพูดในบล๊อกนี้มานานแล้ว) เมื่อเจอฉบับแปลไทยสำนวนโบราณๆ ก็อ่านดูด้วยความดีใจไปได้บางส่วน

ความจริงมีอีกสำนวนหนึ่ง เป็นของมหามกุฏราชวิทยาลัย เขาพิมพ์เป็นเล่มปกอ่อน แบ่งเป็นตอนๆ หลายเล่ม ก็น่าอ่านดี แต่ตัดสินใจเอาปกแข็งมา

Thursday, December 21, 2006

ไปซื้อหนังสือมาใหม่ "หลักธรรมในพระไตรปิฎก"

"ธรรมาธิบาย หลักธรรมในพระไตรปิฎก
อธิบายหลักธรรมสำหรับชาวพุทธ นักธรรมชั้นตรี ชั้นโท ชั้นเอก สมบูรณ์แบบ"
เรียบเรียงโดย อาจารย์ปัญญา ใช้บางยาง และ คณะ
สำนักพิมพ์ธรรมสภา และ สถาบันบันลือธรรม
พ.ศ. ๒๕๔๘

เป็นหนังสือปกแข็ง ๖๘๔ หน้า ขนาด ๘ หน้ายก เล่มหนาด้วย ใหญ่ด้วย เป็น tome เลยแหละ
กระดาษปอนด์หนา
ราคา ๖๐๐ บาท ได้ลด ๑๐ เปอร์เซ็นต์ในงาน ธรรมศาสตร์บุ้คแฟร์ ที่ศูนย์รังสิต
สรุปไว้ดีมาก แถมอ้างอิงพระไตรปิฎกต่างๆได้ละเอียดดีมาก
เหมาะสำหรับหนอนหนังสือที่สนใจธรรม และคนที่สนใจอยากสอบนักธรรม ในอนาคต

ยุคนี้คนเลวในสังคมมากขึ้น

ข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยช่วงนี้ มักมีเรื่องเผาโรงเรียนเป็นประจำ ตอนแรกๆก็มีแต่เผาโรงเรียนต่างๆใน ๓ จังหวัดภาคใต้ นอกเหนือจากฆ่าคนบริสุทธิ์ คนก็ว่าไอ้พวกโจรก่อการร้ายเนี่ยมันเลว โผล่มาจากขุมนรกจริงๆ ตอนหลังจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เกิดมีเผาโรงเรียนต่างๆในจังหวัดภาคอื่นๆด้วย เชื่อกันว่าคนทำเป็นลิ่วล้อของนักการเมืองสังกัดพรรครัฐบาลเก่า ก็เลยได้ข้อสรุปว่า ไอ้พวกนี้ก็เลวพอกัน พ่อมันเคยไปบริจาคเงินสร้างโรงเรียนไว้ตั้งแต่สมัยไหนให้มันมาเผาประท้วงได้ เด็กๆไม่มีที่เรียนกันไม่รู้กี่พันคน ดูข่าวแล้วก็เกิดโทสะจริงๆ ผับผ่า

สงสัยต้องสรุปว่า การศึกษาไทยล้มเหลว อีกแล้ว

ในตลาดหุ้นไทยนั้น นักลงทุนยังไม่พัฒนา

ผมยุ่งๆไปหลายวัน ตัดตัวเองจากข่าวสารต่างๆ รวมทั้งเรื่องการเงินการทอง สนใจแต่วิชาการ ก็ปรากฎว่าตกข่าว รู้ทีหลังว่าตลาดหุ้นไทยตกวูบไปแล้วแยะมาก วันต่อมาเด้งขึ้นมาหน่อย วันที่สามวูบลงไปอีก

ผมว่าเมืองไทยมีพวกแมงเม่าเล่นหุ้นมากเกินไป นักลงทุนประเภทซื้อแล้วแช่ เน้นคุณค่า ถือยาวๆมีน้อย
ผมว่าตัวผมอีกสองสามปีผมก็จะเผ่นอยู่แล้ว แต่นั้นมันคนละประเด็นกับที่อยากจะพูดวันนี้

