Sunday, April 30, 2006

นกพิราบชักแยะมากไปแล้ว

บ้านชานเมืองบางที่มีนกพิราบแยะมาก ประชากรเพิ่มอย่างรวดเร็วในสี่ห้าปีที่ผ่านมา ถ่ายสกปรกเลอะเทอะไปหมด บ้านก็เหม็นถ้าบางทีเข้ามาอืในใต้หลังคา แหม หวัดนกไม่ยักกะจัดการพวกนี้แฮะ 

อันที่จริงนกแยะ เป็นเพราะธรรมชาติขาดสมดุลย์ ไม่มีเหยี่ยว หรือ รุ้ง อะไรมาคอยกิน เพื่อควบคุมปริมาณ

นกพวกนี้เป็นพาหะโรคให้กับคนในอนาคตได้สบายๆ 

Saturday, April 29, 2006

ติดฟิล์มบนจอโน้ตบุ้ค

ติดแล้วรู้สึกว่าจอมันชัดขึ้น สว่างขึ้น และสีสดขึ้น และจอก็ใสเหมือนกระจก ทำเอาจอผมดูดีขึ้นไม่น้อยหน้าเครื่อง ไวโอ ของโซนี่อีกต่อไป เวลาพิมพ์งานหรือดูเว็บก็จะแจ้ง

แต่แพงชมัด ๑๗๐๐ บาท เท่ากับฟิล์มติดกระจกหน้ารถยนต์ทั้งบานเลย

Friday, April 28, 2006

คนคิดไม่ได้ทำ คนทำไม่ได้คิด

จำได้ว่าสมัยก่อนมีงานการกุศล คนคิดโปรเจ็คอาจจะเป็นพวกไฮโซหรือผู้ใหญ่ ทำเอาคนระดับ ขรก. ชั้นผู้น้อยพลอยลำบาก บางทีก็ต้องเสียเงินซื้อของการกุศลที่บังคับซื้อหรือเรี่ยไรบ้าง ไม่งั้นบางทีก็ต้องไปออกแรง เช่นเดิน หรือ วิ่งการกุศล ฯลฯ (แต่คนส่วนใหญ๋ก็คงไม่ว่าอะไร บ้างก็เต็มใจ แต่พวกไอ้เณรที่ไปวิ่งเหงื่อตกจะเต็มใจหรือเปล่าไม่ทราบ) แต่น่าสนใจที่ว่า คนคิดโปรเจ็คลางทีอาจจะไม่ได้เสียเงิน หรือไม่ได้ต้องออกแรงก็ได้ แต่ว่าคงจะได้หน้าอยู่โข

ตอนนี้ก็ยังมีอยู่อีกแฮะ

เลยไปนึกถึงคำทายสมัยเด็กๆที่ว่า อะไรเอ่ย คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ และก็เลยดัดแปลงไปเป็นจ่าหัวข้อข้างบน

Wednesday, April 26, 2006

"Do it whatever you want, that is the real Thai"

That 's from a common Thai saying :-

ทำอะไรตามใจคือไทยแท้

A new 25 floor condominium is being built on a Bangkok road near my home, and it can accommodate 700 cars, and there would be a thousand residential units in it. Imagine the already worse rush hour traffic both in the morning and in the late evening. Sometimes, the vehicles already filled up the entire street already. I certainly wish the buyers of those condominium units a good patience whenever they decide to use their cars. Imagine that each morning and evening they will take an hour coming out or getting into their parking garages.

I think Thailand or Bangkok so far has not incorporated the calculation of car flux into the town planning. Any real-estate developers now can do whatever they want, sometimes against BMA 's rule(s) by using "under the table tactics."  I also wonder when they would have local community hearing like those in towns or cities in the US. Like another Thai saying, perhaps one has to wait until his "next life, in the afternoon" ( ชาติหน้าตอนบ่ายๆ ).

web censorship in Thailand

A recent blog from http://linux.thai.net/planet informed that a website relevant to an internet software tool, http://tor.eff.org/, has been censored by a Thai government agency. 

I can't help but feel "bored" as it shows to the World how lack-of-judegement or narrow-minded or low-IQ some low ranking Thai officials are.

Wednesday, April 19, 2006

เลือกตั้ง ส.ว.


วันนี้ผมไปเลือกตั้ง ส.ว. ตั้งแต่ ๘ โมงกว่าๆ เลือกท่านหนึ่งที่ผมศรัทธา โดยที่ไม่เคยเห็นมีป้ายหาเสียงของหมายเลขนี้ที่ไหนเลย จะดูซิว่าเข้าป้ายไหม

(หมายเหตุเพิ่มทีหลัง ... สรุปว่าคนที่ผมเลือกได้ครับ เย้)

ว่าแต่ว่า รัฐธรรมนูญบอกว่าห้ามหาเสียงเนี่ยนะ ป้ายปักเต็มกรุงเทพฯอย่างกะดอกเห็ด ลูกผมบอกว่าเต็มไปหมดเหมือนดอกไม้ เพราะโผล่ออกมาจากสนามหญ้าหรือโคนไม้ใหญ่สลอนเต็มเมือง ความเห็นที่ผมรำพึงก็คือ ๑) นี่ไม่ใช่หาเสียงนะเนี่ย ๒) เมื่อไรหนอผู้สมัครรับเลือกตั้งเมืองไทยส่วนมากหรือท้ังหมด จะเลิกใส่ชุดเต็มยศข้าราชการ หรือ ครุยปริญญา มาหาเสียงเสียที คนสมัยใหม่ไม่น่าจะโดนหลอกด้วยเรื่องเปลือกๆเช่นนั้นอีกแล้ว และป้ายเยอะแยะไปหมดเนี่ยไปบังทัศนวิสัย ก็ทำเอาคนขับรถที่ออกจากซอยต่างๆเดือดร้อน มองรถที่วิ่งมาตามถนนทางตรงไม่ค่อยเห็น อาจเกิดอุบัติเหตุรถชนกันได้ง่าย

มีอีกข้อนึงคือผมไม่เข้าใจความต้องการของคนบางคนที่ลงสมัคร สักแต่ว่าอยากให้คนอื่นรับรู้หรืออย่างไร คนคงไม่เลือกคนเหล่านั้นเพราะท่านจบดีกรีมา หรือเคยเป็นข้าราชการได้สายสะพายมา โดยสังคมไม่เคยรู้จักท่าน มันไม่ได้การันตีว่าท่านเป็นคนมีวิสัยทัศน์ และ มีคุณธรรม แต่อย่างใด

อีกเรื่องที่รู้สึกประหลาดก็คือในกรุงเทพฯมีผู้สมัครอยู่ ๑๒ คน จาก ๒๖๐ คน ที่อายุมากเกิน ๗๐ แล้ว เจ็ดสิบต้นๆพอว่า จะแปดสิบก็ยังมี ขอโทษที่จะพูดตรงๆว่า ท่านเหล่าน้ันขาดความรู้สึกสำนืกตัว ไม่ตระหนักว่าจะต้องให้ประเทศเสียเงินเลือกตั้งซ่อมหรือ หากว่าเกิดบางท่านได้ และก็ไปเสียชีวิตก่อนครบเทอม ๖ ปี คนที่อายุมากปานนั้น น่าจะไปหาที่สงบๆปฏิบัติธรรมเต็มเวลาท่าจะดีกว่า

Saturday, April 15, 2006

ฝนตกช่วงสงกรานต์ กับ โลกร้อน

ดูเหมือนเพิ่งจะสองสามปีนี้เองที่มีฝนตกหนักที่กรุงเทพฯช่วงสงกรานต์ สมัยสามสี่สิบปีก่อนมีที่ไหนกัน พอหน้าหนาวก็ไม่หนาว เห็นได้ชัดว่าภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนไป โลกกำลังร้อนขี้น และผู้นำประเทศใหญ่ๆเพียงสองสามคนเท่านั้นที่ตัดสินใจไม่ทำอะไร ในเรื่องการควบคุมปริมาณการปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์จากอุตสาหกรรมของประเทศตัว เพราะเห็นว่าความเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศตัวในสมัยที่ตนเป็นผู้นำนั้นมีความสำคัญกว่าความเป็นไปของทั้งโลก ไม่ต้องเอ่ยชื่อที่นี่ก็รู้ว่าใคร ถ้าไปตามข่าวดูเอาก็รู้

อีกร้อยปีกรุงเทพฯก็จะต่ำกว่าระดับน้ำทะเลราว ๒ ถึง ๓ เมตรแล้ว และร้อนกว่านี้อีก

ไม่ทราบว่า ผู้นำเหล่านั้นเห็นแก่ตัว หรือว่าจิตนั้นบอด หรือว่าโง่กันแน่ อาจจะทั้่งหมดก็ได้

Thursday, April 13, 2006

น้ำพริกกุ้่งเสียบ




ของอร่่อยที่ซื้อมาจาก เกาะปันหยี จังหวัดพังงา ก็คือน้ำพริกกุ้งเสียบสามรส ใช้ได้ทีเดียว ซื้อมาจากของคุณยายคนนึงชื่อ นางปิก สุทธิเส็ม โทร 06-267-0357 โพสต์รูปเกาะไว้ด้วยแล้ว
เกาะนี้ไม่ไกลจากถ้ำลอด เขาพิงกัน เขาตะปู เท่าไรนัก

RAM กับ notebook

โน้ตบุ้ค Mac PowerBook ของผมตอนแรกมีปัญหาเรื่องเครื่องชะงักบ่อยๆ เวลาเปลี่ยนจากโปรแกรมหนึ่งไปใช้โปรแกรมอื่น ดูเหมือนระบบต้องใช้ swap สำหรับ memory เลยเพ่ิม RAM ไปอีก ตอนนี้กลายเป็น 1.5 GB RAM ปรากฎว่าเรืื่องอาการชะงักหายไปแล้ว ไม่มีปัญหาอีกต่อไป ส่วนเรื่อง hard disk ที่มี 80 GB แล้วยังไม่พอใช้นั้นก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เว้นแต่จะไปซื้อ external hard drive สัก 300 GB มาใช้พ่วง แต่ก็จะไม่สะดวกนัก ตอนนี้เลยต้องพยายามก็อปปี้แฟ้มที่ไม่ใช้ลง CD / DVD ไว้ แล้วลบออกไปบ้าง

มหากาพย์พุทธจริต


ดูเหมือนจะเคยโพสต์ถึงหนังสือเล่มนี้่มาแล้วเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ก็ยังไม่ม่ีเวลาอ่านจนแล้วจนรอด วันนี้เลยไปหยิบเอา มหากาพย์พุทธจริต ออกมาดูพลิกๆดูอีกครั้ง แล้วเลยสแกนรูปมาโพสต์ไว้ด้วย อย่างน้อยสำหรับผมแล้วเล่มนี้ก็น่าจะให้อรรถรสถูกอัธยาศัยกว่า ดอนกิโฆเต้ เล่มนั้น ซึ่งหลังจากเคยกวาดสายตาผ่านๆเป็นช่วงๆไปแล้วก็คงเก็บไว้ยาวเลยไม่มีเวลาอ่านอีกนาน

Tuesday, April 11, 2006

เตรียมสอบ จูฬฯตรี แล้ว อีกสองเดือน

ตอนนี้กำลังทวนเรื่อง เจตสิก ในส่วน สัมโยคนัย สังคหนัย และ ตทุภยมิสสกนัย อยู่ ขืนไม่รีบทวนเดือดร้อนแน่ สอบมิถุนายน นี้แล้ว

งานแปล จบลง

งานแปลโครงการใหญ่ที่ผมเข้าร่วมกับนักวิชาการอีกราว ๖๐ ท่าน ในส่วนของผมเสร็จลงแล้ว โล่งอกไปที ส่งงานโดยทางอีเมล์ไปเมื่อเดือนก่อน

ทนลำบากมากมาหลายเดือน เพราะการแปลบังคับว่าต้องใช้โปรแกรมที่เขียนขึ้นมาโดยเฉพาะ และต้องรันบน Windows XP เท่านั้น เลยทำงานไม่สะดวก เพราะผมใช้  Mac ที่ที่ทำงาน และบนโน้ตบุ้คส่วนตัว ต้องไปเอาเครื่อง Windows XP เก่าตัวหนึ่งมาใช้ มีการใช้ XML tag และ encryption ด้วย 

จริงๆแล้วผมคาดไว้ตั้งแต่แรกว่าจะใช้โปรแกรมพวก บรรณาธิกรณ์ (text editor) ในการแปล แต่การจำต้องใช้ translator panel program ทำให้ไม่สะดวกไปแยะ

ที่จะบันทึกไว้ก็คือว่า การแปลโครงการใหญ่ๆเดี่ยวนี้ฝรั่งบังคับให้ใช้ XML tags แล้วนั้นแหละ เพื่อจะดวกในการดึงเนื้่อหาไปใช้ในหนังสือเล่มอื่นในอนาคต และในการทำเวอร์ชั่นออนไลน์ด้วย

เห็นว่าโดยภาพรวมแปลเสร็จไปแค่ 40% เอง สงสัยว่าปีหน้าจะได้เห็นออกมาจากโรงพิมพ์ไหมเนี่ย

ตอนแรกว่าจะอุบไว้ไม่บอกว่าหนังสืออะไร ไหนๆก็ไหนๆแล้ว บอกก็ได้ คือหนังสือ Concise Britannica Encyclopaedia ฉบับภาษาไทย น่ะซิ

