ช่วงนี้ฝนตกตอนค่ำๆ ออกกำลังกายนอกบ้านไม่สะดวก ก็เลยออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานอยู่กับที่ในห้องทำงาน ใน โฮมออฟฟิส ที่บ้าน มีแอร์ด้วย แต่กระนั้นก็เหงื่อออกโซ่กไป
ก่อนหน้านี้ผมมักจะอ่านหนังสือทั่วไป สารคดีวิทยาศาสตร์บ้าง นิยายธรรมะบ้าง ต่อมาก็สลับ ไปดูวีดิโอ จาก Miro บนเครื่องโน้ตบุ้คบ้าง ฟัง mp3 บ้างจากไอทูนบ้าง (ไอพ๊อดมันเจ๊งไปแล้วไม่อยากซื้อตัวที่สาม)
ระยะหลังนี้กลับมาฟังเทศน์หลวงพ่อฤาษีลิงดำบ่อยๆ ท่านจิตโตบ้าง หลวงพี่เล็กบ้าง บ่อยๆ ก็เลยนึกอยากไปบ้านซอยสายลม วันเสาร์ที่ผ่านมาก็เลยได้ไปที่นั่น ไปได้หนังสือมาหลายเล่ม ราคาไม่แพง ส่วนมากเล่มละไม่เกิน ๕๐ บาท ซื้อมาดูเหมือนจะ ๕ เล่ม ยังไม่ถึง ๒๐๐ บาทเลย จากนั้นก็ไปถวายสังฆทานหลวงพี่เล็ก และกราบถามปัญหากัมมัฏฐานจากท่าน ที่แถวอนุสาวรีย์ชัยฯ ท่านก็เมตตาตอบให้แบบตรงใจทีเดียว ไม่เคยเจอองค์จริงท่าน เคยเห็นแต่ในรูป หรือฟัง mp3 เจอท่านผมคิดว่าผิวพรรณท่านผ่องใสมากเลย
ประเด็นสำคัญที่จะพูดก็คือ ตอนนี้กำลังอ่านหนังสือเรื่อง "ล่าพระอาจารย์ และ ล่องเชียงแสน" อยู่ ๒ เรื่องในเล่มเดียวกัน เพลินดีมาก สนุกมาก เป็นการถอดเทปหลวงพ่อฤาษีลิงดำ มา บางตอนผมคิดว่าก็เคยอ่านมาแล้วสมัยหลายสิบปีก่อน ได้กลับมาอ่านเป็นเรื่องราวอีกที ความรู้ความเข้าใจเปลี่ยนไป เรามีความคิดอ่านสุขุมมากขึ้นตามวัย(ชรา) อ่านไปได้สักครึ่งเล่มก็เท่ากับปั่นจักรยานได้ ๑ ชม.พอดี เท่ากับระยะทางสัก ๑๓ กม. หรือ เผาพลังงานได้สัก ๕๐๐ แคลอรี่ ก็วางลง แล้ววันต่อไปก็มาอ่านต่อ เมื่อวานไม่ได้อ่านเพราะไปดูวีดีโอ ดร.สนอง บรรยายธรรมะถวายพระบวชใหม่ ดาวน์โหลดมาจากเว็บ หนังสือเล่มนั้น วันนี้ก็ยังอ่านไม่จบเล่มนี้
โดยเฉพาะอ่านในครึ่งเล่มหลัง ตอน ล่องเชียงแสน ผมได้ไอเดียอะไรกระฉูดแยะมาก โดยเฉพาะเรื่องการเมือง เรื่องการทะเลาะของคนในชาติ สิ่งที่หลวงพ่อเทศน์ท่านไว้เมื่อราว พ.ศ. ๒๕๑๘ ไม่ล้าสมัย ปัญหาก็คือ คนรุ่นใหม่จะแทบไม่มีทางเอาหนังสือดีๆแบบนี้มาอ่าน แล้วจะคนไทยได้ปัญญาที่ไหน สิ่งหนึ่งที่ผมได้คิดจากอ่านคำเทศน์ของท่านในตอนนี้ก็คือ การปกครองในระบอบพ่อปกครองลูกของไทยสมัยสุโขทัยนั้น ผมเพิ่งซึ้งใจจากคำเทศน์ของหลวงพ่อนี้เอง ก่อนหน้านี้เรียนมาต้งแต่เป็นเด็กนักเรียน ๔๐ ปีก่อนก็ไม่เก็ท ตอนนี้ผมเพิ่งเก็ทแล้วว่า ระบอบพ่อปกครองลูกก็คือระบอบประชาธิปไตยของไทยเดิมเรานั่นเอง เพราะพระมหากษัตริย์สุโขทัยหรือแม้แต่เชียงแสน ท่านทรงเป็นพ่อเมือง และสมัยนั้นท่านทรงลงไปเยือนราษฎรแต่ละครั้งๆในฐานะพ่อเมือง เป็นกันเอง แต่งองค์ธรรมดาเหมือนชาวบ้าน ซึ่งก็คือเป็นการทำ caucus หรือ ประชาพิจารณ์ กับพสกนิกรโดยตรงเป็นประจำนั่นเอง
ผมเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยว่า การปกครองระบบประชาธิปไตยที่ไทยเราไปลอกฝรั่งมาเกือบทั้งดุ้นตอนนี้มันใช้ไม่ดี เพราะปล่อยให้คนไม่ดี คนไม่มีศีล จำนวนมากเข้ามาหาประโยชน์จากอำนาจรัฐ เข้ามาป่วนเพื่อชิงอำนาจรัฐ เข้ามามีอำนาจออกกฎหมายตามอำเพอใจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน เข้ามาเบียดบังงบประมาณหลวงเข้ากระเป๋าของตนและพวกพ้อง คนที่ไม่ดี สามารถโกหกหน้าด้านๆแบบไม่มีหิริโอตตัปปะ ไม่มีความเลวอะไรอื่นอีกที่ทำไม่ได้ เข้ามาในระบอบนี้แยะมาก
ทุกอย่างมีเหตุปัจจัย ผมไม่อยากให้จิตผมมันดิ้นไปมาก แม้แต่ข่าวเรื่องพวกเขมรพมารุกล้ำชายแดนก็ตาม พยายามปล่อยวาง ทุกเรื่องเป็นเรื่องชั่วคราว อย่าไปเครียดกับมัน ปล่อยธรรมชาติจัดการ สมดุลย์จะมาเอง ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ
ลิงก์ไปยังเว็บหนังสือใส่ไว้ข้างบน
ปกิณกะ ไทย I posted about interesting items information I found, write my views on books I read, education, science and technology, Buddhism and meditation, economic and business, music, and movies, country and rural development. Articles are in English or Thai.
Showing posts with label หนังสือ. Show all posts
Showing posts with label หนังสือ. Show all posts
Monday, July 05, 2010
Wednesday, May 09, 2007
วิถีแห่งปราชญ์ : A good book
หนังสือเรื่อง
วิถีแห่งปราชญ์ ปฏิปทา จริยาวัตร ของ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
โดย พนิตา อังจันทรเพ็ญ
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๗ พ.ศ. ๒๕๕๐
คนใกล้ตัวซื้อมาได้สองสามเดือนแล้วกระมัง วันนี้เพิ่งมีโอกาสเข้าไปในห้องทำงานของเขา ไปหยิบมาอ่านที่ห้องทำงานของผม กะว่าจะอ่านสักครู่ เผลอแผล็บเดียว หลายชั่วโมงผ่านไป จบแล้ว เกือบเที่ยงคืน งานการที่ค้างคาไม่ต้องทำกันพอดี
แต่อ่านไปก็พีงพอใจมาก ปลื้มมาก บางช่วงก็หัวเราะ (ต้องชาววัดจึงจะเข้าใจ คนธรรมดาคงไม่ค่อยขำเท่าไร) บางช่วงผมเกิดปีติขนลุกซู่ ท่านมีชีวิตที่เรียบง่าย เป็นพระที่เคร่งพระวินัย เป็นปราชญ์ เยี่ยมจริงๆ
ได้แนวคิดดีๆ มาเตือนสติตนเองหลายข้อ
เป็นหนังสือที่ดีมาก อยากให้ลูกอ่าน แต่มันจะอ่านหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตอนนี้คงจะยังหรอก ยังเด็กไป
A Thai book, entitled "A Way of Sophist" reflecting the life, personality, works of the expert Thai Buddhist scholar, the venerable Bhikku P.A. Payutto, in 140 short easy to read mini-chapters. His charming personality, in conjunction with his meticulous curiosity is mildly entertaining, mind-opening, as provided good example of his simple life as a Buddhist monk. Highly recommended. (In Thai language only)
วิถีแห่งปราชญ์ ปฏิปทา จริยาวัตร ของ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
โดย พนิตา อังจันทรเพ็ญ
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๗ พ.ศ. ๒๕๕๐
คนใกล้ตัวซื้อมาได้สองสามเดือนแล้วกระมัง วันนี้เพิ่งมีโอกาสเข้าไปในห้องทำงานของเขา ไปหยิบมาอ่านที่ห้องทำงานของผม กะว่าจะอ่านสักครู่ เผลอแผล็บเดียว หลายชั่วโมงผ่านไป จบแล้ว เกือบเที่ยงคืน งานการที่ค้างคาไม่ต้องทำกันพอดี
แต่อ่านไปก็พีงพอใจมาก ปลื้มมาก บางช่วงก็หัวเราะ (ต้องชาววัดจึงจะเข้าใจ คนธรรมดาคงไม่ค่อยขำเท่าไร) บางช่วงผมเกิดปีติขนลุกซู่ ท่านมีชีวิตที่เรียบง่าย เป็นพระที่เคร่งพระวินัย เป็นปราชญ์ เยี่ยมจริงๆ
ได้แนวคิดดีๆ มาเตือนสติตนเองหลายข้อ
เป็นหนังสือที่ดีมาก อยากให้ลูกอ่าน แต่มันจะอ่านหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตอนนี้คงจะยังหรอก ยังเด็กไป
A Thai book, entitled "A Way of Sophist" reflecting the life, personality, works of the expert Thai Buddhist scholar, the venerable Bhikku P.A. Payutto, in 140 short easy to read mini-chapters. His charming personality, in conjunction with his meticulous curiosity is mildly entertaining, mind-opening, as provided good example of his simple life as a Buddhist monk. Highly recommended. (In Thai language only)
Sunday, December 03, 2006
หนังสือน่าอ่านอีกเล่ม
เพิ่งไปซื้อหนังสือที่ซีเอ็ดมาอีกหลายเล่ม แต่เล่มที่นั่งอ่านก่อนเลยก็คือ หนังสือชื่อ
วิธีคิดที่ทำให้ประสบความสำเร็จและแตกต่างจากคนอื่น
แปลจาก
Don't Eat The Marshmallow ... Yet !
พิมพ์ครั้งที่สี่แล้ว
อ่านรวดเดียวจบภายในหนึ่งชั่วโมง เพราะเล่มบางๆ อ่านแล้วก็รู้สึกว่าดีมาก ผมจดประเด็นไว้ในกระดาษ แล้วกำลังจะเข้าคอมพิวเตอร์ต่อไป เพื่อเอาไว้แก้นิสัยตนเองที่เสีย ที่เป็นคนประเภทไม่ชอบรอกินขนมมาชเม็ลโลว์ หรือ สำนวนไทยเขาก็มี บอกว่า ไม่ยอมอดเปรี่ยวไว้กินหวาน
นับว่าเป็นหนังสือที่ให้ take home lessons ได้ดี ย่อๆ และ ตรงไปตรงมา ตอนท้ายๆ ผมน้ำตาซึมเล็กน้อย กับเรื่องที่เขาเล่า (แม้ว่าผมรู้สึกว่าเรื่องมันอาจจะเป็นเรื่องสมมุติก็ตาม)
วิธีคิดที่ทำให้ประสบความสำเร็จและแตกต่างจากคนอื่น
แปลจาก
Don't Eat The Marshmallow ... Yet !
พิมพ์ครั้งที่สี่แล้ว
อ่านรวดเดียวจบภายในหนึ่งชั่วโมง เพราะเล่มบางๆ อ่านแล้วก็รู้สึกว่าดีมาก ผมจดประเด็นไว้ในกระดาษ แล้วกำลังจะเข้าคอมพิวเตอร์ต่อไป เพื่อเอาไว้แก้นิสัยตนเองที่เสีย ที่เป็นคนประเภทไม่ชอบรอกินขนมมาชเม็ลโลว์ หรือ สำนวนไทยเขาก็มี บอกว่า ไม่ยอมอดเปรี่ยวไว้กินหวาน
นับว่าเป็นหนังสือที่ให้ take home lessons ได้ดี ย่อๆ และ ตรงไปตรงมา ตอนท้ายๆ ผมน้ำตาซึมเล็กน้อย กับเรื่องที่เขาเล่า (แม้ว่าผมรู้สึกว่าเรื่องมันอาจจะเป็นเรื่องสมมุติก็ตาม)
Sunday, October 22, 2006
Good to read: เด็กป่าซาบิเน่ Dschungelkind by Sabine Kuegler
I just bought a book, translated from German into Thai language, entitled in Thai as เด็กป่าซาบิเน่. Bought it at 8 p.m. and I thought at first I would just quickly scanned through. But really, I carefully read from beginning to the end until I just finished by 1:30 a.m. next day, a moment ago, and is still fully impressed. So I want to jot in my blog here. The cover of the Thai version said it is being licensed to translate into languages of 24 countries. Sure it is fun to read.
At first I planned about buying this one for both my daughter and me but after I finished it I think the content is a bit too heavy for even a 12 year old bookworm girl.
At first I planned about buying this one for both my daughter and me but after I finished it I think the content is a bit too heavy for even a 12 year old bookworm girl.
Subscribe to:
Posts (Atom)