จริงๆแล้ว เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องสมมุติทั้งนั้น (ทางอภิธรรมนั้นของแน่) อย่าง market capitalization เป็นต้น
ผมว่าไม่มีตรรยะเท่าไร ที่เอาความโลภ กับอารมณ์ของคนจำนวนหนึ่งไม่มากนัก แต่ซื้อขายรายวันในวันนั้นๆ เอาค่าไปคูณจำนวนหุ้นทั้งตลาด แล้ว มาใช้เป็นตัวกำหนดดัชนีทางเศรษฐกิจ ในกรณีนี้ก็คือ SET index แล้วคนก็โวยวายว่า มาร์เก็ตแค็ปหายไปหลายแสนล้าน มันเป็นเรื่องสมมุติทั้งเพ จริงๆที่มันหายไปน่ะ มันเป็นเพราะเงินดอลล่าร์สหรัฐอ่อนตัว เพราะไอ้กันมีหนี้ภาครัฐมากเกินตัวต่างหาก

Friday, December 15, 2006

คติสอนจากธรรมบท

อ่านธรรมบท ภาค ๑ ฉบับแปลยกศัพท์ ซื้อมาตั้งนานแล้ว ไม่ค่อยได้อ่าน วันนี้หยิบมาอ่าน ไปเจอตอนท้ายเล่มในเรื่องที่ ๑๔ เทฺวสหายกภิกฺขุวตฺถุ หรือ เรื่องแห่งภิกษุผู้เป็นสหายกันสองรูป ได้คติสอนใจตนเอง

กล่าวโดยสรุปตอนจบก็คือ ในสมัยพุทธกาล มีพระ ๒ รูปเป็นเพื่อนกัน รูปหนึ่ง สังวรณ์ว่าท่านอายุมาก ไม่เรียนปริยัติ แต่ปฏิบัติเลย จนบรรลุพระอรหันต์ ประกอบด้วย ปฏิสัมภิทา (คือมีฤทธิ์) แต่อีกองค์หนึ่ง ท่านไปสนใจศึกษาปริยัติ (ไม่ได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคล) แต่รีบออกไปสอนจนมีลูกศิษย์มากถึงห้าร้อยรูป ที่ต่างก็บรรลุพระอรหันต์กันแต่ท่านอาจารย์เองก็ยังไม่ได้บรรลุ ปรากฏว่า พระพุทธองค์ทรงเปล่งสาธุการกับพระอรหันต์ชราที่ไม่ได้เรียนปริยัตินั้น เปรียบว่าเป็นพุทธบุตรของพระองค์ แต่องค์ที่เป็นอาจารย์ปริยัติและไปเผยแผ่ธรรมะจนมีศิษย์มากมายนั้น ทรงเปรียบเสมือนลูกจ้างเลี้ยงวัว ที่เสมือนหนึ่งพระองค์จ้างมาดูแลฝูงวัว(คือเปรียบด้วยพระศาสนา) ลูกจ้างย่อมไม่มีสิทธิที่จะได้ลิ้มรสเนื้อโค ต่างจากบุตรของพระองค์เท่านั้นที่มีสิทธิได้ลิ้มรส(ดื่มด่ำในพระธรรม)

ผมก็ได้ความคิดว่า เท่าที่ผ่านมา ผมกำลังมุ่งสนใจไปทางปริยัติ แต่หากว่าพอแก่ตัวต่อไป ก็อาจจะเอาตัวไม่รอดก็ได้ ต้องปฏิบัติเป็นหลักจึงจะดี

Thursday, December 14, 2006

Mac dealers in Thailand

I just found a list of Mac dealers in Thailand posted at the website of Khun Rogers. The link is given above for anyone wanting to purchase a Mac to experience a new life on a computer.

I have one additional comment for Thai students or educators, you are eligible for (some) educational discount. But I was told that there is only one of those dealers in the list which is authorized by Apple (Thailand) to give educational discount. Look for Unity Progress in that list.

Tuesday, December 12, 2006

เรื่องของฟอนต์ไทย

วันนี้ได้มีโอกาสเจอคนที่คุ้นเคยกันท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นคนทำฟอนต์ภาษาไทยออกมาเป็นจำนวนมาก ตระกูล UPC ผมเลยยกประเด็นเรื่องการพิมพ์ภาษาบาลีโดยใช้ตัวอักษรไทย ตัวอื่นๆโอเคแล้ว เช่น ฐ ถ้ามีจุดข้างใต้จะเป็น ฐฺ (ฐานหายไป) หรือ ฏ ถ้ามีจุดข้างใต้จะหลบหดขึ้นเป็น ฏฺ แต่ตัวขนาดเล็กจะดูยากนิดหนึ่ง

ที่ยังเหลือปัญหาก็ตรง

กึง กิง กิํ

(หมายเหตุ คำว่า กิง นั้นแปลว่า อะไร (อิอิ ตลกพระ แหละ) )

สังเกตดูคำที่สาม ก ิ ํ เวลาพิมพ์ปรกติ สระอิไม่หลบหยาดน้ำค้าง ซึ่งตามหลักจะต้องหลบ ท่านบอกว่าขนาดก่อนทำก็ปรึกษาท่านเจ้าคุณแล้วนะเนี่ย แต่ผมแย้งว่า ท่านเจ้าคุณก็อาจจะลืมไปก็ได้ แต่แกก็รับปากว่าจะไปแก้ไขฟอนต์ให้สระอิหลบหยาดน้ำค้างให้ในโอกาสหน้า คงได้ตอน OSX 10.5 ออกซะละมัง

ถ้าตัวฟอนต์เล็กจะดูยากหน่อย อย่างผมดูบนจอ 15" ขนาดพิกเซล 1440x960 ก็ตัวเล็กมาก

นี่เป็นเพราะไปเรียนอภิธรรมหรอกก็เลยต้องพิมพ์บาลีในเครื่องแม็ค แล้วก็เจอปัญหานี้

Sunday, December 10, 2006

การลดความดันโลหิตสูง

โรคนึ้เริ่มเป็นกันในคนอายุมากขึ้น เลขสี่สิบไปแล้วต้องระวัง อาหารต้องอย่าไขมันมาก กินผลไม้และผักแยะๆ ลดพวกเนื้อสัตว์ใหญ่ และต้องลดการกินเค็ม อาหารควรเป็นอย่างในรูป

นอกจากนี้ ก็ต้องออกกำลังกายทุกๆวัน หรืออย่างน้อยอาทิตย์ละสามวัน ใครจะใช้วิธีเดินก็ได้ หากเป็นชาวพุทธออกกำลังกายด้วยการเดินก็ดี ถือโอกาสจงกลมเจริญวิปัสสนาไปด้วยเลย ยิงนัดเดียวได้นกสองตัว คือออกกำลังกาย และฝึกจิต

Saturday, December 09, 2006

ไปซื้อ แมกนีเซียม เม็ด มารับประทาน

แวะไปศูนย์หนังสือจุฬาฯ มาเมื่อวันก่อน ไม่ได้อะไรติดมือมา แต่ไปพลิกๆดูหนังสือเล่มหนึ่งชื่อแม็กนีเซียม สารอาหารที่ถูกลืม (หรืออะไรทำนองนั้น) ที่หมอคนหนึ่งเขียน เลยออกมาซื้อแม็กนีเซียมเม็ดจากร้านบู้ทส์ ๒๘๐ บาท ๕๐ เม็ด
กลับมาด้วยรถไฟฟ้า ขณะรอรถอยู่ก็คิดเล่นๆว่า ถ้าหมอคนเขียนหนังสือแกไปใช้โมเดลธุรกิจสมัยใหม่คือ ครบวงจร ได้แก่ ขายหนังสือด้วย (นอกเหนือจากเปิดคลีนิค) แล้วยัง ขายยาเม็ดที่โปรโมตด้วย น่าจะรวยอื้อซ่า เพราะได้สามเด้ง

ไปศูนย์อาหารห้างแห่งหนึ่งกระเพาะปลาใส่เลือดหมูแยะๆ แถมด้วยแม็กนีเซียมเม็ดที่เพิ่งซื้อมา และตามด้วย เม็ดเหล็กสีแดงสด ที่ได้จากกาชาดฯ หลังบริจาคเลือด

กลับมาบ้าน ดูจากอินเตอร์เน็ต เราไม่ควรกินเกิน 350 mg ต่อวัน ปกติคนเราไม่ค่อยขาดแมกนีเซียมเท่าไร

บริจาคเลือด ให้ทานด้วยเลือดของเรา

ไปบริจาคเลือดมาที่ ศูนย์บริการโลหิต สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ รู้สึกดีมาก ไม่เพลียอย่างที่เกรง ตอนเจาะเลือดก็ไม่เจ็บ ตั้งใจว่า จะมาบริจาคทุกๆสามเดือนต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้สุขภาพดี และเข้าใจว่าจะช่วยกันเรื่องความดันโลหิตสูงได้

ที่นั่นมีคนมาบริจาคอยู่เรื่อยๆ แม้เป็นวันธรรมดา คนมีหลากหลาย คนทำงานออฟฟิส แม่บ้าน ชายหนุ่มแต่งตัวไม่เรียบร้อย นักศึกษาในเครื่องแบบ สุภาพบุรษสุภาพสตรีสูงอายุกว่าผม แม้กระทั่งเด็กสาวหน้าซื่อๆราวกับมาจากจังหวัดชายแดน คนเหล่านี้ต่างมีน้ำใจเผื่อแผ่แก่ผู้อื่น คนที่ตัวเองไม่เคยรู้จัก เห็นได้ว่า คนเราตัดสินความดีกันด้วยรูปภายนอก หรือสถานะทางสังคม และเศรษฐกิจไม่ได้

Migrate to new service

This is just a note for myself: I have migrated all my 5 blogs at blogspot to new Blogger Beta service of Google's. Now they will enable tagging in the post as well. I have yet to check out any other new features.

I just found out that the tag feature here also sort the tags alphabetically, even in Thai language. Say I input numerous tagging words in Thai, in an order that I thought was relevant, but the published version of the tag list was different, like that of a Thai dictionary.

Tuesday, December 05, 2006

วันอังคาร แต่ไม่ใช่สีชมพู เป็นสีเหลือง

วันนี้น่าจะต้องจารีกไว้ในหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย คนไทยกว่า 90% หรืออาจจะ 95% ทั่วกรุงเทพฯ อาจจะทั่วประเทศก็ได้ แต่งเสื้อเหลืองกันหมด ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก ผู้ใหญ่ คนชรา หรือ ไม่ว่าจะเป็นคนระดับกลาง หรือ คนยากจน กรรมกร เพาะว่าเป็นวัน ๕ ธันวาคม เป็น วันเฉลิมพระชนมพรรษา ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ของชาวไทย

ปกติผมไม่ค่อยใส่เสื้อเหลือง เพราะเคยรู้สึกว่ามันเป็นการ ปจว. ของรัฐบาลทักษิณ เลยไม่ค่อยชอบ และอีกอย่างก็ไม่อยากแต่งตัวเหมือนใคร ก็นึกขวางๆมาเรื่อยๆ แต่วันนี้ยกเว้นหนึ่งวัน ใส่ด้วยใจครับ

อ่านข่าวจากเน็ต เห็นว่าวัดไทยในต่างประเทศก็มีการสวดมนต์ถวายด้วย

Sunday, December 03, 2006

หนังสือน่าอ่านอีกเล่ม

เพิ่งไปซื้อหนังสือที่ซีเอ็ดมาอีกหลายเล่ม แต่เล่มที่นั่งอ่านก่อนเลยก็คือ หนังสือชื่อ

วิธีคิดที่ทำให้ประสบความสำเร็จและแตกต่างจากคนอื่น
แปลจาก
Don't Eat The Marshmallow ... Yet !

พิมพ์ครั้งที่สี่แล้ว

อ่านรวดเดียวจบภายในหนึ่งชั่วโมง เพราะเล่มบางๆ อ่านแล้วก็รู้สึกว่าดีมาก ผมจดประเด็นไว้ในกระดาษ แล้วกำลังจะเข้าคอมพิวเตอร์ต่อไป เพื่อเอาไว้แก้นิสัยตนเองที่เสีย ที่เป็นคนประเภทไม่ชอบรอกินขนมมาชเม็ลโลว์ หรือ สำนวนไทยเขาก็มี บอกว่า ไม่ยอมอดเปรี่ยวไว้กินหวาน

นับว่าเป็นหนังสือที่ให้ take home lessons ได้ดี ย่อๆ และ ตรงไปตรงมา ตอนท้ายๆ ผมน้ำตาซึมเล็กน้อย กับเรื่องที่เขาเล่า (แม้ว่าผมรู้สึกว่าเรื่องมันอาจจะเป็นเรื่องสมมุติก็ตาม)

ปริญญากิตติมศักดิ์ แจกกันอีกแล้ว

"มหาวิทยาลัย" ไทยบางแห่งชอบแจกปริญญากิตติมศักดิ์ (ที่ต้องใส่เครื่องหมายคำพูดเอาไว้ เพราะว่าบางแห่ง ชื่อเป็นมหาวิทยาลัย แต่ ระดับมาตราฐานการศึกษาทางวิชาการไม่ถึงขั้นนั้น)

เมื่อเร็วๆนี้ก็มีการให้ปริญญาเอกแก่วีไอพีต่างชาติไปหนึ่งท่าน ผมว่า เบื้องหลังก็คือต้องการ ภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัย ในกลุ่มประชากรเป้าหมาย มากกว่าอย่างอื่น แต่ผมไม่รู้ว่ามหาวิทยาลัยนั้นเขามีคุณภาพดีหรือไม่ และมีการเรียนการสอนระดับปริญญาเอกอยู่แล้วหรือไม่

อันที่จริงมีเมืองไทยมีมหาวิทยาลัยชั้นนำ หลายๆแห่งที่มีหลักสูตรดีๆ และเขาก็มีการเรียนการสอนที่ดีในระดับคุณภาพนานาชาติถึงปริญญาเอก เขาถึงมีการให้ปริญญาเอกกิตติมศักด์ได้ อันนี้โอเค และวิธีปฏิบัติคือเขาให้คนที่สมควรได้รับเกียรติจริงๆ

แต่ก็มีหลักสูตรอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่มีการเรียนการสอนปริญญาเอก แต่ก็แจกปริญญาเอกกิตติมศักด์ ซึ่งนับว่าผิดวิธีปฏิบัติเป็นอย่างมาก เข้าข่ายสินค้าเลียนแบบ เพราะจริงๆหลักสูตรนั้นๆยังไม่มีความสามารถการสอนและการวิจัยที่ได้มาตราฐาน ไม่มีนักเรียนปริญญาเอก แต่ก็อยากให้ประชาชนภายนอกเข้าใจว่าหลักสูตรของตนมีมาตราฐาน โดยการแจกปริญญาให้วีไอพี หรือให้คนมีชื่อเสียง และพ่อค้าใหญ่ๆที่พร้อมจะจ่ายเงินบริจาคเพื่อให้ได้ ปริญญาเอกกิตติมศักด์ แล้วคนที่ซื้อปริญญาเอกกิตติมศักด์พวกนั้นก็พากันเรียกตัวเองว่าดอกเตอร์ โดยที่ ทำเนียมปฏิบัตินานาชาตินั้น คนที่ได้ปริญญาเอกกิตติมศักด์เขาจะไม่ใช้คำนำหน้านั้น

เขียนบล๊อกวันนี้ด้วยความรู้ตัวว่า มีอกุศลจิตอยู่เล็กน้อย แต่ก็พยายามให้เป็นเหตุเป็นผลที่สุดแหละ เพราะอยากให้อะไรๆมันเป็นไปในทางที่ควร

Saturday, December 02, 2006

ไปฟังธรรมหลวงพ่อเลี่ยม ที่ ธรรมศาสตร์ รังสิต

แวะไปฟังธรรม ที่หอพระ ธรรมศาสตร์ รังสิต มา

วันนี้เขานิมนต์ หลวงพ่อเลี่ยม หรือ พระวิสุทธิสังวรเถร เจ้าอาวาส วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี มา ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อชา ท่านอายุราว 67 ปีแล้ว ท่านบวชมาตั้งแต่เณรอายุ 19 ปี พรรษาท่านยาวมาก ผมสัมผัสถึงความเย็น ความสงบและเมตตาของท่าน และท่านดูจะมีอาการเขินเล็กน้อย แม้ว่าท่านจะเปี่ยมไปด้วยสัมมาสมาธิ ตอนท่านพูดเองท่านก็พูดทำนองว่า มาพูดให้คนมีความรู้ฟัง ดูเหมือนท่านจะถ่อมองค์มาก

ผมฟังดูแล้วก็มีความรู้สึกว่าท่านรู้วาระจิตของผู้ฟังส่วนมาก แต่ว่าท่านไม่สนใจจะสะกิดใคร หรือไม่ต้องการจะแสดงให้ใครรู้ว่าท่านรู้ว่าใครคิดอะไร ท่านมองหน้าผมเป็นครั้งๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ผมก็รู้สึกว่าท่านสงบดีมาก

ช่วงที่ฟังผมอุตส่าห์คอยมีสติ ตามดูกายดูจิตอยู่บ่อยๆ มีเวทนาต่างๆก็รู้ไป หลวงพ่อท่านก็สอนให้คนในห้องให้ตามรู้กายตามรู้จิต แต่ผมว่าคนที่ไม่มีพื้นมาก่อนน่าจะไม่ค่อยเข้าหัวเท่าไร โชคดีเราเบสิคดีอยู่แล้วจากหลวงพ่อปราโมทย์สอนมา ทำให้รู้ว่าท่านสององค์ก็สอนตรงกัน

อาคารปฏิบัติธรรมเขาสร้างน่าอยู่ แต่ร้อนอย่างกะเซาน่า เหงื่อซก ทั้งๆที่อากาศภายนอกก็ไม่ร้อน (หน้าหนาวที่เหงื่อแตกปีนี้ของกรุงเทพฯ) ต้องอาศัยจิตตานุปัสนา ตามรู้ว่ารู้สึกร้อน ก็เลยตัดไปได้บ้าง

New prefix for mobile phone numbers in Thailand takes effect

A moment ago, I spent about half an hour today editing dozens of phone numbers in my mobile phone. TOT had added number 8 again in the second digit, after a couple years ago they forced people to add a prefix 0 to form a first digit. Now all mobiles phone numbers have 10 digits, currently all starting with 08- . I just did not want to spend a couple hours hopping on to Skytrain to MBK center to my phone shop to reprogram those numbers. By the way, I am a minority of people in Bangkok, which use Hutch CDMA system. I believe they have less than 1 million subscribers at the moment.