ความเห็นเรื่อง ศิลาจารึก


ผมไปได้หนังสือที่สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์รวมผลงานท่านอาจารย์ประเสริฐ ณ นคร มาสองเล่ม คือ ประวัติศาสตร์เบ็ดเตล็ด เล่มนึง และ อักษร ภาษา จารึก วรรณกรรม อีกเล่มนึง เพิ่งอ่านผ่านๆไป แต่ก็มีเรื่องศิลาจารึกหลักที่ ๑ อยู่ด้วย ปนๆอยู่ทั้งสองเล่ม อ่านสนุกมาก

อันที่จริงผมเชื่อท่านอาจารย์ประเสริฐ และอีกหลายๆท่าน ว่าศิลาจารึกหลักที่ ๑ นั้นเป็นของพ่อขุนรามคำแหงจริง ด้วยเหตุผลสารพัดที่ท่านพูดมาในรอบหลายสีบปี ไม่ได้ของทำปลอมขึ้นโดย ร. ๔ ได้มาอ่านทบทวนในสองเล่มนี้ก็ได้ประเด็นครบขึ้น

ถึงตอนนี้หากว่าอาจจะยังมีคนไม่เชื่อก็ต้องปล่อยไป

แต่ผมมีเหตุผลอีกข้อที่ดูเหมือนจะยังไม่มีใครกล่าวไว้ แม้ในหนังสือของท่านสองเล่มนี้่ ก็คือข้อที่เป็นที่รู้กันว่า ร. ๔ นั้นท่านทรงรอบรู้และเคร่งในพุทธธรรมมาก ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าท่านทรงอุดมด้วยศีล และอาศัยเหตุนี้เอง การที่คนมีวิจิกิจฉาว่าท่านทำจารึกปลอมนั้น ไม่ได้ระลีกถีงธรรมในพระทัยของพระองค์เป็นแน่ ถ้าระลึกในข้อนี้ก็จะไม่ต้องสงสัยเลยว่าท่านไม่ได้ทำปลอม

เสิอร์ชเอ็นจิ้น สำหรับวิชาการ

นอกจาก Google Scholar แล้ว ตอนนี้ Microsoft Academic Search ก็กำลังจะออกมาแข่งเร็วๆนี้ แต่สำหรับผู้ใช้แม็ค อาจจะไม่สามารถใช้่ Safari browser ไปดูของไมโครซอฟต์ได้ อาจต้องไปใช้ตัวอื่นแทน อย่าง Mozilla / Firefox 

ตอนนี้กำลังคิดว่าจะเขียนบทความภาษาไทยสักเรื่อง เกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้

Thursday, April 06, 2006

แล็ปท็อปราคา ๔ พันบาท ออกปีหน้า

ไทยจะเป็นหนึ่งใน ๗ ประเทศของโลก ที่ได้แล็ปท็อปราคาตัวละ ๑๐๐ เหรียญสหรัฐฯ มาให้เด็กใช้ปีหน้า จากงวดแรก ๕ ล้านเครื่อง ไม่รู้ว่าจะมาไทยกี่เครื่อง อาจจะได้มหลายแสนเครื่องก็ได้ 

ดูสเป็คแล้วก็โอเค มี thumbdrive 512 MB เก็บข้อมูล ใช้ Red Hat Linux รุ่นพิเศษ RAM 128MB, 7" monitor (dual mode, 640 x 480 pixels in color for indoor use, 1110 x 830 pixels in Black & White for outdoor use)

ว่าแต่ว่า มีทำ content เตรียมไว้ให้เด็กไทยกันหรือยังก็ไม่ทราบ

http://www.eweek.com/article2/0,1895,1945967,00.asp

Monday, April 03, 2006

The Single book (title) for your life ?

I just went to the National books' week fair at QSNCC. Bought only one book for myself, the Thai translated version of Don Quijote, 830 Baht.
Claimed to be the must-read if you would read a single book in one 's life: which I did not quite agree. I 'd rather vote for the Tripitaka. Of course, that would be multi-volume tomes. Depending on the publisher, the Buddhism Compilation of Buddha's teaching in Thai texts could be 45- or 70 plus volumes.

Sunday, April 02, 2006

Tiny box on the Thai ballot's lower right corner

It seems that the inclusion of the small no-vote box onto Thailand ballot 's lower right corner was an after though. Who would have thought that one day it would become handy for a large number of people to voice their political opinion.

Let's see how many has ticked this on this snap election day. A number of pundits have predicted that this will be a dud election with no political solution to the highly polarized situation in Thailand now, yet the price tag is high at 2.2 Billion baht.