Thursday, October 09, 2008

เหตุการณ์ที่จะระทึกกว่าอาจจะมาในอนาคตอันใกล้

เหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตในการชุมนุมในกรุงเทพฯเมื่อสองวันที่ผ่านมา และมีผู้บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้ผมรู้สึกสลดใจ ส่วนการที่ตลาดหุ้นไทย และทั่วเอเซียตกระนาวเป็นประวัติการ ตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีทของสหรัฐ ตกต่ำสุดในรอบหลายปีๆ ผมรู้สึกเฉยๆ ปลงเสียแล้ว เงินมันเป็นของนอกกาย

อย่างไรก็ดี ในเดือนหน้า หรือ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ มีเรื่องที่ต้องเฝ้าดูมากกว่า อย่างแรกคือการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่มีโอกาสสูงมากที่จะได้ผู้นำเป็นคนผิวสีเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อีกอย่างคือเหตุการณ์ในตะวันออกกลาง ซึ่งตอนนี้อิสราเอลกำลังจะมีรัฐบาลใหม่ คาดว่าจะได้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิง ภายในเดือนหน้าเช่นกัน และก็มีข่าวว่าตอนนี้สหรัฐกำลังระดมขายอาวุธให้อิสราเอลเป็นอย่างมาก ซึ่งนักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศบางแห่งคาดการณ์ว่า อาจจะมีการโจมตีโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยอิสราเอลก็เป็นได้ เพราะมีการคาดเอาว่า อิหร่านจะสามารถผลิตพลูโตเนียมได้ปริมาณมากพอทำอาวุธได้ในปีหน้า และก็อีกอย่าคืออิหร่านกำลังจะซื้อขีปนาวุธ เอส ๓๐๐ จากรัสเซียอยู่ (ก็เป็นต้นแบบของจรวดที่ไทยเราจ้างส่งดาวเทียมไปเมื่อเร็วๆนี้นั่นเอง คิดเอาว่า มันมีพิสัยไกลแค่ไหน) และช่วงปลายพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนธันวาคม เป็นเวลาก่อนที่ประธานาธิบดีคนใหม่จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง อาจจะมีอะไรๆเกิดขึ้นได้ ซึ่งหลายคนเชื่อว่าหากว่ามีเหตุการรุนแรงเช่นการโจมตีเกิดขึ้นจริง มันก็จะเกิดวิกฤตการณ์ของโลกที่คาดว่าจะบานปลายเป็นอย่างมาก ผมก็มีความเห็นว่า เป็นไปได้สูง และถ้าเป็นอย่างนั้น เรื่องในเมืองไทยเนี่ยกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลยก็ว่าได้ และชาวเราก็ต้องปลงกันอีกขนานใหญ่

No comments: