Thursday, March 29, 2007

เพิ่งยื่นภาษี

ดูเหมือนว่าปีนี้จะเป็นปีที่สามที่ผมยื่นภาษีเงินได้ทางเว็บ ปรากฎว่าได้เงินคืนมาอีก เป็นเพราะไปซื้อ อาร์เอ็มเอฟไว้แท้ๆเลย ไม่งั้นก็ไม่ได้เงินคืน 10% ของที่ไปซื้อไว้ เป็นอานิสงค์การลงทุนที่เห็นๆ

Tuesday, March 27, 2007

อัตตา กับ ความทุกข์

เช้านี้รู้สึกเซ็ง เบื่อๆ เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ ต้องเข้าสมาธิเมื่อคืนและเมื่อเช้าจึงค่อยยังชั่ว แต่ชั่วคราวหรอก ตอนนี้ก็ยังเบื่อๆ

รู้สึกได้ว่า การมีอัตตามันทำให้เป็นทุกข์ มีได้หลายระดับ เช่น ตั้งแต่เบาๆ แค่รู้สึกเซ็ง หรือ มากขึ้นหน่อยจนรู้สึกเครียดๆ หรือมากขึ้นอีกจนอาจจะหงุดหงิด ฉุนเฉียว จนกระทั้งโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง เต้นเป็นเจ้าเข้า ก็ได้ พวกนี้มีโทสะเข้าแทรกมาแล้วตั้งแต่ต้นรวมกับโมหะ

การที่มักคิดว่าอะไรที่ไม่ควรจะเกิดไม่น่าจะเกิดกับเรา ก็เป็นเพราะมีอัตตานั่นเอง หลงผิดคิดว่ามีตัวตน ที่เป็นเรา เป็นเขา และคิดว่าเราคิดว่าเราพิเศษกว่าคนอื่น เหตุไม่ดีจะไม่เกิดกับเรา แต่แล้ว มันก็เกิดจนได้

เมื่อไรจิตจะตื่นเสียที

Attempt to lure Biotechnology firms to be launched in Thailand

Following is my own translation of information I found from a recent Thai document.

"Thailand 's Board of Investment (BOI) has recently agreed to provide investment incentives for firms to conduct:-
1) Research and Development and production of seeds / plants / animals
2) Research and Development of pharmaceuticals by biotechnology
3) Research and Development and production of diagnotic kits in medicine, agriculture, food, and environment
4) Research and Development and production of microbial cells, plant cells, animla cells in production of biomolecules, bioactive substances.
Modern Biotechnology must be used and they must be endorsed by either NSTDA or TCELS."

Saturday, March 24, 2007

เพิ่งตระหนักว่าไฟฟ้าสำคัญต่อชีวิตในเมือง

เพิ่งตระหนักว่าไฟฟ้าสำคัญ เพราะไฟดับในบ้านไปหลายชั่วโมง

เมื่อไม่มีไฟ ก็ ต้มน้ำร้อนหรืออุ่นอาหารโดยเตาไมโครเวฟไม่ได้ (แกสไม่ค่อยได้ใช้ อาจจะหมดไปแล้วก็ได้)
อาบน้ำไม่ได้ เพราะปั้มน้ำไม่ทำงาน เข้าห้องน้ำไม่ได้ เพราะชักโครกไม่มีน้ำ รดน้ำต้นไม้ไม่ได้เพราะน้ำไม่ไหลแรงพอ
อีเมลไม่ได้ เพราะคอมพิวเตอร์ไม่มีไฟ
ร้อนก็เปิดพัดลมหรือแอร์ไม่ได้ มืดๆไม่มีไฟส่องสว่าง
ตู้เย็นก็อุ่นขึ้นๆ

คนเมืองเราเนี่ยสำนวนฝรั่งเขาว่าโดน spoiled ไปแล้ว คนชนบทเขาคงไม่เดือดร้อนเท่านี้

My comments on Bangkok Airports

I have known all along that the "permanent closure" of Don Meuang International Airport was a publicity hoax by former (Thaksin) government. I drive along the Bangkok - Don Meuang Tollway twice daily, about 22 days a month, and saw cargo / VIP / military planes flying, not to mention of evening Tollway traffic halts due to vip 's (140 km/hr) motorcades. Yes the flights during "the closure " was not that frequent as before, yet it 's operational, perhaps at 0.1% activity. Now starting around today is a >30 daliy domestic flights by Nok Air and 1-2-Go.

I think in only about few more years, Thai people would start to realize that we really need 2 airports for the city of angle. Of course, the government also has seen that and the need to link the two airports with a fast train service, perhaps an extension of the Airport Express line under construction. But given the track record of Thai government, that might take another 10 years to materialize. Even the delivery by Siemens of the new Airport Express trains to run to Nong Ngu Hao (Suvarnabhumi) would be around the end of this year, the track itself would not be ready until, I guess, the end of next year.

Wednesday, March 14, 2007

My second session of acupuncture

My second aniti-snoring acupuncture therapy involved only 5 needles but four connected to electrodes were needles on my hands near the base of the thumbs, and on the sides of my neck. The hand needles were the once which got electrical stimulatation. At first, the signal was quite intense and it was a bit painful such that I told the nurse to tune it down to a more tolerable level. Then, I could still feel the small spasm of my thumbs due to the stimulating current for the next 15 minutes. I 'll continue the therapy next week. Eight more times to go.

การใช้งาน sshfs

ผมเพ่ิงติดตั้ง sshfs (secured shell file system) สำหรับเมานท์ไดเร็คตอรี่จากเครื่องเซอฟเวอร์เป็นโฟลเดอร์ให้ทำงานได้ง่ายๆบนไดเร็คตอรี่หนึ่งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา (กรณีนี้คือ Mac G4 PowerBook)

sshfs เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส ไปได้ dmg มาแล้วก็ติดตั้งบน OS-X
สำหรับคนที่ใช้ยูนิกส์หรือลินุกส์ ก็เคยเห็นว่ามีของรุ่นอื่นๆด้วยเช่นของ Linux / Unix

เมื่อติดตั้งเสร็จบนโน้ตบุ้คเราก็ต้องรีบู้ทเครื่อง
จากนั้นเปิดเทอร์มินัล แล้ว cd เข้าไปในซับไดเร็คตอรี่ที่ติดตั้งโปรแกรมไว้
กรณีนี้คือ
/Applications/sshfs/bin

เมื่อย้ายเข้าไปใน bin ไดเร็กตอรี่ แล้วก็เรียกคำสั่ง
./mount_sshfs username@servername /mountdirectoryname

ไฟนเดอร์ในแม็คก็จะแสดงไอคอนจุดที่เมานท์ให้บนด้านข้างวินโดวต่างๆให้ เพื่อคลิกเข้าไปใช้ได้เลย จะลากเมาส์ก็ได้ พื้นที่ในเซอฟเวอร์ก็จะเป็นเสมือนโฟลเดอร์บนเครื่องของเรา ง่ายต่อการใช้ขึ้น (แต่เราก็ใช้ ssh กับ scp มาเสียชินแล้วละ)

เมื่อจะ unmount ก็ใช้คำสั่ง

umount /mountdirectoryname

Monday, March 12, 2007

บริจาคเลือด ให้ทานด้วยเลือดของเรา (2)

วันนี้ไปบริจาคเลือดที่ศูนย์บริการโลหิต สภากาชาดไทย เป็นครั้งที่สอง ครบกำหนดสามเดือนหลังจากครั้งก่อน พอดีมีธุระนอกออฟฟิส ก็เลยได้โอกาสแวะไปตอนบ่ายสาม วันนี้คนแยะพอควร ต้องต่อคิว ๓๐ คน รอคิวกว่า ๔๕ นาที แต่ก็ไม่ช้าอะไร จับลมหายใจไปเรื่อยๆ
นึกๆดู คนไทยที่ใจบุญมีแยะมาก เขาไม่เพียงเสียสละเวลากันหลายชั่วโมง จ่ายค่ารถหรือค่าน้ำมันอีกพอสมควร เพื่อเดินทางมาให้เลือด ทำบุญช่วยชีวิตคนที่เขาไม่รู้จัก ถ้าปีหนึ่งบริจาคเลือดได้เต็มที่เลยสี่ครั้ง เขาอาจจะช่วยชีวิตคนได้สี่คน ผมเพิ่งมาได้คิดตอนอาจารย์ผมที่สหรัฐแกบอกว่าผมน่ะมีใจเมตตา และจะช่วยชีวิตคนได้ ก่อนหน้านั้นผมไม่คิดถีงว่าจะช่วยชีวิตใคร แต่นึกๆดู คนที่เจ็บ หรือป่วยจนต้องการเลือดนั้น ถ้าไม่ได้เลือดก็ตายแน่ๆ

ในส่วนตัวผมเอง นอกจากจะช่วยผู้อื่น และบุญอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร ตามความเชื่อของพุทธศาสนิกชน ทำให้เกิดความสบายใจ มีปิติแล้ว ยังรู้สึกว่า เป็นการรักษาสุขภาพตัวเองด้วย ตัวเบาขึ้นหน่อย คิดเอาว่าโรคความดันสูงจะได้ไม่ถามหาง่ายหน่อย อย่างน้อยก็ไปเลือดดีๆออกไปจากตัวปีละสี่ครั้ง

เป็นความตั้งใจว่าจะทำบุญด้วยเลือดตัวเองนี้เป็นประจำไปเรื่อยๆอีกหลายปี จนกว่าสุขภาพจะไม่อำนวย หรือ สถานการณ์เปลี่ยนไป หรือวัยถึงเกณฑ์ที่เขาไม่เอาแล้ว

ยีนส์ กับ ทรานสคริปต์ และ โปรตีน

วันนี้ไปฟังสัมมนาเรื่อง parvoviruses มาวันนี้ โดย Dr. Max Bergoin (Univ. Montpellier, France) และ Dr. Peter Tijssen (Univ. Quebec, Canada)

น่าสนใจว่าพวกนี้เป็นไวรัสขนาดเล็กมาก ขนาด genome 4-6 kb เอง แต่เปลี่ยนโฮสต์ได้เก่งมาก
มีการจัดไว้สอง subfamilies และมี ยีนัส หรือ genera อยู่ 5 + 4 genera
ถ้าดูจากรหัสจีโนทและทรานสคริปต์ ส่วนมากมีแค่ ๒ ยีนส์เอง คือ NS (non-structural) และ VP (viral coat protein) ปลายสองข้าง ของ ssDNA เป็น hair-pin structure

น่าสนใจว่า จากการเปรียบเทียบศึกษาในไวรัสหลายสิบตัว ทำให้ได้ข้อสรุปว่า
๑ แต่ละยีนสามารถใช้หลายโปรโมเตอร์ได้ เพื่อสร้าง ทรานสคริปต์ หลายตัวที่เริ่มจากคนละจุดกัน ดังนั้นบางทรานสคริปต์หัวจะแหว่งไปทาง 5'
บางยีนมี ORF เล็กจิ๋วอยู่ข้างในอีก
๒ มีการใช้ leaky scanning สำหรับ translation initiation points (ATG)
๓ มีการใช้ alternative splicing ด้วย

ทำให้มีการสร้างทรานสคริปต์ หลายตัว และ โปรตีนหลายตัว

เป็นอุทาหรณ์ว่า หนี่ง ORF สามารถมีหลายๆ transcripts & proteins

ขออนุญาตทบทวนโพสต์เก่าเรื่องนิยามใหม่ของยีนส์นิดหนึ่ง
http://bioinfothai.blogspot.com/2006/06/blog-post.html

Saturday, March 10, 2007

คุยกับเพื่อน เลยรู้จักตัวมากขึ้นอีกนิด

ไปเจอเพื่อนคอวัดด้วยกันที่งานศพแม่เพื่อนอีกคนหนึ่ง เลยนั่งติดกันคุยกันยาว

เพื่อนมันทักว่ามึงมีสีลัพตปรามาส (คือแปลได้ว่า ผมนั้นมีความพูมใจในวัตรปฏิบัติทางธรรมะของตน และอาจจะกระหยิ่มใจไปนึกดูถูกชาวบ้านเขานิดๆ) ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร พอช่วงพระสวด หันมาดูจิตตัวเอง เออจริงแฮะ มันพูดถูก เราพูมใจมาก (แต่ก็ทั้งๆที่รู้ว่าบางคนเขายิ่งกว่าผม)
ผมมีความภูมิใจที่ช่วงเดือนนี้มีศีล ๕ บริบูรณ์ มีวัตรปฏิบัติรายวันที่ดี มีการปฏิบัติทั้ง สมถะ และ วิปัสสนา และ ศึกษาปริยัติ
ความจริงผมก็รู้จักสีลัพตปรามาสอยู่ และจำได้ดีว่ายังเคยนึกว่าคนอื่นๆในใจ เพิ่งมารู้ว่ากิเลสตัวนี้มันแอบเข้ามาสิงในใจแล้ว มาเมื่อไรก็ไม่รู้เลย

คุยไปคุยมาเพ่ิมเติม เพิ่งรู้ว่าเพื่อนผม นอกจากมันจะรู้ปริยัติแบบเรียนด้วยตัวเองแล้ว มันยังได้กสิณอีก ๑๐ กอง
ผมรู้สึกทึ่ง นับว่ามันสั่งสมบุญเก่าเอาไว้แยะมาก ดีใจกับมันด้วย ไอ้ตัวเราคงจะทำไว้บ้างแต่น้อยกว่ามัน
สรุปว่าวันนี้รู้จักตัวเองเพ่ิมมาอีกหนึ่งอย่าง

หนังสือธรรมะ ซื้อมาอีกแล้ววันนี้

ไปได้มาสามเล่ม จาก มหาจุฬาบรรณาคาร ข้างวัดมหาธาตุ

คู่มือสอบอารมณ์กรรมฐาน รจนาโดย พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ ป.ธ. ๙) ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๔
(พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๒๕ และขาดคราวไปนาน ทั้งท่านผู้แต่งก็ได้มรณภาพไปตั้งแต่ปี ๒๕๓๑ แล้ว) จัดพิมพ์โดยสำนักงานกองกลางวิปัสสนาธุระ วัดมหาธาตุฯ คณะ ๕ ผมชอบใจมาก เล่มละเพียง ๖๕ บาท เหมาะสำหรับผู้สนใจการเข้ากัมมัฏฐาน

อีกสองเล่มนั้นเป็น พระไตรปิฎกที่ตัดตอนมาเฉพาะเรื่อง โดย คุณ ไชย ณ พล อัครศุภเศรษฐ์

คู่มือ ปฏิบัติธรรม ตามวิธีของพระพุทธเจ้า ราคา ๒๑๑ บาท

พระพุทธเจ้าสอนมหาสติ ราคา ๖๔ บาท
ก็เหมาะสำหรับผู้สนใจการเข้ากัมมัฏฐาน การเจริญสติ
ผมพอใจมากเช่นกัน อนุโมทนาในกุศลเจตนาของท่านผู้รวบรวม ทำให้ได้หนังสือฉบับเล็กๆติดตัวไปอ่านได้ในที่ต่างๆ

วันนี้ผมก็ยังคงใช้บัตรนิสิตมหาจุฬาฯไปลดราคา อันนี้คงจะเป็นด้วยกำลังของ มัจฉริยะ เจตสิก ไม่ใช่อยากจะลองบัตรอีกแล้วละ

ระหว่างกลับจากวัดมหาธาตุ อ่านบนรถเมล์ไปได้แยะมาก

Friday, March 09, 2007

ฤาอาณาจักรไมโครซอฟต์กำลังเริ่มขาลง

ลองพิจารณาสิ่งเหล่านี้ ที่เก็บประเด็นมาจากการอ่านข่าวไอทีบนเน็ตในรอบปีที่ผ่านมา

บริษัทไมโครซอฟต์ใช้เวลาพัฒนาโอเอสตัวใหม่นานมาก หลังจากนั้น 5 ปี ก็ตัดคุณลักษณะที่วางแผนไว้เดิมเพียบ เหลือไว้ที่ทำให้ดูหรูหรานิดหน่อย แล้วก็วางขายในชื่อ วินโดวส์วิสต้า แต่นักวิจารณ์บนอินเทอร์เน็ตต่างก็ให้ความเห็นในเชิงลบ และยอดขายต่ำมาก ถ้าหากว่าไม่ได้ยอดที่มาจากการบังคับขายพ่วงไปกับคอมพิวเตอร์ใหม่ในสหรัฐ ยอดคงจะยิ่งต่ำกว่านี้ และส่วนมากคนที่ซื้อเครื่องใหม่ที่ลงวิสต้าไปก็ต้องไปลงระบบใหม่เป็นรุ่น เอ็กซ์พี แทน ในขณะที่รุ่นเก่าๆมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย ทั้งไวรัส และ สแปม และระบบไม่เสถียรนัก อาจจะต้องรีบู้ทใหม่ค่อนข้างบ่อย นอกจากนี้ยังมีระบบเช็คการระเมิดลิขสิทธิ์ออนไลน์ด้วย หากผู้ใดมีการเปลี่ยนแปลงฮาร์ดแวร์ ก็อาจจะโดนระบุว่าใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย และระบบโดนปิดฟังก์ชันบางอย่าง

ระบบ OS-X จาก Apple ในกรอบเวลาเดียวกัน ออกโอเอสมาแล้วถึง ๔ รุ่น และพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ และก็คุณลักษณะมากกว่าวิสต้าเยอะมาก และราคาถูกกว่า แต่ว่า สำหรับเครื่องที่จะรันได้นั้นต้องเป็นของแอปเปิ้ลเท่านั้น แต่เครึ่องเก่าของแอปเปิ้ลก็อัพเกรดได้ในราคาไม่แพงนัก และก็กำลังจะออกรุ่นใหม่มาอีกในอีกสองสามเดือนข้างหน้านี้ ขณะนี้จำนวนเครื่อง Mac บนเน็ต มีประมาณ 7% และอัตราการเพิ่มอยู่ในอัตรา 2% ทุกๅ 6 เดือน

หน่วยงานต่างของสหรัฐ ยุโรป และรัฐบาลไทย เริ่มมาใช้ Open Office มากขี้น

อุปกรณ์ต่างๆของไมโครซอฟต์ทำตลาดไม่ดีนัก รวมทั้ง ซูน ด้วย

บิล เกตต์ทะยอยล้างพอร์ตหุ้นของบริษัทตัวเองแล้ว ก่อนที่ราคาหุ้นของตนจะต่ำไปกว่านี้

ผู้บริหารระดับสูงโดน(ไล่)ออกหลายคนแล้วในหนึ่งปีที่ผ่านมา

นี่เป็นแนวโน้มที่น่าสนใจ และเป็นสิ่งบอกเหตุว่า วงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์จากไมโครซอฟต์คงจะเข้าขาลงก็เป็นได้

Wednesday, March 07, 2007

Clearing up political messes: it 's still a mess

This is my frank and neutral personal opinion, after reading several Thai news recently.

Closure of Shin Corp. 's subsidirary iTV station in Bangkok has created big international news. In local news, the situation has created some emotional news for we saw weeping iTV crews afraid to lose their good salary and job in the near future. Some Thais sympathize with them while some don't. (I do not have any feeling.) Staff of iTV had been regularly accused of supporting the previous Thai government, and continuing the support even after the coup, against the public opinion of most Bangkokians.

Wait till the foreigners in the public hear news about ThaiAirAsia that it might have already (and automatically) lost its flight license, and so does Shin Satellites on Thai government 's satellite license, unless the current Thai government intend to drag its feet a bit for fear that foreign investors would feel panic. Althought the reason on iTV 's closure was different (the management did not pay up the license fee), but it would be to the same effect if a law suit would reach the court and that it finally declares that Shin corp. had lost its Thai national status. I guess that may happen in the next few moths.

Oh, oh. How come I forgot to mention AIS, a mobile phone operator I used to subscribe to. One good thing I can only say about this company is that it knows how to hire good looking ladies to work at their cashier counters.

My first acupuncture experience

I am allergic to weather and dust (and perhaps smog in the Bangkok city), and had difficulty breathing by the nose at night, so the body automatically open the mouth and thus I usually snore. For some time, I heard acupuncture would cure it. This morning, I just had a chance to try it, in order to cure my snoring symptom.

I went to Mahidol University 's Tropical Medicine Hospital, Rajwithee Road near Victory Monument via SkyTrain. There were a few patients there waiting for available beds to have their acupuncture sessions and thus I had to wait for about 2 hrs before I saw the doctor. He did not speak much and after asking me few questions and knew my purpose he told me to lie down in bed and he quickly and gently pierced 11 (3 inches) needles into my face, throat, and hands. It was quite painless. I then had to lie still in bed for 30 minutes alone while the doctor went to see other patients. A moment later I could feel some mucous flowing in my throat. After 30 minutes, a nurse came back to me to remove the needles. The doctor said I should start feeling better today and in order to cure it I 'd need to have 10 sessions, once a week. This acupuncture clinic open only on Monday, Wednesday, Friday mornings so I had booked for my next visit in advance. I am anxious to see what happens to my body next morning

---------
FOLLOW UP NOTE

I felt better the next morning, and today is the 2nd morning. I will continue to the have the full course for sure. Yeh !

Saturday, March 03, 2007

ไปได้หนังสือธรรมะมาใหม่อีกแล้ว จากงานวันมาฆะบูชา ที่สนามหลวง

วันนี้รู้สึกฮึกเหิม ไม่กลัวข่าวว่าจะมีการวางระเบิด ไปงานวันมาฆบูชา ที่สนามหลวง คนมีมากปานกลาง พระก็แยะ ตำรวจทหารและอาสาสมัครก็มารักษาการณ์เป็นพันๆคน

เมื่อลงรถเมล์ผมก็ตรงดิ่งไปเลยก็ที่เต้นท์ของมูลนิธิภูมิพโลภิกขุ ไปได้หนังสือมามาก ได้แก่ชุด อภิธัมมัตถสังคหะ และ อภิธัมมัตถวิภาวินีฏีกา ปริเฉท ๑ ถึง ๙ บางเล่มตีพิมพ์ตั้งแต่ ๒๕ ปีมาแล้ว บางเล่มก็เพ่ิงพิมพ์ใหม่ ส่วนมากเรียบเรียงโดย อาจารย์ ไชยวัฒน์ กปิลกาญจน์ เว้นปริเฉทที่ ๗ ที่ใช้ชื่อว่า พระอภิธรรมพิสดารปริจเฉท ๗ เรียบเรียงโดย อาจารย์ ส. สายเกษม เมื่อเกือบหกสิบปีมาแล้ว ทั้งเก้าเล่มนี้ราคา 399 บาท พลิกอ่านไปสองเล่มแบบผ่านๆ ชื่นใจ ไว้จะไว้อ่านยามว่างต่อไป

ที่ได้มาอีกเล่มคือ พระไตรปิฎกเล่ม ๑ ฉบับมูลนิธิภูมิพโลภิกขุ ปกแข็งเล่มใหญ่มาก ราคาเล่มละ 299 บาทเอง กว่าจะครบชุด 108 เล่ม ไม่รู้อีกสิบปีจะพิมพ์ได้ครบหรือเปล่า คงจะไม่ได้ เพราะเป้าของเขาคือปีละ ๕ เล่ม ต้องยี่สิบกว่าปีถึงจะครบ พลิกอ่านไปบ้าง เล่มนี้เกี่ยวกับพระวินัย อธิบายพิสดาร พลิกๆดูท้ายเล่ม มีบางส่วนโจ๋งครึ่ม เข้าข่ายเรตเอ๊กส์ทีเดียว เพราะเขียนไว้ชัดเรื่องกรณีใดบ้างที่เป็นปาราชิก ได้ความเข้าใจว่าสมัยเมื่อสองพันหกร้อยปีก่อนเรื่องเซ็กส์มันก็มีคนบางคนที่วิตถาร อาจจะพอๆกันหรือยิ่งกว่าคนสมัยนี้ การที่ท่านเขียนไว้ชัดคงเป็นบรรทัดฐาน กับไว้ให้คนรุ่นหลังเอาไว้ปลงสังเวชละมัง

ก่อนกลับไปได้หนังสืออีกเล่มจากเต้นท์ของมหาจุฬาฯ วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม คือ มหาสติปัฏฐานสูตร ทางมุ่งสู่พระนิพพาน รจนา โดย พระโสภณมหาเถระ หรือ มหาสีสยาดอ แห่งประเทศพม่า แปลและเรียบเรียงโดย พระคันธสาราภิวงศ์ วัดท่ามะโอ จังหวัดลำปาง พิมพ์ครั้งที่สอง น่าอ่านดีมาก