Friday, April 27, 2012

เมื่อไรห้องสมุดไทยจะดิจิไทซ์เนื้อหาไว้ให้สาธารณชนเสียที

ไปอ่านเจอเร็วๆ นี้ ห้องสมุดของอ๊อกซ์ฟอร์ด และ วาติกัน เริ่มจะดิจิไทซ์ข้อมูลเอกสารโบราณให้สาธารณชนได้เข้าถึง ตามข่าวนี้

ก็ทำให้ผมจำได้ว่า เมื่อไปห้องสมุดใหญ่ๆ แต่ละที่ ที่หนังสือมีแยะจนตาลาย ไม่รู้จะอ่านเล่มไหนดี แต่องค์ความรู้ในนั้น มีคนไทยไม่กี่พันคนเท่านั้นที่ไปนั่งอ่าน ในแต่ละปี ถ้าดิจิไทซ์เสีย คนไทยก็จะสามารถเข้าถึงได้ และก็สอดคล้องกับการที่เด็กไทยสมัยปัจจุบันมีเครื่องมือที่จะเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์ โน้ตบุ้ค หรือ ไอแพ็ด และเด็กๆก็กำลังจะมีเทเบล็ตจีน(ราคาถูก) แจกให้อีกในไม่ช้า

ก็ขอบ่นดังๆ ว่าเมื่อไรห้องสมุดไทยจะดิจิไทซ์เนื้อหาไว้ให้สาธารณชนเสียที (นี่ยังไม่ได้พูดถึงการทำดัชนี คือ indexing & annotations นะ แค่ดิจิไทซ์ได้ก็เป็นก้าวแรกแล้ว)

แต่เคยได้ยินภาษิตฝรั่ง จำได้คร่าวๆ และแปลเป็นไทยได้ดังนี้ว่า

นักวิทยาศาสตร์สามารถบอกได้ว่าเราทำอะไรได้มั่ง
วิศวกรสามารถบอกได้ว่าจะทำอย่างไร
นักเศรษฐศาสตร์บอกเราว่าควรทำหรือไม่
แต่นักการเมืองเป็นคนบอกว่าจะทำหรือไม่

คำบ่นนี้ สงสัยจะไม่ทันการเสียแล้ว คนไทยคงต้องรอยุคหน้า

update : สองสามวันหลังโพสต์นี้ ต่อมา ผมก็ไปเจอ Project Gutenberg Thai เข้าโดยบังเอิญ แต่ว่าตอนนี้หาเว็บไซต์ไม่เจอ ก็เลยอีเมลไปถามผู้ประสานงาน และก็ได้ความ ก็เลยได้เริ่มเป็นอาสาสมัครช่วยพิมพ์งานวรรณกรรมเก่าให้เขา วันละเล็ก วันละน้อย บ้างแล้ว
ก็สมกับคำกล่าวที่เคยได้ยินมาว่า "ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงโลกนี้ ก็ต้องเริ่มที่ตัวเราเองก่อน" หรือ "ทำดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ทำเอาเอง"

No comments: