Sunday, December 31, 2006

พระพุทธคุณคุ้มครอง

โพสต์นี้คงเป็นโพสต์สุดท้ายของปี พ.ศ. ๒๕๔๙ สำหรับบล๊อกนี้
เพื่อความเป็นสิริมงคล จึงใส่รูปหลวงพ่อ พระพุทธชินสีห์ ที่วัดบวรนิเวศน์วิหาร กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นมงคลแก่ข้าพเจ้าและเพื่อนๆที่ติดตามอ่าน ขอให้พระพุทธคุณคุ้มครองผู้ปฏิบัติธรรม ผู้มีคุณธรรม จงปลอดภัยจากสรรพภยันตรายทั้งปวง
ขอให้ความจำเริญในธรรมจงมีแก่ข้าพเจ้า สมความตั้งใจด้วยเทอญ

สิ้นปี ๒๕๔๙

สิ้นปีแล้ว เร็วเหลือเกิน ในส่วนตัวแล้ว เรื่องงานอะไรๆมันคาราคาซังอยู่แยะ อย่างไรเสียก็โพสต์รูปโต๊ะโล่งๆไว้เป็นกำลังใจ ว่าต่อจากนี้ไป โต๊ะผมที่บ้านจะเป็นอย่างนี้ นับจากนี้ไป จะได้ทำงานด้วยความสุขใจ และ มุ่งเป้าอย่างไม่วอกแว่ก

Bangkok residents are stirred up today

Today's small explosions in Bangkok is like a wake up call for Thai police nation wide. Perhaps they have been too relaxing in the past year. This was either a coordinated attempt by insurgents from the south to stir up Bangkokians a bit to show that they are still relevant, or an attempt by a group affiliated with politicians from former goverment to undermine the present Thai goverment. My businessman friends have been worrying about this for over a year, and this is just an event that will eliminate their fears. Now that what was feared has become a reality, perhaps we the public need to be more vigilant about our neighborhoods, workplaces, and where we go, but lives will go on as usual. Whatever that will happen, we can not control. Bad people will be caught up and punished with their bad karma oneday. This is Buddhist faith.

ทีวีแอลซีดี

แวะไปดูร้านของแซมซุงเมื่อวานที่เซ็นทรัลลาดพร้าว เห็นเขาโชว์ จอ 42" LCD TV ราคา 80,000 (แต่ลดให้สิบบาท) ดูเหมือนจะเป็น high definition จะว่าแพงก็แพง แต่คุณภาพก็สูง แต่ว่าไม่รู้จะใครซื้อมาทำไม เพราะเมืองไทยไม่มี HDTV แล้วใครจะไปซื้อไฮเดฟินิชันดีวีดีมาดูปีละกี่ครั้งกัน
ทืวีชนิดจอแบนแบบซีอาร์ทีตอนนี้ถูกมาก เคยเห็นคนซื้อจากดีพาร์ทเม็นท์สโตร์แยะ บางคนเห็นถูกๆก็ซื้อทีวีจอ 29" ผมว่าสุดจะเปลืองไฟ ไม่รู้ว่าซื้อไปทำอะไรกัน แล้วคนไทยส่วนมากไม่ได้มีคฤหาสน์หลังใหญ่ ซื้อไปไว้ในบ้านห้องเล็กๆ ดูทีวีใกล้มากๆเด็กจะตาถั่วหมด
แบบนี้โดยภาพรวม การใช้พลังงานเมืองไทยมันถึงสูงขึ้นๆ
ผมคาดว่าภายในปีสองปี คาดว่าทีวีชนิดซีอาร์ทีจะหมดไปจากท้องตลาด

Saturday, December 30, 2006

Number of Mac users in Thailand as of 2006

A Mac dealer came over to visit his customers in our office north of Bangkok. I had a brief discussion with him. At one time I asked him how many customers are using Apple 's Mac in Thailand. He said he does not know exactly but it should in in the range of 80,000 people, including those using older G3 systems.
My guess (guesstimate) further is this: assuming that there are about 4 million PC in use today (not counting very old machines that likely are either in storage or recycled) that would be about 2% of the country, which is about half of the estimated 4% worldwide.

อ่านสัมภาษณ์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จากขวัญเรือน Chalermchai 's interview

คนที่บ้านไปซื้อ นิตยสารขวัญเรือน มา ผมไปหยิบพลิกๆดูโดยบังเอิญ เลยเจอสัมภาษณ์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์

อ่านดูแล้วชอบมาก เพราะเขามีลูกบ้าแยะ และใช้ให้เป็นประโยชน์

เขาเป็นคนมีเป้าหมายระยะยาวในชีวิต ล่วงหน้าเป็นสิบๆปี
เขาเป็นคนมุมานะ ทำงานหนัก ยอมอดออม ยอมจน เพื่ออนาคตที่วางไว้
เขาวางแผนการเงินไว้ดีมาก จำได้คร่าวๆ เขาบอกว่า
เขาใช้เองส่วนตัว 10%
เขาให้ครอบครัว 30%
เขาเก็บออม 20%
เขาให้ลูกน้อง 10%
สงสัยทีเหลือเป็นต้นทุน เช่น ค่าวัสดุอุปกรณ์ สี และอาจจะเป็นค่าซ่่อมบ้าน และอาจจะเป็นค่าใช้จ่ายสังคม และทำบุญอีก

เขามีความปราถนาที่จะเป็นศิลปินเยี่ยมที่สุดในเมืองไทย และเป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลก
เขาต้องการจะฝากผลงานไว้ให้แผ่นดินไทย และโลก
เขาฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนา
เขามีบารมี มีลูกน้องแยะ เพราะแบ่งปันมาก

ผมนับถือ และ ศรัทธา ในความมุ่งมั่นของเขา

ผมจะทำได้แบบเขาไหม อาจจะยาก นิสัยมันเสียจนจะเป็นสันดาล พอแก่ตัวขึ้นแล้ว พระท่านเรียกว่าวาสนา

อย่างไรก็ดี ตั้งใจว่า อีกสองสามปีข้างหน้าจะแวะไปวัดร่องขุ่นอีก เพื่อทำบุญร่วมกับเขาอีกครั้งหนึ่ง

Taiwan earthquake and Internet & phone disruption in Asia

Asia 's Internet and international phones (including stock trading) in several countries have been affected since December 28 after a 5.5 Rictor scale earthquakes in Taiwan dirupted underseas cables. Thailand 's Internet went slow from that day. Expected to continue for at least 2-3 more weeks. I could not access some websites. Some Thai companies which use foreign servers could learn a big lessen when their websites could not be accessed (either by the webmaster, editors, or the customers) in Thailand.

Also this is a big reminder for government officials who are planners, and CAT Telecom people, and their clients (mainly ISPs). I understand that all the Internet gateway for Thailand must pass through the monopolic CAT gateways. This has created not only a severe botttle neck but also created an articially high cost for Internet communications for Thailand. Customers have been complaining and this is another complain.

I can also forsee a future problem that if a diaster, say a super storm hit Bangkok and then all the gateways in central Thailand are knocked out. Thailand 's communications would be paralysed. They have not taken advantaged of the distributed network structure of the Internet protocol to decentralize the country 's networks enough.

Is disinformation in advertisement legal in Thailand ?

Recently, I found advertisement of a big Chinese manufacturer of PC in Thailand's English language newspapers, the Bangkok Post, on several occasions. The same advertisement claimed that their computers are of such a good quality and they guarantee no virus can infect them. I found the wording disturbing.
I do not agree with the advertisement. I would call that a public propaganda or disinformation, a falsification, and directly aimed to mislead customers. I strongly believe that PC 's security depends mainly on operating system software. I suppose that disinformed advertisement could be illegal in other countries, but perhaps no one care much about it in Thailand.

สะท้อนมุมมองจากการไปเดินพันธุ์ทิพย์พลาซ่า

วันนี้แวะไปพันธุ์ทิพย์พลาซ่ามา หลังจากไม่ได้ไปมาหลายเดือน ร้านขายซีดีเถื่อนเหลือไม่มาก ราว ๑ ใน ๑๐ ของเดิม แต่ก็ยังไม่หมดไปเสียทีเดียว ที่อยากจะพูดถึงคือที่สังเกตุเห็นได้จากร้านใหญ่ๆสองร้านที่นั่น ร้านใหญ่ๆ หันมาขายของซัพพลายส์มากขึ้น ฮาร์ดแวร์ต่างๆน่าจะขายไม่ค่อยดี เพราะไม่ค่อยมีอะไรตื่นเต้นเท่าไรมากระตุ้นผู้บริโภค ผมว่าคงเป็นเพราะไมโครซอฟต์เลื่อนการออกโอเอสช้าไปหลายปี คนเลยไม่เห็นความจำเป็นของการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ และที่จะออกวิสต้ามาในเร็วๆนี้ ก็คงไม่ทันการเยียวยามากนัก เพราะเป็นมาตราการทางการตลาดมากกว่า ในทางเทคนิคแล้วโอเอสฟังดูผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นแล้วท่าทางไม่ค่อยพร้อมเท่าไร
ในอีกนัยหนึ่ง จะเห็นว่าบริษัทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก (ส่วนมากเป็นไต้หวัน ประกอบในจีนมากกว่า) และบริษัทเทรดดิง ร้านค้า ต่างๆ ขึ้นกับวินโดว์สมากแค่ไหน
อีกเหตุผลหนึ่งก็คงเป็นเพราะคนมีคอมฯและอุปกรณ์ต่างๆกันเกือบทั่วแล้ว ไม่ค่อยมีความต้องการอะไรใหม่ๆมากนัก
หรือไม่ก็เศรษฐกิจในส่วนลึกๆแล้วไม่ได้ดีมากนัก อัตราการเติบโตของจีดีพีไทยไม่ได้สะท้อนการกระจายตัวของเงินในสังคมเท่าไร

Saturday, December 23, 2006

พระวิสุทธิมรรค

วันนี้ไปได้หนังสือดีมาหลายเล่ม จากร้านหนังสือของมหามกุฏราชวิทยาลัย หน้าวัดบวรฯ แต่ที่จะพูดถึงคือ

พระวิสุทธิมรรค เล่มเดียวจบ มหาวงศ์ ชาญบาลี ผู้ชำระและตรวจสอบทาน

ท่านแรกพิมพ์ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๖ คงราวสมัย ร. ๖
ฉบับนี้ตีพิมพ์ใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕ หรือสิบสี่ปีมาแล้ว โดยโรงพิมพ์ธรรมบรรณาคาร ปกแข็ง กระดาษปอนด์ ๘๘๐ หน้า ราคาเพียง ๒๐๐ บาท
เหลืออยู่เพียงสองเล่ม เลยซื้อมาได้ ดีใจ เพราะคัมภีร์นี้ ภาษาบาลี รจนาโดย พระพุทธโฆษาจารย์ อายุตั้งเกือบ ๑๖๐๐ ปี ถือว่าเป็นคัมภีร์ยอดเยี่ยมของพุทธศาสนาเล่มหนึ่ง (คู่กันกับมิลินทปัญหา ที่เคยพูดในบล๊อกนี้มานานแล้ว) เมื่อเจอฉบับแปลไทยสำนวนโบราณๆ ก็อ่านดูด้วยความดีใจไปได้บางส่วน

ความจริงมีอีกสำนวนหนึ่ง เป็นของมหามกุฏราชวิทยาลัย เขาพิมพ์เป็นเล่มปกอ่อน แบ่งเป็นตอนๆ หลายเล่ม ก็น่าอ่านดี แต่ตัดสินใจเอาปกแข็งมา

Thursday, December 21, 2006

ไปซื้อหนังสือมาใหม่ "หลักธรรมในพระไตรปิฎก"

"ธรรมาธิบาย หลักธรรมในพระไตรปิฎก
อธิบายหลักธรรมสำหรับชาวพุทธ นักธรรมชั้นตรี ชั้นโท ชั้นเอก สมบูรณ์แบบ"
เรียบเรียงโดย อาจารย์ปัญญา ใช้บางยาง และ คณะ
สำนักพิมพ์ธรรมสภา และ สถาบันบันลือธรรม
พ.ศ. ๒๕๔๘

เป็นหนังสือปกแข็ง ๖๘๔ หน้า ขนาด ๘ หน้ายก เล่มหนาด้วย ใหญ่ด้วย เป็น tome เลยแหละ
กระดาษปอนด์หนา
ราคา ๖๐๐ บาท ได้ลด ๑๐ เปอร์เซ็นต์ในงาน ธรรมศาสตร์บุ้คแฟร์ ที่ศูนย์รังสิต
สรุปไว้ดีมาก แถมอ้างอิงพระไตรปิฎกต่างๆได้ละเอียดดีมาก
เหมาะสำหรับหนอนหนังสือที่สนใจธรรม และคนที่สนใจอยากสอบนักธรรม ในอนาคต

ยุคนี้คนเลวในสังคมมากขึ้น

ข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยช่วงนี้ มักมีเรื่องเผาโรงเรียนเป็นประจำ ตอนแรกๆก็มีแต่เผาโรงเรียนต่างๆใน ๓ จังหวัดภาคใต้ นอกเหนือจากฆ่าคนบริสุทธิ์ คนก็ว่าไอ้พวกโจรก่อการร้ายเนี่ยมันเลว โผล่มาจากขุมนรกจริงๆ ตอนหลังจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เกิดมีเผาโรงเรียนต่างๆในจังหวัดภาคอื่นๆด้วย เชื่อกันว่าคนทำเป็นลิ่วล้อของนักการเมืองสังกัดพรรครัฐบาลเก่า ก็เลยได้ข้อสรุปว่า ไอ้พวกนี้ก็เลวพอกัน พ่อมันเคยไปบริจาคเงินสร้างโรงเรียนไว้ตั้งแต่สมัยไหนให้มันมาเผาประท้วงได้ เด็กๆไม่มีที่เรียนกันไม่รู้กี่พันคน ดูข่าวแล้วก็เกิดโทสะจริงๆ ผับผ่า

สงสัยต้องสรุปว่า การศึกษาไทยล้มเหลว อีกแล้ว

ในตลาดหุ้นไทยนั้น นักลงทุนยังไม่พัฒนา

ผมยุ่งๆไปหลายวัน ตัดตัวเองจากข่าวสารต่างๆ รวมทั้งเรื่องการเงินการทอง สนใจแต่วิชาการ ก็ปรากฎว่าตกข่าว รู้ทีหลังว่าตลาดหุ้นไทยตกวูบไปแล้วแยะมาก วันต่อมาเด้งขึ้นมาหน่อย วันที่สามวูบลงไปอีก

ผมว่าเมืองไทยมีพวกแมงเม่าเล่นหุ้นมากเกินไป นักลงทุนประเภทซื้อแล้วแช่ เน้นคุณค่า ถือยาวๆมีน้อย
ผมว่าตัวผมอีกสองสามปีผมก็จะเผ่นอยู่แล้ว แต่นั้นมันคนละประเด็นกับที่อยากจะพูดวันนี้

จริงๆแล้ว เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องสมมุติทั้งนั้น (ทางอภิธรรมนั้นของแน่) อย่าง market capitalization เป็นต้น
ผมว่าไม่มีตรรยะเท่าไร ที่เอาความโลภ กับอารมณ์ของคนจำนวนหนึ่งไม่มากนัก แต่ซื้อขายรายวันในวันนั้นๆ เอาค่าไปคูณจำนวนหุ้นทั้งตลาด แล้ว มาใช้เป็นตัวกำหนดดัชนีทางเศรษฐกิจ ในกรณีนี้ก็คือ SET index แล้วคนก็โวยวายว่า มาร์เก็ตแค็ปหายไปหลายแสนล้าน มันเป็นเรื่องสมมุติทั้งเพ จริงๆที่มันหายไปน่ะ มันเป็นเพราะเงินดอลล่าร์สหรัฐอ่อนตัว เพราะไอ้กันมีหนี้ภาครัฐมากเกินตัวต่างหาก

Friday, December 15, 2006

คติสอนจากธรรมบท

อ่านธรรมบท ภาค ๑ ฉบับแปลยกศัพท์ ซื้อมาตั้งนานแล้ว ไม่ค่อยได้อ่าน วันนี้หยิบมาอ่าน ไปเจอตอนท้ายเล่มในเรื่องที่ ๑๔ เทฺวสหายกภิกฺขุวตฺถุ หรือ เรื่องแห่งภิกษุผู้เป็นสหายกันสองรูป ได้คติสอนใจตนเอง

กล่าวโดยสรุปตอนจบก็คือ ในสมัยพุทธกาล มีพระ ๒ รูปเป็นเพื่อนกัน รูปหนึ่ง สังวรณ์ว่าท่านอายุมาก ไม่เรียนปริยัติ แต่ปฏิบัติเลย จนบรรลุพระอรหันต์ ประกอบด้วย ปฏิสัมภิทา (คือมีฤทธิ์) แต่อีกองค์หนึ่ง ท่านไปสนใจศึกษาปริยัติ (ไม่ได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคล) แต่รีบออกไปสอนจนมีลูกศิษย์มากถึงห้าร้อยรูป ที่ต่างก็บรรลุพระอรหันต์กันแต่ท่านอาจารย์เองก็ยังไม่ได้บรรลุ ปรากฏว่า พระพุทธองค์ทรงเปล่งสาธุการกับพระอรหันต์ชราที่ไม่ได้เรียนปริยัตินั้น เปรียบว่าเป็นพุทธบุตรของพระองค์ แต่องค์ที่เป็นอาจารย์ปริยัติและไปเผยแผ่ธรรมะจนมีศิษย์มากมายนั้น ทรงเปรียบเสมือนลูกจ้างเลี้ยงวัว ที่เสมือนหนึ่งพระองค์จ้างมาดูแลฝูงวัว(คือเปรียบด้วยพระศาสนา) ลูกจ้างย่อมไม่มีสิทธิที่จะได้ลิ้มรสเนื้อโค ต่างจากบุตรของพระองค์เท่านั้นที่มีสิทธิได้ลิ้มรส(ดื่มด่ำในพระธรรม)

ผมก็ได้ความคิดว่า เท่าที่ผ่านมา ผมกำลังมุ่งสนใจไปทางปริยัติ แต่หากว่าพอแก่ตัวต่อไป ก็อาจจะเอาตัวไม่รอดก็ได้ ต้องปฏิบัติเป็นหลักจึงจะดี

Thursday, December 14, 2006

Mac dealers in Thailand

I just found a list of Mac dealers in Thailand posted at the website of Khun Rogers. The link is given above for anyone wanting to purchase a Mac to experience a new life on a computer.

I have one additional comment for Thai students or educators, you are eligible for (some) educational discount. But I was told that there is only one of those dealers in the list which is authorized by Apple (Thailand) to give educational discount. Look for Unity Progress in that list.

Tuesday, December 12, 2006

เรื่องของฟอนต์ไทย

วันนี้ได้มีโอกาสเจอคนที่คุ้นเคยกันท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นคนทำฟอนต์ภาษาไทยออกมาเป็นจำนวนมาก ตระกูล UPC ผมเลยยกประเด็นเรื่องการพิมพ์ภาษาบาลีโดยใช้ตัวอักษรไทย ตัวอื่นๆโอเคแล้ว เช่น ฐ ถ้ามีจุดข้างใต้จะเป็น ฐฺ (ฐานหายไป) หรือ ฏ ถ้ามีจุดข้างใต้จะหลบหดขึ้นเป็น ฏฺ แต่ตัวขนาดเล็กจะดูยากนิดหนึ่ง

ที่ยังเหลือปัญหาก็ตรง

กึง กิง กิํ

(หมายเหตุ คำว่า กิง นั้นแปลว่า อะไร (อิอิ ตลกพระ แหละ) )

สังเกตดูคำที่สาม ก ิ ํ เวลาพิมพ์ปรกติ สระอิไม่หลบหยาดน้ำค้าง ซึ่งตามหลักจะต้องหลบ ท่านบอกว่าขนาดก่อนทำก็ปรึกษาท่านเจ้าคุณแล้วนะเนี่ย แต่ผมแย้งว่า ท่านเจ้าคุณก็อาจจะลืมไปก็ได้ แต่แกก็รับปากว่าจะไปแก้ไขฟอนต์ให้สระอิหลบหยาดน้ำค้างให้ในโอกาสหน้า คงได้ตอน OSX 10.5 ออกซะละมัง

ถ้าตัวฟอนต์เล็กจะดูยากหน่อย อย่างผมดูบนจอ 15" ขนาดพิกเซล 1440x960 ก็ตัวเล็กมาก

นี่เป็นเพราะไปเรียนอภิธรรมหรอกก็เลยต้องพิมพ์บาลีในเครื่องแม็ค แล้วก็เจอปัญหานี้

Sunday, December 10, 2006

การลดความดันโลหิตสูง

โรคนึ้เริ่มเป็นกันในคนอายุมากขึ้น เลขสี่สิบไปแล้วต้องระวัง อาหารต้องอย่าไขมันมาก กินผลไม้และผักแยะๆ ลดพวกเนื้อสัตว์ใหญ่ และต้องลดการกินเค็ม อาหารควรเป็นอย่างในรูป

นอกจากนี้ ก็ต้องออกกำลังกายทุกๆวัน หรืออย่างน้อยอาทิตย์ละสามวัน ใครจะใช้วิธีเดินก็ได้ หากเป็นชาวพุทธออกกำลังกายด้วยการเดินก็ดี ถือโอกาสจงกลมเจริญวิปัสสนาไปด้วยเลย ยิงนัดเดียวได้นกสองตัว คือออกกำลังกาย และฝึกจิต

Saturday, December 09, 2006

ไปซื้อ แมกนีเซียม เม็ด มารับประทาน

แวะไปศูนย์หนังสือจุฬาฯ มาเมื่อวันก่อน ไม่ได้อะไรติดมือมา แต่ไปพลิกๆดูหนังสือเล่มหนึ่งชื่อแม็กนีเซียม สารอาหารที่ถูกลืม (หรืออะไรทำนองนั้น) ที่หมอคนหนึ่งเขียน เลยออกมาซื้อแม็กนีเซียมเม็ดจากร้านบู้ทส์ ๒๘๐ บาท ๕๐ เม็ด
กลับมาด้วยรถไฟฟ้า ขณะรอรถอยู่ก็คิดเล่นๆว่า ถ้าหมอคนเขียนหนังสือแกไปใช้โมเดลธุรกิจสมัยใหม่คือ ครบวงจร ได้แก่ ขายหนังสือด้วย (นอกเหนือจากเปิดคลีนิค) แล้วยัง ขายยาเม็ดที่โปรโมตด้วย น่าจะรวยอื้อซ่า เพราะได้สามเด้ง

ไปศูนย์อาหารห้างแห่งหนึ่งกระเพาะปลาใส่เลือดหมูแยะๆ แถมด้วยแม็กนีเซียมเม็ดที่เพิ่งซื้อมา และตามด้วย เม็ดเหล็กสีแดงสด ที่ได้จากกาชาดฯ หลังบริจาคเลือด

กลับมาบ้าน ดูจากอินเตอร์เน็ต เราไม่ควรกินเกิน 350 mg ต่อวัน ปกติคนเราไม่ค่อยขาดแมกนีเซียมเท่าไร

บริจาคเลือด ให้ทานด้วยเลือดของเรา

ไปบริจาคเลือดมาที่ ศูนย์บริการโลหิต สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ รู้สึกดีมาก ไม่เพลียอย่างที่เกรง ตอนเจาะเลือดก็ไม่เจ็บ ตั้งใจว่า จะมาบริจาคทุกๆสามเดือนต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้สุขภาพดี และเข้าใจว่าจะช่วยกันเรื่องความดันโลหิตสูงได้

ที่นั่นมีคนมาบริจาคอยู่เรื่อยๆ แม้เป็นวันธรรมดา คนมีหลากหลาย คนทำงานออฟฟิส แม่บ้าน ชายหนุ่มแต่งตัวไม่เรียบร้อย นักศึกษาในเครื่องแบบ สุภาพบุรษสุภาพสตรีสูงอายุกว่าผม แม้กระทั่งเด็กสาวหน้าซื่อๆราวกับมาจากจังหวัดชายแดน คนเหล่านี้ต่างมีน้ำใจเผื่อแผ่แก่ผู้อื่น คนที่ตัวเองไม่เคยรู้จัก เห็นได้ว่า คนเราตัดสินความดีกันด้วยรูปภายนอก หรือสถานะทางสังคม และเศรษฐกิจไม่ได้

Migrate to new service

This is just a note for myself: I have migrated all my 5 blogs at blogspot to new Blogger Beta service of Google's. Now they will enable tagging in the post as well. I have yet to check out any other new features.

I just found out that the tag feature here also sort the tags alphabetically, even in Thai language. Say I input numerous tagging words in Thai, in an order that I thought was relevant, but the published version of the tag list was different, like that of a Thai dictionary.

Tuesday, December 05, 2006

วันอังคาร แต่ไม่ใช่สีชมพู เป็นสีเหลือง

วันนี้น่าจะต้องจารีกไว้ในหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย คนไทยกว่า 90% หรืออาจจะ 95% ทั่วกรุงเทพฯ อาจจะทั่วประเทศก็ได้ แต่งเสื้อเหลืองกันหมด ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก ผู้ใหญ่ คนชรา หรือ ไม่ว่าจะเป็นคนระดับกลาง หรือ คนยากจน กรรมกร เพาะว่าเป็นวัน ๕ ธันวาคม เป็น วันเฉลิมพระชนมพรรษา ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ของชาวไทย

ปกติผมไม่ค่อยใส่เสื้อเหลือง เพราะเคยรู้สึกว่ามันเป็นการ ปจว. ของรัฐบาลทักษิณ เลยไม่ค่อยชอบ และอีกอย่างก็ไม่อยากแต่งตัวเหมือนใคร ก็นึกขวางๆมาเรื่อยๆ แต่วันนี้ยกเว้นหนึ่งวัน ใส่ด้วยใจครับ

อ่านข่าวจากเน็ต เห็นว่าวัดไทยในต่างประเทศก็มีการสวดมนต์ถวายด้วย

Sunday, December 03, 2006

หนังสือน่าอ่านอีกเล่ม

เพิ่งไปซื้อหนังสือที่ซีเอ็ดมาอีกหลายเล่ม แต่เล่มที่นั่งอ่านก่อนเลยก็คือ หนังสือชื่อ

วิธีคิดที่ทำให้ประสบความสำเร็จและแตกต่างจากคนอื่น
แปลจาก
Don't Eat The Marshmallow ... Yet !

พิมพ์ครั้งที่สี่แล้ว

อ่านรวดเดียวจบภายในหนึ่งชั่วโมง เพราะเล่มบางๆ อ่านแล้วก็รู้สึกว่าดีมาก ผมจดประเด็นไว้ในกระดาษ แล้วกำลังจะเข้าคอมพิวเตอร์ต่อไป เพื่อเอาไว้แก้นิสัยตนเองที่เสีย ที่เป็นคนประเภทไม่ชอบรอกินขนมมาชเม็ลโลว์ หรือ สำนวนไทยเขาก็มี บอกว่า ไม่ยอมอดเปรี่ยวไว้กินหวาน

นับว่าเป็นหนังสือที่ให้ take home lessons ได้ดี ย่อๆ และ ตรงไปตรงมา ตอนท้ายๆ ผมน้ำตาซึมเล็กน้อย กับเรื่องที่เขาเล่า (แม้ว่าผมรู้สึกว่าเรื่องมันอาจจะเป็นเรื่องสมมุติก็ตาม)

ปริญญากิตติมศักดิ์ แจกกันอีกแล้ว

"มหาวิทยาลัย" ไทยบางแห่งชอบแจกปริญญากิตติมศักดิ์ (ที่ต้องใส่เครื่องหมายคำพูดเอาไว้ เพราะว่าบางแห่ง ชื่อเป็นมหาวิทยาลัย แต่ ระดับมาตราฐานการศึกษาทางวิชาการไม่ถึงขั้นนั้น)

เมื่อเร็วๆนี้ก็มีการให้ปริญญาเอกแก่วีไอพีต่างชาติไปหนึ่งท่าน ผมว่า เบื้องหลังก็คือต้องการ ภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัย ในกลุ่มประชากรเป้าหมาย มากกว่าอย่างอื่น แต่ผมไม่รู้ว่ามหาวิทยาลัยนั้นเขามีคุณภาพดีหรือไม่ และมีการเรียนการสอนระดับปริญญาเอกอยู่แล้วหรือไม่

อันที่จริงมีเมืองไทยมีมหาวิทยาลัยชั้นนำ หลายๆแห่งที่มีหลักสูตรดีๆ และเขาก็มีการเรียนการสอนที่ดีในระดับคุณภาพนานาชาติถึงปริญญาเอก เขาถึงมีการให้ปริญญาเอกกิตติมศักด์ได้ อันนี้โอเค และวิธีปฏิบัติคือเขาให้คนที่สมควรได้รับเกียรติจริงๆ

แต่ก็มีหลักสูตรอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่มีการเรียนการสอนปริญญาเอก แต่ก็แจกปริญญาเอกกิตติมศักด์ ซึ่งนับว่าผิดวิธีปฏิบัติเป็นอย่างมาก เข้าข่ายสินค้าเลียนแบบ เพราะจริงๆหลักสูตรนั้นๆยังไม่มีความสามารถการสอนและการวิจัยที่ได้มาตราฐาน ไม่มีนักเรียนปริญญาเอก แต่ก็อยากให้ประชาชนภายนอกเข้าใจว่าหลักสูตรของตนมีมาตราฐาน โดยการแจกปริญญาให้วีไอพี หรือให้คนมีชื่อเสียง และพ่อค้าใหญ่ๆที่พร้อมจะจ่ายเงินบริจาคเพื่อให้ได้ ปริญญาเอกกิตติมศักด์ แล้วคนที่ซื้อปริญญาเอกกิตติมศักด์พวกนั้นก็พากันเรียกตัวเองว่าดอกเตอร์ โดยที่ ทำเนียมปฏิบัตินานาชาตินั้น คนที่ได้ปริญญาเอกกิตติมศักด์เขาจะไม่ใช้คำนำหน้านั้น

เขียนบล๊อกวันนี้ด้วยความรู้ตัวว่า มีอกุศลจิตอยู่เล็กน้อย แต่ก็พยายามให้เป็นเหตุเป็นผลที่สุดแหละ เพราะอยากให้อะไรๆมันเป็นไปในทางที่ควร

Saturday, December 02, 2006

ไปฟังธรรมหลวงพ่อเลี่ยม ที่ ธรรมศาสตร์ รังสิต

แวะไปฟังธรรม ที่หอพระ ธรรมศาสตร์ รังสิต มา

วันนี้เขานิมนต์ หลวงพ่อเลี่ยม หรือ พระวิสุทธิสังวรเถร เจ้าอาวาส วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี มา ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อชา ท่านอายุราว 67 ปีแล้ว ท่านบวชมาตั้งแต่เณรอายุ 19 ปี พรรษาท่านยาวมาก ผมสัมผัสถึงความเย็น ความสงบและเมตตาของท่าน และท่านดูจะมีอาการเขินเล็กน้อย แม้ว่าท่านจะเปี่ยมไปด้วยสัมมาสมาธิ ตอนท่านพูดเองท่านก็พูดทำนองว่า มาพูดให้คนมีความรู้ฟัง ดูเหมือนท่านจะถ่อมองค์มาก

ผมฟังดูแล้วก็มีความรู้สึกว่าท่านรู้วาระจิตของผู้ฟังส่วนมาก แต่ว่าท่านไม่สนใจจะสะกิดใคร หรือไม่ต้องการจะแสดงให้ใครรู้ว่าท่านรู้ว่าใครคิดอะไร ท่านมองหน้าผมเป็นครั้งๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ผมก็รู้สึกว่าท่านสงบดีมาก

ช่วงที่ฟังผมอุตส่าห์คอยมีสติ ตามดูกายดูจิตอยู่บ่อยๆ มีเวทนาต่างๆก็รู้ไป หลวงพ่อท่านก็สอนให้คนในห้องให้ตามรู้กายตามรู้จิต แต่ผมว่าคนที่ไม่มีพื้นมาก่อนน่าจะไม่ค่อยเข้าหัวเท่าไร โชคดีเราเบสิคดีอยู่แล้วจากหลวงพ่อปราโมทย์สอนมา ทำให้รู้ว่าท่านสององค์ก็สอนตรงกัน

อาคารปฏิบัติธรรมเขาสร้างน่าอยู่ แต่ร้อนอย่างกะเซาน่า เหงื่อซก ทั้งๆที่อากาศภายนอกก็ไม่ร้อน (หน้าหนาวที่เหงื่อแตกปีนี้ของกรุงเทพฯ) ต้องอาศัยจิตตานุปัสนา ตามรู้ว่ารู้สึกร้อน ก็เลยตัดไปได้บ้าง

New prefix for mobile phone numbers in Thailand takes effect

A moment ago, I spent about half an hour today editing dozens of phone numbers in my mobile phone. TOT had added number 8 again in the second digit, after a couple years ago they forced people to add a prefix 0 to form a first digit. Now all mobiles phone numbers have 10 digits, currently all starting with 08- . I just did not want to spend a couple hours hopping on to Skytrain to MBK center to my phone shop to reprogram those numbers. By the way, I am a minority of people in Bangkok, which use Hutch CDMA system. I believe they have less than 1 million subscribers at the moment.

Monday, October 30, 2006

คราวนี้โน้ตบุ้คเปิดไว้ ๒๘ วันก่อนจะแฮงก์

สถิติสำหรับเฉพาะตัวผมเอง สำหรับเครื่อง แม็คพาวเวอร์บุ้คจีโฟร์ โน้ตบุ้ค ใช้ โอเอสเท็น รุ่น 10.4.8 เปิดไว้ ๒๘ วัน โดยที่หิ้วสลับไปใช้ไปๆมาๆระหว่างใช้ไวไฟที่บ้านกับที่ทำงานทุกวันเช้าเย็นๆ ก่อนจะแฮงก์ ดูเหมือนโปรแกรมที่ใช้จาวาที่ยังเป็นเบต้าอยู่เป็นสาเหตุ ทำให้ต้องกดปุ่มรีสตาร์ท ถ้าไม่งั้นน่าจะอยู่ได้สองเดือนสบายๆ จอจนอัพเกรดเป็นรุ่นต่อไปนั่นแหละค่อยรีบู้ท

Saturday, October 28, 2006

The movie on King Naresuan

I just saw that they had set up a big beautiful booth with big plasma display at the Paragon showing trailer of the movie, King Naresuan. This is the movie a lot of Thai will be anxiously waiting to see this coming December 2006, after the movie Suriyothai. I certainly will not miss. See the movie's website in the link given above.

A later news indicated that the Thailand premier will be on January 17, 2007.

Wednesday, October 25, 2006

A new Disneyland for Thailand ?

I just found a short news that a well-known Thai liquor billionaire is negotiating with Disney about setting up Thailand Disneyland in Hua-Hin in a 10,000 rai plot of land.

If that is fruitful, I think it 's going to adversely affect the serene beach resort of Hua-Hin. A few ten thousands of additional tourists per day. And the normally-quiet Hua-Hin airport, which only serves as commercial pilot training site, would become very busy and noisy with jetliners. Imagine a few jets touching down the runway every hour to shuttle ten thousands of tourists each day ! That's a nightmare for peace-seeking vacationers and retirees in Cha-am and Hua-Hin area. And the King lives at the Klai-Kangwon Palace not far away from the the airport as well.

Sunday, October 22, 2006

Internet Addict

ตามข่าวบอกว่า คนอเมริกันเป็นโรคติดอินเทอร์เน็ตกันแยะ ราว ๘ เปอร์เซ็นต์

ผมก็สงสัยและกลังว่าผมก็อาจจะพอเข้าข่ายก็ได้ ก็คงจะบล๊อกน้อยลงไปกว่านี้ เพื่อจะปรับให้เข้าสู่สมดุลย์ใหม่

Good to read: เด็กป่าซาบิเน่ Dschungelkind by Sabine Kuegler

I just bought a book, translated from German into Thai language, entitled in Thai as เด็กป่าซาบิเน่. Bought it at 8 p.m. and I thought at first I would just quickly scanned through. But really, I carefully read from beginning to the end until I just finished by 1:30 a.m. next day, a moment ago, and is still fully impressed. So I want to jot in my blog here. The cover of the Thai version said it is being licensed to translate into languages of 24 countries. Sure it is fun to read.

At first I planned about buying this one for both my daughter and me but after I finished it I think the content is a bit too heavy for even a 12 year old bookworm girl.

Wednesday, October 18, 2006

Luangphor Uttama passed away

From Thai television news as well as the web, the venerable Luangphor Uttama, passed away of septicemia. The elderly monk is widely repected by Thais, Mons, and Burmeses. The Mon ethnic Buddhist monk escaped the civil war in Burma into Thailand several decades ago and built the Wat Wangwiwekaram monastery in Sangkhla Buri district of Kanchanaburi, not far away from the Three Pagodas Pass. His current temple, as well as his former temple, which is now submerged under the water level after a dam construction decades ago, are major tourist attractions.

I recall the 3 Characters of all entities in Buddhism, called Triluksana, namely the Dhukka (suffering), the Anijjata (starting, establishing, terminating), the Anatta (non-selfness), and my feeling is neutral on this (Ubekha).

Gates Foundation gave money to Bangkok Public Library

I found a sentence from Thai news about the current Books Fair at QSNCC today, indicating that BMA (Bangkok Metropolitan Administration) 's Public Library branch at Lumbhini Park would get a financial support from Bill & Melinda Gates Foundation. The renovated branch would then serve as a show-case model for other branches later, perhaps city-wide and then country-wide.
This is a big issue for me, since I personally think Thailand needs to have more local district libraries with better book collections. (My personal collection might be bigger and of superior quality than those of many districts' libraries.) For the given grant, I think it 's good news that we are getting something back for billions of Baht that Thailand has paid to MicroSoft 's legal softwares, some money of which ended up to the Gates and eventually to the Foundation. I 'd like to record my appreciation to the Foundation here, on behalf of fellow Thai people, although I am a Mac user.

Update: A few weeks after this post, Thai news sources indicated that the donation was via MicroSoft Thailand. I think it 's tricky way that they did this. The money donated via the Foundation might be tax deductable in the US for Microsoft. And in Thailand, the same money channeled thru MicroSoft Thailand might also be tax deductable for MicroSoft Thailand. Double whammy. Tax break for 2 countries: if my speculation is correct. This is a smart move for M$.

Sunday, October 15, 2006

ประเทศที่มีชาวพุทธมากที่สุดในโลก

ประเทศไทยอาจจะไม่ใช่ประเทศที่มีชาวพุทธมากที่สุดในโลก แต่น่าจะเป็นอินเดีย เพราะเมื่อ ๕๐ ปีมาแล้ว หรือในปี ค.ศ. 1956 Ambedkar ได้รณรงค์ให้ชาวจัณฑาลที่โดนกดขี่ที่สุดในอินเดียเปลี่ยนมาถือพุทธ อย่างไรก็ดี คนฮินดูที่อยู่ในภาครัฐของบางรัฐก็ยังออกกฎหมายมากดขี่อยู่อีก ถือว่าพุทธเป็นสาขาหนึ่งของฮินดู เพื่อมิให้คนพวกนี้เปลี่ยนศาสนาได้ตามกฎหมาย นับว่าน่าอเน็จอนาถมาก จำนวนคนที่ถือพุทธอย่างเป็นทางการจริงๆจึงไม่มีใครรู้ แต่ก็อาจจะเกือบร้อยล้านก็ได้

คนไทยที่ถือพุทธ นับว่าโชคดีที่เกิดมาในประเทศไทย ถ้าไม่ใช้การเกิดในชาตินี้ให้เป็นประโยชน์ก็นับว่าเสียโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย

Tuesday, October 10, 2006

ยอดขาย แม็ค สำหรับ ควอเตอร์นี้

อ่านข่าวเจอบอกว่า นักวิเคราะห์ประมาณการณ์ไว้ว่า แอปเปิล (Apple) น่าจะขาย แม็ค (Mac) ได้ในควอเตอร์ ๔ สำหรับปี ค.ศ. ๒๐๐๖ นี้ราว ๑.๔ ล้านเครื่อง ถ้าคูณสี่เข้าไปเอง ปีหน้าอาจจะขายได้ ๕.๖ ล้านเครื่อง อัตราการเจริญเติมโตของแม็คสูงดี แต่ยอดรวมแล้วก็นับว่ายังไม่แยะ และส่วนมากเขาขายได้ในสหรัฐฯ ทั่วโลกน่าจะขาดคอมฯได้ปีละเป็นร้อยล้านเครื่อง ส่วนในเมืองไทย คนใช้แม็คยังมีไม่มากนัก เพราะคนซื้อคอมพิวเตอร์เปล่าและไปใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนกัน ซอฟต์แวร์เถื่อนเนี่ยปราบไม่หมดซะที

อีกข่าวที่อ่านเจอสองสามวันต่อมา บอกว่า ที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ยอดขายแม็คคิดเป็น 45% ของยอดขาดพีซีทั้งหมด ชาวแม็คต่างตื่นเต้นกันใหญ๋ ส่วนมากคงเป็นพวกเยาวชนรุ่นใหม่ ผมนั้นไม่รู้สึกตื่นเต้นนัก เพราะว่ายังไม่เท่าเมื่อราวๆ สิบห้าปีก่อนเสียด้วยซ้ำ สมัยนั้นมหาวิทยาลัยจำนวนมากในสหรัฐฯ เป็นแม็คแคมปัส 100% อย่างเช่นที่แน่ๆก็ คอร์เนล แหละ ตอนนั้นผมยังซื้อแม็คทูเอสไอ จากร้านของมหาวิทยาลัยในราคาพิเศษ เลย เครื่องนั่นตอนนี้ก็ยังเก็บอยู่ในกล่อง ไม่ได้เปิดมาเป็นสิบปีแล้ว

แนวโน้มต่อไป อีกสามสี่ปีจะมาแรงกว่านี้อีก คอยดูต่อไป

ข่าวต่อมาบอกว่า จริงๆแล้วควอเตอร์ที่ผ่านมาขาย Macintosh ได้ 1.6 ล้านเครื่อง

A new Thailand's government

From the new cabinet appointed on October 9, 2006, Thailand has finally got its best best Minister of Science and Technology, and its best Minister of Information and Communication Technology ever. They are among the brightest and most accomplished Thai Professors in their respective field. I 'm quite anxious to see how they would change the landscape of academic Thailand in the next 1 yr. At least I expect they 're going to do a lot of foundation and ground breaking works to finally move Thailand 's science & technology and ICT into 21st century. I really hope so.

News agencies had focused on economic ministers so I had to write this one to log this important aspect into the history as well.

Sunday, October 08, 2006

สงสัยต้องปล่อยปลาไปหนึ่งมือ

โบราณว่าไว้ อย่าจับปลาสองมือ

ผมเองก็จับปลาสองมือมานานเป็นปี
เปล่า ไม่ได้ไปจีบสาวพร้อมกันสองคนหรอก แต่มีภาระอะไรๆที่ต้องใช้เวลาสองอย่างน่ะ

สงสัยต้องปล่อยปลาทิ้งไปหนึ่งตัว แล้วเอามือที่ปล่อยแล้วนั้นกลับมาช่วยอีกมือหนึ่งจับภาระเดียวนั้นไว้ให้มั่น อย่างน้อยก็ช่วงสามเดือนนี้

ความหมายก็คือว่า ผมตัดสินใจจะทุ่มเทให้งานประจำที่ทำอยู่ ซึ่งถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ ทำงานเพื่อครอบครัวไว้ก่อน ผมจึงจะแช่แข็งการเรียนพระอภิธรรมผมไว้ก่อน ผมจะงดไปเรียน ในเทอมนี้ และยังไม่ลงชื่อเพื่อสอบเลื่อนชั้นในเดือนธันวาคมนี้ สอบไปก็คงผ่านแหละ แต่คิดว่ายอมเรียนซ้ำชั้นดีกว่า เรียนเพื่อให้ความรู้แน่นๆ ดีกว่ารีบๆผ่านไป เรียนช้าไปอีกปีนึง มรรคผลนิพพานคงต้องรอไปอีกนิด

คงต้องเป็นไปตามนั้น

ลีโอเพอร์ด Leopard

อ่านข่าวดูคุณลักษณะของโอเอสใหม่ที่จะออกมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าของแอปเปิ้ล ทำให้ผมเกิดกิเลสพอกพูน เกิดความอยากได้

ก็ได้ตั้งใจไว้แล้วว่าอีกราว ๑๐ เดือนจากนี้ไป จะอัพเกรดโอเอส ของเครื่อง G4 Powerbook ของผมจากรุ่น OS-X 10.4 Tiger ไปเป็น 10.5 Leopard

ทำไมผมถึงอยากอัพเกรดนักน่ะหรือ ก็มีคุณลักษณะอะไรๆที่โดนใจหลายอย่าง อย่างเช่น
ก็จะมีการแบคอัพอัตโนมัติน่ะสิ โดยใช้ ไทม์แมชีน
และก็ สปอตไลท์ ตัวใหม่ ผมเป็นคนที่ใช้สปอตไลท์เสอร์ชเป็นประจำ ขาดไม่ได้ รุ่นปัจจุบันยังรู้สึกว่าไม่ค่อยดีเรื่องอินเตอร์เฟซ
และที่สำคัญก็คือ เวอร์ชวลเดสก์ท็อป ที่จะมีมาให้กับโอเอสด้วย ผมก็ขาดแทบไม่ได้

อีกอย่างหนี่ง ผมเชื่อว่า คุณลักษณะที่ยังอุบไว้อย่างหนึ่งคือ multi-resolution fonts. ซึ่งจะเหมาะสำหรับคนวัยเกินสี่สิบที่ตาเริ่มจะแย่ลงๆ ก็อาจจะออกมาด้วย

แล้วถ้างั้นทำไมถึงจะรอช้านัก ตั้ง ๑๐ เดือน
ก็ผมคาดว่า Apple จะออกลีโอเพอร์ดมาอย่างช้าก็ราวเดือนมีนาคม ปีหน้า (2007) ผมก็เลยกะว่า หลังจากนั้นก็จะรออีกนิดให้มันมีการออกรุ่นใหม่ย่อยๆมาอีกสักสองครั้ง และเพราะว่าโดยเฉลี่ยแล้วการออกแพทช์ของแอปเปิ้ลจะมีออกมาทุกๆสองเดือน ก็เป็นอันได้ข้อสรุปว่า ผมควรจะอัพเกรดในเดือนสิงหาคมปีหน้า หรืออีก สิบเดือนข้างหน้านับจากนี้ไป น่าจะดีที่สุด
แต่ก่อนหน้าจะอัพเดทนั้น ก็คงต้องให้แน่ใจก่อนว่าโปรแกรมต่างๆนั้นจะใช้ได้กับ 10.5 ด้วย รวมทั้งภาษาไทย

เข้าใจว่าเครื่อง G4 notebook น่าจะยังใช้ได้ไปถึง 10.6 เพราะแอปเปิ้ลมีประวัติที่มักซัพพอร์ทลูกค้าที่มีเครื่องเก่าไปสามรุ่นซีพียูให้อัพเดทไปใช้โอเอสใหม่ได้ ดังนั้น เครื่องนี้ก็หวังว่าจะใช้ไปจนมีอายุไม่ต่ำกว่า 6 ปี

โพสต์ที่นี่ก็มาจากจีโฟร์พาวเวอร์บุ้คเนี่ยละ

โฮมสวีทโฮม

เพิ่งถีงบางอ้อเมื่อสักครู่ ความจริงน่าจะรู้มาตั้งนานแล้วว่า

๑ ไม่มีเว็บไหนให้ข้อมูลตรงไปตรงมาตลอดเวลาหรอก ไบอัส (biased) มากบ้างน้อยบ้างเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะพยายามทำดีที่สุดแค่ไหนก็ตาม
และก็
๒ ไม่มีเว็บไหนให้เราที่เป็นคนอื่นเข้าไปโพสต์อะไรต่ออะไร โดยไม่เซ็นเซอร์ หรือแก้ไขดัดแปลงตามที่เจ้าของหรือเจ้าหน้าที่ของเขาเห็นสมควรหรอก ดังนั้น ต้องใช้สำนวนโบราณว่า ต้องกลับมาแผลงรัง ท่าจะดีที่สุด เพราะที่บล๊อกนี้ เราเป็นผู้ใช้ผู้มีอำนาจเต็ม (ไม่อยากบอกว่าเป็นเจ้าของ เพราะว่าเขาให้ใช้ฟรีๆ ไม่เสียเงินสักกะตังค์) จะเขียนอะไรก็ได้

แต่ว่าก็ว่าเหอะ ที่ของเรา เราก็ไม่เขียนอะไรให้มันเข้าป่าเข้าพงหรอก ความเห็นที่เขียนออกมานั้นมันก็ต้องสมศักดิ์ศรีเจ้าของบ้าง (หลุดจนได้ว่าเป็นเจ้าของ) อย่างไรก็ดี เราก็เขียนอะไรๆโดยที่ไม่มีใครมาแก้ไขได้ เรารับผิดชอบเนื้อหาไปเต็มๆ

และก็บล๊อกนี้ เราใช้อำนาจเต็ม ไม่ให้คนอื่นโพสต์เข้ามา เหตุผลของเราก็ง่ายๆ คือ
ก็ถ้าสมมุติว่าเป็นสมุดไดอะรี่เป็นเล่มๆของคนอื่นเขาวางไว้ในที่สาธารณะ อย่างเช่นโต๊ะในห้องสมุด ใครควรจะสะเออะไปเขียนคอมเม็นต์ในสมุดของเขาล่ะ แค่เข้าไปเปิดอ่านก็เสียมารยาทแล้วใช่ไหมล่ะ

รู้สึกอบอุ่นเมื่อได้กลับมาโพสต์ที่บล๊อก"ของตัวเอง"อีกครั้งหนึ่ง

ก็เลยจ่าหน้าไว้ข้างบนว่า โฮมสวีทโฮม ไงล่ะ

เอวัง ก็มีด้วยประการะฉะนี้ ฯ

โพสต์ที่เนื้อหามีความสำคัญที่สุด

ก็คือโพสต์ที่แล้วนั่นแหละ หากว่าข้อความที่โพสต์ไว้นั้นจะอยู่ไปอีกนาน อาจจะเป็นอนุสติให้สรรพสัตว์ร่วมทุกข์ที่มาอ่านเจอ ได้คิดอะไรบ้าง และอาจนำไปสู่การมีความเห็นที่ถูก คือ เกิดปัญญา ขึ้นมาบ้างก็ได้

Saturday, October 07, 2006

Buddhism's essence core of principles

What is the ultimate teaching principle of Buddhism ?
As "I" have read, studied, heard, and practiced, "I" can simply summarize the answer as these:-

To teach oneself that
This body is not mine. The body is not myself.
This mind is not mine. The mind is not myself.
There is no real thing such as I and self, the body and mind are just part of the Universe, and are indifferent from other entities.
Me, people, animal, are not real. (Much like the fact that a car is also not real: a car is just a composite entity of spareparts, even composite of atoms, molecules, etc.)

"I" is not real, hence the quotation.

Buddhism can not be ultimately appreciated if one limits the learning by "trying to understand" theoretical or academic subject. It can be fully and deeply understood only after one keeps on observing the body and mind of oneself. It could take years, decades, even future reincarnations before one can deeply understand the true meaning of what "I" have cited above.

Notice "my" wording of "to teach oneself", which means that even Lord Buddha could only gave hints, only each "person" could really teach and fully convince "oneself".

Tuesday, October 03, 2006

Many Farang reporters did not have a clue

From the view points as I could read from the web, it 's clear that westerners have different view points from Thais on the situation in Thailand.

I am thinking of an analogy: just like when termites were attacking our house, so we had to dismantle several parts of the house and rebuild a number of structures , while our neighbors would just kept on complaining that we should stop the repair and go on with normal life. Many of them did not have a clue.

Another thing that I found again and again, many foreign reporters do not know that a white uniform in Thailand is not always a military one, but it could be one of many civil servants' uniforms. The new PM, in the ceremony to receive the Royal Command, was in the official Prime Minister uniform. One has to look at the shoulder pad to see his government ranking position (a political one) and the brass pins at the neck to see his affiliated Ministry.

Sunday, October 01, 2006

Thailand has got the 24th Prime Minister

The King has signed a Royal Command to appoint the new Prime Minister. Gen. Surayud Chulanont, former Thai Army Commander in Chief, former Supreme Commander, and former Privy Councilor (he just resigned to accept this new position) has formally received the Royal Command at the Government House. In a week after this, after the new PM has selected cabinet members and they are appointed by another Royal Command, and only after they have an audience with the King to give a vow, then the new Thai cabinet can start to function.

From the web's voting, it appeared that over 97% of Thai net-users agreed that he is the best choice. I think so too. Regardless of what some western governments and foreign scholars say, Thai people should know best about who should best run their country for the interest of the Thai citizens, not to please or to serve foreign interests or international conglomerates.

My another trip to Pantip Plaza

Hard disk prices are cheap these days, and getting cheaper every month. Today I just bought 320 GB Seagate Barracuda 7200 rpm 16 MB cache SATA drives, 2 of them in fact, from Pantip Plaza in Bangok. I also bought an aluminium case to house both of them together, with 2 FireWire 800 ports, a FireWire 400 port, USB 2.0 port, cooling fan at the back, and all cables provided. The aluminium case looks well matched with the G5 tower.

Back at home, I checked for the price of the drive in the US from the Internet and found that the price I paid (~4200 Baht) was about or 10% higher than a price quoted on a web in the US ($95). That 's normal since we have to pay 7% tax (Thailand 's VAT). In addition, IT retailers in Bangkok have also generally said that, although Thailand 's import tax of this type of products is 0 percent, they still have under the table cost to pay anyway, not to mention their own profit margin.

I did not bother to check the price of the aluminium case, which has no brand. I bought it at about 6000 Baht. At first I was looking for a cheaper case, but that would not have FireWire 800 port which is twice the speed of FW400 or USB 2.0 Most Windows PC do not have FireWire 800 port, only the Mac computers do. With smaller number of Mac customers in Thailand, that 's why cases with FireWire 800 port are a lot more expensive.

Now I am all set since I have got external back up hard disks with 640 Gb capacity for my data. Since this unit needs external electricity, looks like I should use UPS for this stuff.

Wednesday, September 27, 2006

How to go to Suvarnabhumi airport ?

Bus numbers to the new Bangkok International Airport I got from Prachachart Business newspapers are indicated here :-

549 red line, Suvarnabhumi airport - Minburi & Bang Kapi
550 blue line, Suvarnabhumi airport - Happy Land
551 brown line, Suvarnabhumi airport - Victory Monument
552 yellow line, Suvarnabhumi airport - Onnuj (BTS terminal at Sukhumvit)
553 green line, Suvarnabhumi airport - Samut Prakan
554 pink line, Suvarnabhumi airport - Rangsit
purple line, Don Mueang Airport (old Bangkok International Airport) - Suvarnabhumi Airport

The linked article above is in Thai language.

Tuesday, September 26, 2006

To fly or to drive ?

I have a meeting to attend in a southern city in Thailand in the next few months ahead. I was pondering if I should fly there by using AirAsia but decide that I do not want to risk losing money. Now that Thaksin is gone, there is a chance that Thai AirAsia may lose its flight license from the next Thai government in the next few months since it is now foreign-majority owned. An alternative for me is to use One2Go. Nok Air does not fly there: too bad. Perhaps I should drive my BMW workhorse instead: it 's just one day drive anyway.

Saturday, September 23, 2006

Thailand starts to increase scientific computational power

I heard that Thai Grid project just purchased a teraflop cluster for scienfitic & research computation. If I remember correctly, it has 200 nodes (with 2x Xeon dual core cpu, thus effectively equivalent to 800 cpu) Anyone can request to accesss it for free, at least for now. Yesterday, I also heard that BIOTEC is planning to buy another scientific cluster in the coming few months, in additional to their existing bioinformatic clusters. It 's exciting to see that computational research is now taking off well in Thailand.

Friday, September 22, 2006

Quite a traffic jam for me today

I was driving home this evening, along the Paholyothin highway heading back into the city from the northern part of Bangkok was unexpectedly clogged at Km. 36. I was suspecious and guessed of what had happened. Trucks and cars had to slow down when they passed through a group of parked M48A5 tanks guarding the north highway. After a few minutes, I then found the the real cuprit. The tanks were sitting on the road side so they did not really obstract the traffic. It 's actually a few cars which parked near the tank column and a few dozens of Thai people and kids who stopped to take pictures with the tanks' crews as well as slowed down cars had created the minor traffic jam. I was not in a bad mood too much. Earlier during lunch time, a friend of mine had asked me jokingly if I had been out to take some pictures with the tanks yet. I replied to her, "No, not yet". Remembered that, I smiled as I continue driving pass the tank column.

Opinions on the 19 September 2006's Coup in Bangkok

Officials of some foreign governments did not have a clue when they criticized the coup in Thailand although some international news commentators seemed to get their analyses right.

In my view, situation in Thailand a year before was analogous to a coma patient, not only being infested with lots of blood sucking parasites, but also many of her crucial organs were failing to function while no immune system was working to get rid of the pests at all. That 's the situation of Thailand under the regime of Thaksin and his cronies. The new situation is like an unavoidable major operation where multiple surgeries would be done quickly and simulatenously. That 's why lots of people in Bangkok were joyous, quite surprisingly unexpected for foreigners. I believe the new situation has opened up only a good opportunity. Anything could not get worse: only getting better.

We 'll see how things develop in the next few months. Only time can prove those them wrong. I truely believe my instict won't be wrong. In the meantime, I think I can do fine without a chance to comment on some online news for a few weeks ahead.

Wednesday, September 20, 2006

Political situation in Thailand was unlocked by the coup on September 19

Today I can't resist writing on a topic I had always wanted to avoid. I want to make some historical remarks on recent Thailand's key event.

Majority of educated or well-informed Thais had wanted Thaksin removed from premiership for a few months without success. Thaksin Shinawatra had been hanging on as caretaking PM for too long, months longer than the 120 days stipulated by the current Thai consitutution. It took the last resort, a one-step backward by westerners' view, to unseat him. Now that the Thai armed-forces have staged a coup, the caretaking PM was announced out, to the delight of most Bangkokians. From now, various illegal irregularities under him would be surely be subjected to rectifications and legal punishments. Government officials would no longer feel under pressure to do their job by skirting around the laws to satisfy the former PM. (Some of those who did will be punished for sure.)

A minior point to note: I think the abrupt announcement of public holiday would adversely affect income of ten thousands of food vendors at various offices around Bangkok and perimeters. These people earn their living day by day, and surely they 're going to miss lots of customers and be broke for a few days.

Friday, September 15, 2006

Suvarnabhumi airport has started limited flight services

From Thai news sources, the new Bangkok International Airport has started its limited operation yesterday for some local and regional low-cost airlines, essentially without serious problem. Travelers like the new airport. In the next 13 days, full operation will start. I am glad that the full-service day is coming.

My own feeling is that the new airport might reach capacity of 100 million passengers per year in just a decade or less, thus it 's a good idea to keep the original Don Mueang Airport handy for future use. The day when two airports are needed will come to Bangkok. A third one, if needed few decades later, would need to be built in the Gulf of Thailand then.

แง่คิดจาก ดร. อาจอง

ไปฟัง ดร. อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา บรรยายมาเมื่อวาน ที่ สวทช. มีประเด็นน่าสนใจหลายประเด็น

๑ การเรียนในโรงเรียนนั้น การสร้างคนดีสำคัญที่สุด นักเรียนของอาจารย์นั่้น แม้แต่เด็กเจ็ดขวบก็ยังคิดถึงการให้ การเอื้อเฟื้อผู้อื่น เด็กคนหนึ่งบอกว่าโตแล้วอยากเป็นขั้นบันได เพื่อว่าจะให้คนอื่นก้าวไปบนตัวเขาไปสู่ความสำเร็จ แม้ตัวเองจะเจ็บบ้างก็ไม่เป็นไร นี่คือเด็กเจ็ดขวบของโรงเรียนสัตยาไส ที่เข้าสมาธิในห้องพระทุกเช้าตอนตึห้าครึ่ง น่าเลื่อมใสทีเดียว

๒ อาจารย์ได้ยกตัวอย่างมากมาย เรื่องคนหลายๆคน รวมทั้งนิวตัน และ ไอน์สไตน์ ที่ประสบความสำเร็จในการทำสมาธิ จนความหยั่งรู้ผุดขึ้นมาเอง รวมทั้งอาจารย์ด้วย
อาจารย์แนะว่า ถ้ามีคำถามที่อยากรู้คำตอบให้ตั้งคำถามก่อนนั่งสมาธิ แล้วในที่สุด คำตอบจะออกมาเองให้เรารู้ในใจ ผมคิดว่าผมจะลองเอามาใช้ดูบ้าง

๓ อาจารย์แนะวิธีเรียนอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ เรียนในขณะหลับ ใช้เทปเปิดในขณะนอนหลับ ฟังซ้ำๆไปมา ตื่นขึ้นมาจะจำได้ เพราะขณะหลับนั้นจิตใต้สำนึกไม่ได้หลับไปด้วย

๔ อาจารย์ยังพูดแย้มถึงพลังงานรูปใหม่ให้นักวิจัยไทยฟังถึง อย่างน้อยสองครั้ง เป็นพลังงานที่ทรงพลังยิ่งกว่าพลังงานใดๆ จะยังให้มนุษย์สามารถเดินทางไปที่ใดๆแม้สุดกาแล็กซี่ได้ในพริบตา ท่านรู้ได้จากการเข้าสมาธิ จนเกิดจิตพุทธะเกิดขึ้น แต่ท่านจะไม่เปิดเผยความลับดับกล่าว เพราะกลัวมหาอำนาจเอาไปใช้สร้างอาวุธเพื่อประหัตประหารผู้คน

Wednesday, September 13, 2006

กฏหมายไทยตามไม่ทันเรื่อง โนมินี

วันนี้ข่าวจากบางกอกโพสต์บอกว่า กฤษฎีกาสรุปแล้วว่า บริษัท ไทยแอร์เอเชีย หลังจากปรับโครงสร้างใหม่แล้ว ยังเป็นบริษัทคนไทยอยู่ แม้เทมาเส็กจะได้ไปครองจากบริษัทชิน แล้ว

ก็จริงตามตัวอักษรนั่นแหละ เด็กอมมือก็อาจจะยังรู้ด้วยซ้ำ แต่กฎหมายไทยไม่ก้าวหน้าเท่าของสิงคโปร์ ไม่รู้จักเรื่องโนมินี
ว่ากันว่า มีบริษัทต่างชาติหลายร้อยบริษัทเข้ามาจัดตั้งโนมีนีในไทย เพื่อเลี่ยงกฎหมาย ยกไว้คงเป็นพวกบริษัทไอ้กัน เพราะได้รับยกเว้น บริษัทอเมริกัน สามารถมาทำมาค้าขายในไทยได้โดยเสมือนหนึ่งมีสัญชาติไทยอยู่แล้ว (คิดเรื่องนี้แล้ว เมืองไทยก็ไม่ต่างจากปอโตริโก ที่มีสภาพด้อยกว่ารัฐหนึ่งของสหรัฐ ไม่ได้เป็นรัฐที่ ๕๑ เสียที)

ดูๆ เมืองไทยเนี่ยคนไทยไม่มีปัญญาจัดตั้งบริษัทใหญ่เอาเลยจริงๆ

แต่ประเด็นที่ผมไม่ชอบก็อยู่ที่ว่า ไทยแอร์เอเชีย ได้สิทธิทางภาษีจากบีโอไอ มากเหลือเกิน ตอนนี้อ้อยเข้าปากช้างไปแล้ว ใครจะเอาคืนได้

บันทึกต่อท้าย
ดูเหมือนสรุปข่าวข้างต้นที่ออกมาจะคลาดเคลื่อนไป อ่านข่าวจากที่อื่นยาวๆบ่งว่า กฤษฎีกาไม่ได้สรุปอย่างนั้น เขาสรุปแต่ประเด็นทางกฎหมาย จริงๆแล้ว ถ้ามีโนมีนีจริงก็หมดสิทธิบินแล้ว

Monday, September 11, 2006

ประเทศด้อยพัฒนากับประเทศพัฒนาแล้ว

เด็กในชนบทในประเทศสารขันธ์กำลังจะได้ US$ 130 hand-crank laptop ที่ลงระบบ Linux ในปีหน้า (แต่ไม่ใช่ไม่ดีนะ ดีพอใช้ เป็นระบบ Unix-like) แต่เด็กนักเรียนในสหรัฐฯ เริ่มได้ MacBook ราคา USD 1000 กันแล้ว แม้แต่ในโรงเรียนมัธยมที่อยู่ห่างจากบริษัท ไมโครซอฟต์ไปเพียง 30 km. นักเรียนราว ๔๘๐๐ คนก็ยังได้ใช้ OS-X Tiger (based on BSD Unix)

แต่ทว่า ผมว่าความแตกต่างสำคัญอยู่ที่ความพร้อมของซอฟต์แวร์ และ คอร์สแวร์ภาษาไทยต่างหากที่น่ากังวล มิใช่รูปลักษณ์ หรือสมรรถนะของเครื่อง จะเป็นรถอีแต๋นหรือรถเบนซ์ก็เป็นพาหนะพาไปสู่ที่หมายได้พอๆกัน (ในที่นี้คือการเรียนรู้)

Another day in my office in Thailand

My dual G5 cpu Power Mac desktop could not access the office's network today. It has been offed by over 1 week when I was away to attend a meeting outside. Interestingly, the problem turned out to be the fullly booked IP numbers in our floor. This is an inherent problem of IPv4 network: if you had more than 254 devices then you have a problem in your neighborhood. My G4 notebook that I routinely use as a workhorse has not detected any problem earlier because it has been using WiFi network all the time, and that uses another set of IP numbers reassigned by the wireless router in our group's room.

Today I already got a replacement battery for my G4 laptop from Unity Progress. Perhaps that 's among the first replacements in Thailand. (My G4 I bought 10 months ago was also among the first batch in its lot that arrived in Thailand.) Quite a quick replacement after I was told by the company last week that I might have to wait 2 more months to get the new battery from the Apple 's battery recall program. Mine was one of those 1.8 million batteries (manufactured by Sony) being recalled free of charge by Apple few weeks ago. Great service.

Friday, September 08, 2006

Will Thailand hold General Election in October ?

If Thailand will hold election in October 2006 at all, no party except TRT has started their advertisements yet. Perhaps they do think it will not be held in time for this October. (Budgeting wise, this will be bad for the government 's fiscal management since we have no functioning parliament to pass the budget now)

Looking around my district in the Bangkok city, there has been only big plastic posters (size around 1x2 meter) from a new-face candidate from Thai Rak Thai. Looks like he is running just to get recognition and TRT people know that he 's not likely to get elected anyway. One interesting point is that, there is no PM Thaksin's picture to be seen at all. Perhaps the PM wants to keep a low profile from Bangkokians for the election, hoping that his candidates will get more scores if his image is not pasted on the top right corner or standing shoulder to shoulder with each candidate as in the past elections.

Note:- I am posting this as a matter of fact to record eye-witness 's historical information, not trying to make any political statement here. (Ha, ha. Nevertheless, one can guess or even bet with very high probability score of what my political viewpoints is like. But I will stick with my own policy of non-politics blog here. :-) )

Post-posting comments: As of early September, now it is likely that the election might be postponed to at least November 2006 (or even later).

Sunday, September 03, 2006

สนามบินสุวรรรณภูมิ

Floor plan of the new Bangkok International Airport, Suvarnabhumi International Airport, is linked above. In case someone want to see it.

(By the way, this is info for non-Thai. The airport name is pronounced Su-wan-na-poom, from an old (few millenia) Pali name of continental Southeast Asia, meaning the golden land. The weird spelling was put up in order to preserve its Pali root)

A day after this blog was posted, a news came up that the former engineering scholars of King Anandamahidol Scholarships has a forum to express their view of the design of the airport, and all its past design problems. So I 'd like to add these some more.

Here I 'd like to record one instance of my long-held opinion on the dislike of the glass structure of the new airport. It 's going to be hot as hell and it will be extremely costly to chill down the glass terminals in sunny Bangkok (a.k.a. the largest single structure airport terminal in the World, 3 km long across). Watch for it. I think the stock price of AOT will be negatively affected if people figure out soon how much monthly electricity cost the company has to pay for the electicity, not to mention paying more to upgrade all the current structural deficiencies, including the lack of sufficient toilets and handicapped's facilities.

Friday, September 01, 2006

วินโดวส์วิสต้า จะออกเมื่อไร

ข่าวบอกว่า Vista จะออกราวเดือนมกราคม ๒๕๕๐ อเมซอนเปิดรับออร์เดอร์ล่วงหน้าแล้วด้วย สำหรับความเห็นของผมก็คือ มันแค่เป็นกลยุทธทางการตลาดของไมโครซอฟต์แค่นั้น ประชาชนผู้บริโภคคงไม่มีใครโง่ไปสั่ง vaporware ล่วงหน้ามาใช้หรอก ตอนนี้ได้ข่าวว่า RC1 ก็ยังคงไม่ค่อยสมบูรณ์ ผมประมวลความเห็นคนได้ว่า ถ้าออกมาได้จริงก็อาจจะไปมีนาคมโน่นเป็นอย่างเร็ว
แล้วพอถึงเวลา Apple ก็จะเกทับด้วยการออก Leopard หรือ  OS-X version 10.5.0 ออกมา ซึ่งมีคุณสมบัติใหม่ๆเพียบ ในขณะที่วิสต้าก็จะเจอโรคเลื่อนอีกแน่นอน อันนี้เชื่อขนมกินได้เลย
ดังนั้่นผมก็จะเตรียมอัพเกรด Tiger เป็น Leopard อยู่แล้วในกลางปีหน้า ที่ต้องทิ้งระยะหน่อย กะว่าต้องให้ซอฟต์แวร์ที่ใช้ไม่มีปัญหา คงต้องรออย่างน้อยรุ่น 10.5.3 ไปแล้วนั่นแหละ เพื่อให้แน่ใจว่า ฟอนต์ภาษาไทยจะไม่มีการออกอาการสระลอยอีก และคงถือโอกาสเปลี่ยนฮาร์ดดิสด้วยเสียเลย เล็งไว้ว่าต้องอย่างน้อยเป็นขนาด 120 GB

ปัญหาสำหรับคนส่วนใหญ่ที่ใช้ระบบวินโดวส์

ลูกศิษย์คนหนึ่งของผมแจ้งว่า เขามีปัญหาว่าไวรัสติดคอมพิวเตอร์ที่บ้านงอมแงม ผมเลยต้องงัดความรู้สมัยใช้เครื่องพีซีระบบวินโดวส์ตอบไป บอกเขาไปว่า ให้ไปดาวน์โหลด โปรแกรมพวกนี้มาลงเสีย
๑ โปรแกรมป้องกันไวรัสที่ชื่อ AVG
๒ โปรแกรมกำจัดสปายแวร์ ที่ชื่อ Spybot
๓ โปรแกรมไฟล์วอลล์ ที่ชื่อ ZoneAlarm

และก็แนะนำเขาไปว่า ต่อไปให้ไปซื้อ Apple MacBook มาใช้เสีย เพราะไม่มีไวรัส ไม่มีสปายแวร์ ราคาไม่แพงมากนัก รวมซอฟต์แวร์มาเสร็จ ที่ขาดเหลือยังไปดาวน์โหลดมาได้จากอินเทอร์เน็ตอีก

ก็เลยโพสต์ไว้ที่นี่่ด้วย

Thursday, August 31, 2006

A Thai book review: วิปัสสนาญาณ

หนังสือวิปัสสนาญาณ โดย นวองคุลี วัดสุวรรณประสิทธิ์ คลองกุ่ม บึงกุ่ม กรุงเทพฯ พิมพ์ที่ธรรมสภา (พิมพ์คร้ังที่ ๓) ราคา ๑๕๐ บาท

ผมไปได้หนังสือเล่มนี้มาจากร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ อ่านแล้วชอบมาก ถ้าใครอยากรู้เรื่อง ญาณ ๑๖ หรือ โสฬสญาณ ก็ต้องอ่านเล่มนี้ เพราะอธิบายไล่ไปทีละญาณเลยทีเดียว

เล่มนี้เหมาะสำหรับนักปฏิบัติ ที่ทำวิปัสสนา เพราะต่างก็ย่อมจะต้องปฏิบัติโดยให้ได้ญาณแรกเป็นพื้นฐาน นั่นคือ นามรูปปริจเฉทญาณ เพื่อให้สามารถแยกรูปแยกนามได้ถูกต้อง และนี่ก็เป็นเพียงแค่บทที่หนึ่งที่กล่าวถึงญาณแรกเท่านั้น

เนื้อหาเล่มนี้ถ้าจะว่าไป สำหรับคนทั่วไป ต้องถือว่าหนักเอาการ แต่สำหรับนักเรียนอภิธรรม ต่อให้เป็นผู้ศึกษาในชั้นต้นก็อ่านได้สบายมาก เพราะย่อมมีความอดทนเพียงพออยู่แล้วในการอ่าน และอาศัยพื้นฐานที่เรียนมาจากพระอภิธรรมแม้เพียงชั้นต้นก็ทำให้การอ่านเล่มนี้เป็นได้อย่างเพลิดเพลินได้

Thursday, August 24, 2006

จิตเครียดก็รู้ว่าเครียด

พยายามรู้ตัวบ่อยๆ เป็นการวิปัสสนาในชีวิตประจำวัน บางทีเริ่มจะเครียด พอรู้ตัวก็จะหายไป แต่บางครั้งช่วงนี้ก็ไม่เวอร์ค เรื่องงานมันโหลดมากไปหน่อย บางทีต้องเอาสมถะมาช่วย

แต่มาวันนี้ เอะใจตั้งแต่เย็นแล้ว ขับรถกลับบ้านตอนเย็น ทำไมรถนักข่าวทีวีซี่งกันจัง มาเป็นขบวน พอตกค่ำถึงเดาได้ เพราะหันไปดูข่าวการเมืองจากเว็บ พออ่านไปเรื่อยๆก็รู้สึกเครียดอีกแล้ว ต้องออกไปจงกลม

ถ้าเป็นสมัยก่อน มีพระผู้ใหญ่มาจุดเทียนเดินกลางวันแสกๆแล้วบอกผู้คนว่า บ้านเมืองทำไมมันมืดมนอย่างนี้ ตอนนี้คงไม่มี ขนาดเพราะมหาเถรสมาคมก็ทำอะไรไม่ได้กับคนที่ปาราชิกไปแล้วให้ขาดจากความเป็นพระ

ต้องหันเข้าหาพระธรรมที่ว่าทุกอย่างเป็นทุกข์ เป็นอนิจจัง เป็นอนัตตา อย่างเดียว


Saturday, August 19, 2006

วัดปรมัยยิกาวาส







ภาพจากวัดปรมัยยิกาวาส ที่เกาะเกร็ด นนทบุรี
ที่ไปเมื่อเดือนที่แล้ว โพสต์รูปน่าสนใจไว้เผื่อไว้ให้เด็กมาก็อปไปทำรายงานได้มั่ง
รูปแรกเป็นเจดีย์เอียง เอกลักษณ์ของวัด อีกสองรูปเป็นพระอุโบสถและพระประธาน
อีกรูปเป็นพระนอนในพระวิหาร รูปสุดท้ายเป็นพระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรี ลืมจดชื่อมาเลยจำไม่ได้

กายานุปัสสนา และ จิตตานุปัสสนา

ในระยะหลังผมเริ่มกลับมาตามรู้กาย (กายานุปัสสนา) และ จิตตานุปัสสนา (ตามรู้จิต) ถี่ขึ้น แต่จริงๆแล้วในประเด็นหลังมักเป็นการ เวทนานุปัสสนา (ตามดูเวทนา หรือ ความรู้สึกสุขทุกข์) เสียมากกว่า ช่วงนี้พยายามเดินจงกลมทุกคืน หลังอาหารเย็น(เบาๆ) อย่างน้อย ๑ ชม. โดยไม่ได้เพื่อจะเจริญสมถะภาวนา แต่เพื่อจะเป็นวิปัสสนา เอาการจงกลมเป็นการออกกำลังกายแทนการวิ่ง จ็อกกิ้ง เพราะขาแข้งเริ่มมีปัญหาตามวัย (ตอนนี้ต้องไปซิื้อรองเท้าวิ่งคู่ละสองพันมาใส่จงกลมโดยเฉพาะ เพราะส้นเท้าเจ็บ หมอกระดูกเพื่อนกันบอกว่าเป็นโรครองช้ำ ต้องรองส้นเท้าไว้นิ่มๆตลอดเวลา จนกว่าจะหายเอง)

ระยะนี้ผมพยายามระลึกว่า กายก็ดี ใจก็ดี เป็นไตรลักษณ์ คือ ทุกขัง (เป็นทุกข์) อนิจจัง (ไม่เที่ยง เกิดมา ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป เป็นธรรมดา) อนัตตา (ไม่ใช่ตัวเรา ตัวตนเราจริงๆไม่มี ทุกอย่างเป็นของสมมุติ) และว่างๆก็ฟัง iPod คำสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ไปเรื่อยๆ เท่าที่มีอยู่เกือบ ๘๐ ตอนก็ฟังไปหลายรอบแล้ว

เปลี่ยนมาเป็น python

หลังจากเลื่อนมาหนึ่งปี ผมก็ตกลงใจเองว่าจะเริ่มใช้ python เสียที ก็จัดแจงไปดาวน์โหลด Eclipse 3.2 และ pydev plug-ins มาลงบนทั้งเครื่อง G4 laptop และเครื่อง Power Mac G5 dual cpu ไปเรียบร้อย แต่ตอนนี้ต้องรองานเขียนรายงานและเปเปอร์ให้เสร็จเดือนนี้ก่อน ก่อนจะไปเริ่มอย่างจริงๆจังๆเดือนกันยายนละมัง ส่วนเจ้า python รุ่นใหม่นั้น จะรอไปก่อน เป็น 2.5 เสียก่อนค่อยอัพเดท

ความจริงภาษาที่กำลังฮิตตอนนี้คือ Ruby โดยเฉพาะ Ruby on Rails ที่ Apple ได้ประกาศแล้วว่า จะใส่ไว้ใน Mac OS-X 10.5 Leopard ด้วย
เพื่อนผมบอกว่า Ruby จะเหมือนกับ python ราว 97% เพราะฉะนั้นถ้าใช้ python ก็จะใช้ Ruby ง่ายมาก

หนังสือที่กำลังอ่านอยู่ยามว่าง

อ่านหนังสือเรื่อง The World is Flat ของ Friedman ไปส่วนหนึ่งแล้ว เล่มนี้เขาได้รางวัลหนังสือดีเด่นแห่งปีจากหนังสือพิมพ์ Financial Times และบริษัท Goldman Sachs เชียว เป็นประกันเรื่องคุณภาพอยู่แล้ว

ตอนนี้ยังอ่านยังไม่จบ ก็สนุกดี เรื่องของเรื่องก็คือเขาเล่าเรื่องต่างๆของวิวัฒนาการของเทคโนโลยีไอทีในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมาว่า มันเกิดอะไรขึ้นต่อโลก ทำให้ดูเหมือนว่าโลกทั้งโลกอยู่ใกล้กันนิดเดียว อ่านดูแล้วจะได้แนวคิดเรื่องผลกระทบทางสังคม และ เศรษฐกิจไปในตัว แนะนำว่าน่าอ่านมาก Highly recommend. ผมจะทะยอยอ่านไปจนจบ แล้วจะมาลองคิดดูเรื่องผลกระทบในเรื่องอื่นบ้าง โดยเฉพาะต่อเมืองไทย

Wednesday, August 16, 2006

เว็บของพระอาจารย์

เพิ่งไปเจอเว็บนี้ของหลวงพ่อปราโมทย์ อีกที่หนึ่ง เมื่อราวๆสัปดาห์ที่แล้ว สงสัยเพิ่งอัพไม่นานนัก ต้องลิงก์ไว้ให้พระอาจารย์เสียหน่อย

ไม่ได้ไปกราบสองปีแล้ว ฟังแต่ซีดีท่านอยู่ที่บ้าน ตอนนี้เอาใส่ iPod ไว้อีกด้วย

เดือนที่แล้วมีอยู่แว๊บๆ ดูเหมือนจิตจะหลุดไปชั่วขณะ ตอนคุยกับลูกศิษย์อยู่ กายกับจิตมันแยกจากกันชั่วคราว จิตเห็นตัวนั่งคุยอยู่ต่างหากจากใจ
คงต้องตั้งหน้าตามรู้จิตรู้กายต่อไปเรื่อยๆ

ไปกราบ พระมงคลบพิตร

ไปเที่ยวอยุธยาหลายครั้ง แต่ไม่ได้ไปกราบหลวงพ่อพระมงคลบพิตรบ่อยนัก คราวนี้เลยแวะไป เพื่อเป็นสิริมงคล


วัดมเหยงคณ์ วางศิลาฤกษ์ พระอุโบสถใหม่

ผมไปอยุธยามาเมื่อสองวันก่อน (๑๔ สิงหาคม ๒๕๔๙) กับครอบครัว ไปบริจาคเงินร่วมสร้างพระอุโบสถใหม่ ให้วัดมเหยงคณ์

วัดนี้มีมาก่อนสร้างกรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่สมัย อโยธยานั่น เคยเป็นวัดหลวง ต่อมากลายเป็นวัดร้าง จนกระทั้งหลวงพ่อสุรศักดิ์ท่านมาตั้งสำนักวิปัสสนาขึ้น จนมีลูกศิษย์ลูกหามากมายเต็มเมือง
น่ายินดีที่ความรุ่งเรืองนับเจ็ดร้อยปีของวัดนี้กำลังกลับมาแล้ว

ดูรูปวัดที่เป็นของเดิมไปก่อน

ที่เด่นก็คือฉนวนทางเดินของเจ้านายฝ่ายใน(สตรี) เดินไปสู่พระอุโบสถ เพื่อไปกราบพระ



เว็บไหนที่ผมติด ? MDN

วันนี้เสียความตั้งใจไปหน่อย ว่าจะไม่ใช้เว็บสักสัปดาห์หนึ่งแล้วเชียว เพราะงานค้างแยะ ไม่เป็นไร ขอเบรคตัวเองหน่อย ตอนนี้เพิ่งตีห้าครึ่งเอง เลยแวะไป MDN มา

เรื่องของเรื่องก็คือ เว็บที่ผมอ่านประจำทุกวันคือ MacDailyNews
และที่ชอบมากๆก็คือคอมเม็นต์ของชาวแม็คทั้งหลาย ส่วนมากคือการแซวไมโครซอฟต์ และนักเขียนคอลัมน์ออนไลน์ที่เชียร์ระบบวินโดวส์ทั้งหลาย
บางทีอ่านแล้วก็หัวเราะไป คนยังไม่เคยใช้แม็คยังไม่รู้ว่าแม็คดีอย่างไร มีอีกแยะ คุ้มเงิน

เปรียบเสมือนคนไทยมีกะตังค์พอซื้อรถเก๋งดีๆหน่อยได้ ก็จะพบว่ามันนิ่มกว่ารถราคาถูกๆ หรือรถอีแต๋น ทำนองนั้นแหละ

ผมคิดสะระตะดูแล้ว ไม่รู้รอบที่หนึ่งร้อยแล้วมั้ง ผมจ่ายไปเกือบแสนสำหรับ พาวเวอร์บุ้คจีโฟร์ ถ้าใช้สี่ปีก็คุ้มอยู่หรอก ตอนนึ้ใช้มาเกือบปีหนึ่งแล้ว แต่เผลอๆ อาจจะใช้เกินไปอีกก็ได้ เคยอ่านเจอว่าฝรั่งยังใช้รุ่นขาวดำก็ีมีแยะ โอ้โฮ สมัย systems 7 หรืออะไรนั่นเชียวแหระ เขาใช้มาเกือบยี่สิบปี สุดจะคุ้ม

Sunday, August 13, 2006

ขี่ช้างที่อยุธยา


My Prof. took my picture when we went on a short elephant ride in Ayutthaya recently.

พระศรีศาสดา



พระศรีศาสดา เป็นพระพุทธรูปสุโขทัย ที่ ร. ๑ ทรงมีพระราชศรัทธามาก ทรงเสด็จพระราชดำเนินด้วยพระบาทตามการชักลากพระจากแม่น้ำเจ้าพระยา มายังวัดสุทัศน์ และทรงอำนวยการเรื่องประดิษฐานในพระวิหาร จนเสร็จในปลายรัชกาล ได้เห็นพระแล้วผมเพิ่งเข้าใจว่าทำไมถึงมีพระราชศรัทธามาก พระพักตรท่านงามมาก ผมว่าใกล้เคียงพระพุทธชินราชและพระพุทธชินศรีทีเดียว

Wat Suthat main chapel is under repair now



I just went to Wat Suthat by chance recently and found that the main chapel is under repair, esp. on the outside. I donated some money to help paying for it. I thus take this chance to post pictures, one is the presiding Buddha image, named Buddhatrelokachest (which means the Buddha who is superior of the 3 Worlds), and the chapel's front.

ไปซื้อหนังสือมาใหม่

ไปได้หนังสือมาสองเล่มจาก เอเชียบุ้คส์ ที่ดิสคอฟเวอรี่เซนเตอร์
เล่มแรกซื้อมาไว้อ่านเองคือ

The Word is Flat, The Globalized World in the Twenty-First Century, updated and expanded, by Thomas L. Friedman, Penguin Book. 495 Baht

จริงๆแล้วก็ไม่รู้จะมีเวลาอ่านตอนไหน งานล้นอยู่ แต่ว่าจิตมีโลภะก็เผลอซื้อไปแล้ว

อีกเล่มผมซื์อไปฝากให้ฝรั่งที่รู้จักและสนใจกรรมฐาน เป็นหนังสือสอนวิปัสสนาสายหลวงพ่อเทียน เขียนโดย หลวงพ่อคำเขียน สุวณฺโณ ดูเหมือนท่านอยู่ชััยภูมิ แปลเป็นภาษาอังกฤษโดยพระฝรั่ง สงสัยจะเป็นลูกศิษย์ท่าน จัดจำหน่ายโดย สำนักพิมพ์เคล็ดไทย พลิกๆดูแล้วน่าอ่านดี แต่ผมปฏิบัติตามหลวงพ่อปราโมทย์อยู่แล้ว

Watching: not 'being', developing awareness according to the practice of Loo-ang Por Tee-an Cittasubho, by Loo-ang Por Kamkee-an Suvanno, 150 Baht, translated by Venerable Tone Jinavamso (A.G.J. van der Bom)

Thursday, August 03, 2006

คาถาลดความอ้วน

มนุสฺชสฺส สทา สติมโต
มตฺตํ ชานโต ลทฺธโภชเน
ตนุกสฺส ภวนฺติ เวทนา
สณิกํ ชีวติ อายุ ปาลยํ

มนุษย์มีสติทุกเมื่อ
รู้ประมาณในการกิน
เวทนาย่อมเบาบางลง
อายุย่อมแก่ช้า

จาก โทณปากสูตร (พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย โกสลสังยุตต์) 

Chao Phraya River cruise




We just went on a river cruise on the Angsana, the big dinning boat of the Royal Thai Navy which can accommodate 300 passengers.

Near Siriraj Hospital, it can be seen that everyone sends his or her best wishes for H.M. 's recovery.

Tuesday, August 01, 2006

ขยะในกรุงเทพฯ

เพื่อนผมทำงานให้ กทม. เรื่องขยะ เพิ่งเจอกันหลังจากไม่ได้เจอกันมานาน เขาเล่าให้ฟัง ถามเราว่า รู้ไหมว่า กทม. มีขยะมากแค่ไหน ว่าแล้วก็เฉลยว่า ประมาณวันละ ๙ พันตัน อยากรู้ว่ามากแค่ไหน ถ้าลองนึกๆสมมุติเอาว่าไปกองที่สนามหลวง เดือนหนึ่งก็จะสูงเท่ากับตึก ๓ ชั้น ถ้าเพียงปีเดียวก็จะสูงเท่ากับตึก ๓๖ ช้ันทีเดียว

เขาบอกอีกว่า ทุกวันนี้ขยะเอาไปฝังที่กำแพงแสนโดยไม่มีการแยก แล้วก็กลบไว้ ดูเหมือนจะในที่ดินของตระกูลสะสมทรัพย์ ผมว่าพวกนี้เห็นการไกล สมนามสกุล เพราะในอนาคตที่ดินของพวกเขาจะกลายเป็นแหล่งทรัพยากรให้ลูกหลานไปทำมาหากินได้อีกนาน (ในการทำปุ๋ย และ ทำเหมืองรีไซเคิล)

Did acting-government of Thailand order a million Linux PC for Thai kids ?

มีข่าวจาก สแล็ชด๊อต บอกว่าไทยสั่งคอมพิวเตอร์จากโครงการ OLPC ซึ่งกำลังผลิต low-cost Linux PC สำหรับประเทศด้อยพัฒนา เป็นจำนวน ๑ ล้านเครื่อง

ไม่เคยเห็นข่าวนี้ใน นสพ.ไทย เลย หวังว่างานนี้คงไม่มีข่าวเชิงลบเช่นใครชักเปอร์เซ็นต์ตามมาแทรกในภายหลังนะ

ว่าแต่ว่า เตรียมสั่งฮาร์ดแวร์แล้ว แล้วซอฟต์แวร์ (คือเนื้อหา) มีใครเตรียมหรือยังไม่รู้

http://linux.slashdot.org/linux/06/08/01/0321223.shtml

Monday, July 24, 2006

Above Bangkok Skyline



I had been to Baiyok 2 Tower a number of times, usually whenever I had international guests coming to Thailand and would like to take them to a memorable dinner. Buffet dinner is nice on the 74th floor and always made my stomach tightly stuffed, plus the revolving platform on the open-aired 84th floor to see the Bangkok skyline and get some chilly top-wind. On a fine day, one can see the gulf of Thailand on the south horizon.

ข้อคิดจากอาจารย์ผม

My Ph.D. Prof. recently mentioned of these wise words to me so I want to keep a record of them as reminder :-

การแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไปย่อยจะต้องเสียเวลามากเสมอ
(Correction of a mistake always take a lot of time)

ต้องมองขึ้นขัางบนเสมอ อย่ามองลง (หมายถึงมองมุ่งไปยังความเปลี่ยนแปลงที่จะดีขึ้น)
Look upward, do not look downward.

อย่ามัวไปคิดสร้างวงล้อขึ้นมาซ้ำซ้อนอีก ทำอย่างอื่นที่ดีกว่าขึ้นไปอีก
Don't reinvent the wheel, do something elses more useful.

ข้อดีของการทำงานในทางวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์คือสามารถนำผลงานออกมาตีพิมพ์ได้อย่างรวดเร็ว ดีกว่างานวิจัยประยุกต์ทีี่เป็นงานแบบเสี่ยงสูงแม้จะให้ผลตอบแทนเป็นตัวเงินสูง

Sunday, July 23, 2006

ไป วัดท่าซุง (จันทาราม) อุทัยธานี

ช่วงก่อนเข้าพรรษา ผมขับรถไปกว่า ๒๐๐​กม. ออกจากกรุงเทพฯ เพื่อไปทำบุญที่อุทัยธานี เมื่อเร็วๆนี้ ไปกราบสังขารหลวงพ่อ พระราชพรหมญาน หรือ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่วัดท่าซุง หรือ วัดจันทาราม เพราะผมถือว่าท่านเป็นครูกัมมัฏฐานองค์แรกของผม เมื่อราว ๒๐ ปีก่อน จากเทปและหนังสือของท่าน ทำให้ผมพัฒนามาจนทุกวันนี้

ตอนขากลับ เอารถลงแพข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ อำเภอมโนรมณ์ เพื่อลัดร่นระยะทางขับรถ
จ่ายค่าลงแพไป ๒๕ บาท เที่ยวหนึ่งแพจุรถได้เต็มที่ ๑๒ คัน รอคิวราว ๑๕ นาที





หลวงพ่อสุรศักดิ์ หรือ พระครูเกษมธรรมทัต



เมื่อสองอาทิตย์ก่อน ไปฟังการบรรยายธรรมในกรุงเทพฯนี่เองเกี่ยวกับวิปัสสนา โดยหลวงพ่อสุรศักดิ์ หรือ  พระครูเกษมธรรมทัต แห่งสำนักวิปัสสนา วัดมเหยงคณ์ อยุธยา รู้สึกว่าได้ประโยชน์มาก โดยเฉพาะหลวงพ่อเป็นทั้งนักอภิธรรมและนักปฏิบัติ ผมรู้สึกว่าท่านเย็นดีมาก ผมศรัทธาเลยติดกัณฑ์เทศน์ไปจำนวนหนึ่ง (ใครอ่านเจออย่าลืม อนุโมทนาเสียด้วย)

ได้ทราบว่าวัดท่านกำลังจะสร้างพระอุโบสถขึ้นใหม่ เพื่อรื้อฟื้นวัดโบราณสถานแห่งนั้นที่เคยเป็นวัดหลวงในอดึตที่สำคัญยิ่งตั้งแต่ก่อนกรุงศรีอยุธยาสร้างเสียอีก พระอุโบสถนั้นเห็นโมเดลว่าสถาปัตยกรรมจะเป็นแบบพระที่นั่งพระศรีสรรเพชญ ก็เลยบริจาคไปอีกจำนวนหนึ่งสำหรับงานรากฐานอาคาร ตั้งใจว่าจะไปบริจาคเพิ่มอีกครั้งในเดือนหน้าถึงที่วัดท่าน เห็นเพื่อนว่าเขาจะมีงานวางศิลาฤกษ์วันที่ ๑๔ สิงหาคม

สยามนิรมิต Siam Niramit

Our family just took my former Prof. and his wife to see the newly opened Siam Niramit show. The theatre is a superb billion Baht facility with a number of surprising gimmicks for audience. It 's a very magnificent, glittery, fantastic, charming, well-chereograhped, as well as fun to watch Thai cultural show. Any visitors to Thailand must not miss an opportunity to see it.

There is also a big back garden showing full size replicas of Thai rural homes and with "villagers" to show lives of people in the 4 regions, which is very nice, plus the free Thai massage and small boat ride.


Tuesday, July 18, 2006

ปูเค็ม

ไปกินส้่มตำมา แม่ค้าใส่ปูเค็มมาให้โดยไม่ได้สั่ง เลยรู้สึกว่าคนไทยกินปูเค็มแยะมาก จำได้ว่า กบนอกกะลาเคย ออกรายการ เลยไปค้นดูจากเว็บเจอ
เขาบอกว่า ปูส่วนมากมาจากพม่ากับเขมร อย่างปูพม่าก็เข้ามาตกประมาณเดือนละ ๒๕ ล้านตัว (หรือ ปีละ ๓๐๐ ล้านตัวนั่นเอง) ไม่นับปูเขมรอีกนะเน่ีย ถ้าคูณสองไปก็ตก ปีละห้าหรือหกร้อยล้านตัวเชียวแหละ

http://www.tvburabha.com/new/story_old_kob.asp?id=269

Saturday, July 08, 2006

ไม่รู้จะเลือกใครดี ให้เป็น สก. สข. ในกรุงเทพฯ

เขตผม มีสามเบอร์หลัก เป็น ทรท. สองเบอร์ (เบอร์หนึ่งไม่ประกาศ แต่ก็รู้ๆอยู่ว่าพรรคไหน) เป็น ปชป. อีกหนึ่ง แต่ไม่เห็นมีเบอร์ไหนให้นโยบายอะไร มีแต่ติดรูปหรา สงสัยจะให้ประชาชนเลือกตามโหวงเฮ้ง ดูว่าคนไหนมันท่าจะโกงน้อยที่สุด กลุ่มไหนท่าทาง บน. น้อยที่สุด (ขอโทษ ดูหน้าตาแล้วอดแซวไม่ได้)

อ้อ สังเกตอีกอย่างนึง ปชป. ได้เป็นผู้ว่า กทม. มาตั้งนาน ซอยแถวบ้านผมมืดมาเกือบตลอด เพิ่งจะมาได้ไฟในซอยสว่างเอาก่อนเลือกตั้งไม่ถึงเดือนข้างหน้าเนี่ยนะ ต้องขอบันทึกเอาไว้หน่อย

Tuesday, July 04, 2006

Poor choice of logo in the design of a new Thai stamp

I just saw a preview of a new Thai stamp to be released next month (on August 4) on National Communication Day after my kid exclaimed "Internet Explorer stamp !" when she browsed the current issue of Thai stamp magazine. Indeed, the design showed a big letter e encircled with a slanted ring on the right side of the stamp. Why did they choose this ? Isn't that the logo of M$ ? Why did they choose the logo of such a poor web browser. There are several better new browsers out there. Sigh.

ไวเลสเราท์เตอร์

เพราะที่บ้านมีคอมพิวเตอร์หลายตัวมาก ก็เลยต้องการเราท์เตอร์ สำหรับแชร์อินเทอร์เน็ต เลยไปซื้อ router ของ BELKIN มาจากพันธุ์ทิพย์ มาใช้ เป็นรุ่น Wireless G ราคาลงไปแยะ จากเดิมสี่พัน ลงไปเหลือ 2290 บาท แต่จะแพงกว่าราคาในอเมริกา ที่บอกไว้ $40 เพราะบริษัทที่อิมพอร์ทเข้ามาก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายท้ังบนโต๊ะและใต้โต๊ะ น่าเห็นใจ และก็ต้องปลงไปกับความเป็นธรรมดาในเมืองไทยที่ว่่านี้ไปก่อน

ซอฟต์แวร์ที่อ้างว่าใช้กับ OS-X ได้นั่น เอาเข้าจริงก็โยน exception  (ก็ error นั่นแหละ) ใช้ไม่ได้กับ Tiger รุ่นใหม่ ต้องติดตั้งจาก browser 

ด้านหลังมี 4 ports (RJ45) ส่วน WiFi ใช้ได้ถึง  32 clients ใช้ในบ้านเดึ่ยวขนาด 200 ตร.วา ในเมืองที่บ้านหนาแน่นได้โอเค ข้อเสียคือปลั๊กเป็นแบบออสเตรเลีย ต้องวิ่งวุ่นหาอแดปเตอร์

Sunday, July 02, 2006

ขึ้นชั้น จูฬฯโท แล้ว

ต้องบันทึกเอาไว้อ่านเองตอนแก่ๆเสียหน่อยว่า เมื่อวานนี้เริ่มเรียน จูฬอาภิธรรมิกะโท แล้ว เช็กคะแนนสอบ จูฬฯตรีแล้วจากเว็บ ทำคะแนนได้ไม่เต็ม เพราะคงโดนตัดตอนคาถาบาลีจำผิดไปมั่ง แล้วก็ ตอนวันสอบปากเปล่าตอนนั้นหัวไม่ทำงานแล้ว เพราะคืนก่อนนั้น burn out ไปแล้ว แล้วดูวีดิโอจนดึก 
ไม่เป็นไร ทำกุศลกรรมไว้น้อยอย่างไร ก็ได้รับวิบากไปตามเนื้อผ้านั่นแหละ

เหลืออีก ๗ ปีเองก็คงจบ

MacBook สีดำ

แวะไปดู MacBook สีดำที่ Discovery Center มา จอภาพความละเอียดยังสู้ G4 PowerBook ของผมไม่ได้ แต่ hard disk 80 GB เท่ากัน และเนื่องจากเป็น dual core cpu เมื่อลองใช้ Safari browser ก็เลยดูเร็วกว่า เครื่องผม เครื่องรุ่นนี้อยากซื้อไว้ให้ นศ. ใช้เพราะจะได้เป็นระบบเดียวกันกับกลุ่มที่ทำงานเดียวกันทั้งหมด สะดวกดี

Monday, June 19, 2006

หมอนทอง

ในช่วงสิบกว่าปีมานี้ผมไม่ค่อยได้ทานทุเรียนเท่าไร เพราะคนใกล้ตัวแพ้กลิ่นเอาอย่างแรง ปีนึงผมจึงมักนึกอยากทานสักครั้ง ก็มักไปซื้อตามห้างที่เขาผ่ามาขายใส่ถาดโฟมไว้ให้แล้ว ปีนี้ไม่ได้นึกอยากกิน แต่มีลาภลอยมาให้จนได้ คือเพื่อนเอาหมอนทองมาให้หนึ่งลูก ก็เลยต้องรับเอาไว้ ทิ้งไว้สามสี่วัน มีกลิ่นหอมดีไป ๒๔ ชม. แล้วก็ยังไม่เห็นปลิงหลุดสักที แต่ก็เกือบหลุด ก็เลยตัดสินใจฉีก ปรากฎว่า ง่ายมากเลย ก้นก็ปริแล้วเป็นร่องๆ จะไม่ต้องใช้มีดผ่าก็ยังได้ และเปลือกบางดีมาก เทียบกับพันธุ์อื่นๆที่ผมเคยฉีกสมัยเด็กๆ รู้สึกประทับใจมาก แต่กินแล้วก็เป็นทุกขลาภ เพราะรู้สึกร้อนมาก ก่อนนอนไปจ๊อกกิ้งก็แล้ว อาบน้ำก็แล้ว ตอนเที่ยงคืนต้องลุกมาอาบอีกรอบ ขนาดนอนห้องแอร์นะเนี่ย สงสัยแคลอรี่สูงมาก ต่อไปก็คงรอไปอีกอย่างน้อยหนึ่งปี ปีนี้เข็ดแล้ว 

Thursday, June 15, 2006

สงสัยว่า วิกิข่าว ภาษาไทย จะไม่เวอร์คแฮะ

แวะเวียนไปดูอีกที หลังเริ่มลอนช์มาหลายเดีอนก่อน ปรากฏว่า วิกิข่าว ภาษาไทย นั้นไม่เห็นมีข่าวอัพเดทมาเกือบสามเดือนเข้านี่แล้ว ผมว่าได้ข้อสรุปอย่างนึง หนุ่มสาวไทยส่วนมาก อาจจะชอบบริโภคเนื้อหาจากเว็บมากกว่าเป็นผู้ช่วยสร้างเนื้อหาบนเว็บ
อาจจะเป็นค่านิยมสังคม หรือไม่ก็ ความไม่เห็นสำคัญว่าจะต้องไปทำอะไรเพื่อส่วนรวมทำไม เพราะเวลาของฉันนั้นมีค่า หรือว่า พวกเขาอาจจะมีวิธีใช้เวลาว่างที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้ก็ได้ 

http://th.wikinews.org/wiki/หน้าหลัก

Tuesday, June 13, 2006

Desktop Manager: a useful software

I have been using Desktop Manager for the past few weeks and like it a lot. This is a free software for creating several desktops that can be switchable. It 's as if you have several monitors in one computer and you can open different programs in different desktops. As a result each screen would be less cluttered. Fortunately, I have ample RAM (1.5 GB) to work on multiple applications at the same time.

The version 0.5.3 of Desktop Manager, released since early 2005, works fine for Mac OS-X version 10.4.6 on my Mac G4 laptop. Now I happily switch among applications using the top panel switch or keyboard commands. This makes OS-X feel like Solaris and Linux. I wish Leopard, now under development by Apple, would incorporate this into it (and improve it further, of course).

Buddhadasa 's birthday centenary

Few days ago, I just finished my final exam on Julaaphidhammikatri (first level class out of 9 apidhamma classes that will take up the most of my weekends for my next 7 year). I felt a great relief (and realized I had suffering a lot lately, although that will lead to hapiness) and thus had more time to look around and will start clearing some "to-dos" as well. 

The centenary of Buddhadasa 's birthday passed a couple of weeks ago. I found some web sites about him below. I have a lot of his books. They actually gave me a lot of basic knowledge in Buddhism.  There were a lot of novel interpretation of the Tipitaka. I am not sure if some of his ideas presented in his books was written just to stimulate a novel thinking in the society at the time or he did really believe all what he said. So as an apidhamma student, although I got a head start from his work, now I may not agree with his view in total. Nevertheless, I admire his dedication and effort. I am sure his work has global impact and more will be felt: it 's a matter of time.

http://en.wikipedia.org/wiki/Buddhadasa
http://www.suanmokkh.org/
http://www.buddhanet.net/budasa.htm

Monday, June 12, 2006

ทรงพระเจริญ

I found a good reading froom CNN about His Majesty the King and Jazz music.
On this auspicious occasion commemorating the King's 60th anniversary to his accession to the throne as the King Rama IX of Thailand, as his subject I 'd like to use this post in my blog to humbly submit my deepest best wishes to him. May his paramita increase continually ever until nirvana is accessed in the long future.

Sunday, June 11, 2006

หนังสือแนะนำการเข้าสมาธิ

เพิ่งไปเจอ มีคนอุตส่าห์พิมพ์เข้าคอมพ์ไว้ให้ ใส่เป็นกระทู้เนื้อความจากหนังสือ ทิพยอำนาจ ที่ท่านเจ้าคุณ พระอริยคุณาธาร แต่งไว้ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๓ 

หนังสือนี้ผมก็เคยซื้อไว้ จากร้านหนังสือของมหามกุฏราชวิทยาลัย นานมาแล้ว อ่านไปบางส่วน ชอบมาก ก็เคยพยายามจะแปลเป็นภาษาอังกฤษ ได้ไปไม่กี่หน้าแต่ชะงักไปไม่มีกำหนด ยังไม่มีเวลากลับมาแปลอีก คงอีกนานเพราะเป็นงานฟรี

บุ้คมาร์คไว้ที่

http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=2029%20%3Cbr%3E

Sunday, June 04, 2006

ไป ถ้ำพระยานคร อุทยานแห่งชาติ สามร้อยยอด (ตอน ๒)

(My trip to Phraya Nakorn Cave, Samroiyod (300 Peaks) National Park, Pran Buri, Prachuab Khirikhan, part 2, continued from previous post)

เดินขึ้นเขาต่อไปอีกหลายแฮก ตามประสาคนไม่ค่่อยออกกำลังกาย พอถึงยอดเขาลูกเล็กก็เดินลงเนินไป จนเจอปากถ้ำ เป็นคูหาใหญ่มาก ก็ต้องไต่ลงไป ชันหน่อย เดินเข้าไปในคูหาแรก มองขึ้นไปด้านบนผาสูง จะเห็นบริเวณที่มีเว้าคล้ายโค้งใต้สะพาน ชาวบ้านเรียกว่า สะพานมรณะ ไกด์วัย ๙ ขวบของเราเล่าว่า สมัย ร. ๕ เสด็จประพาส เสบียงหมด มหาดเล็กต้องขึ้นไปหาเสบียง ได้ไล่หมูป่ามาจนตกเหวบริเวณนั้น เพื่อเป็นอาหาร ก็เลยได้ชื่อสะพานมรณะดังกล่าว

ผ่านคูหาใหญ่เดินต่อมา ผ่านที่มืดๆคลำไป จนไปออกคูหาใหญ่อีกแห่งหนึ่ง มีพลับพลาทรงไทยสร้างไว้ มีพระรูป ร. ๕ ประดิษฐานอยู่ แสงสว่างส่องลงมาจากผาด้านบนมายังถ้ำ ถ่ายรูปแล้วสวยงามดีมาก (ถ้ากล้องดี และฝีมือดีนะ)



ถ่ายรูปแล้วก็รีบๆกลับ เพราะใกล้มืดแล้วจะมองทางไม่เห็น กลัวฝนตกด้วย กลัวอันตราย
หลังจากลงมา คนที่ไปด้วยบอกว่าเจอยุงกัดเข้าไปเฉพาะที่ขา กว่า ๓๐ ตุ่ม ไม่นับที่กัดทะลุเสื้อบางๆของเขาและที่คออีก

ไป ถ้ำพระยานคร อุทยานแห่งชาติ สามร้อยยอด (ตอน ๑)

My trip to Phraya Nakorn Cave, Samroiyod (300 Peaks) National Park, Pran Buri, Prachuab Khirikhan (part 1)

ลุยโคลน ลงเรือหางยาวอ้อมทะเล ปีนเขา ฝ่าดงยุง ไปดูถ้ำที่เขาบอกว่าเป็น unseen Thailand

อยู่ที่หัวหินดีๆก็นึกอยากไปดู ถ้ำพระยานคร ที่อุทยานแห่งชาติ สามร้อยยอด เลยขับรถไปปราณบุรี มีป้ายบอกทางไป
หลังผ่านเข้าเขตอุทยาน แวะจอดรถที่วัดแห่งหนึ่ง จากนั้นต้องเหมาเรือกัน และต้องเดินเท้าเปล่าลุยหาดโคลนจากวัดไปราว ๕๐๐ เมตร เพราะน้ำลง พับขากางเกงยีนเดินลุยลงทะเลเพื่อไปลงเรือหางยาว เรือพาอ้อมเขาในทะเลออกไปอีกด้านหนึ่ง เข้าไปที่อีกด้านของอุทยาน


จากนั้นขึ้นหาดลุยเดินโคลนอีกทีหนึ่ง ไปล้างเท้าที่ห้องน้ำของอุทยานก่อนใส่ถุงเท้าและรองเท้าผ้าใบ
ให้อัศจรรย์ใจกับซองเปล่า ก.ย. ๑๕ ที่เต็มเข่งอย่างกะจะมีใครเตรียมส่งไปชิงโชค
พอเดินถึงตีนเขาก็เริ่มเจอยุงป่าฝูงเบ้อเริ่มมารุมกัน เลยเข้าใจ โชคดีที่ผมใส่ยีนส์และใส่เสื้อหนา เดินขึ้นเขาไป ๓๐๐ เมตร ระหว่างทางหยุดพักเหนื่อยหลายรอบ ถ่ายรูปที่จุดชมวิวราวๆกึ่งกลางทาง

ระหว่างทางก็มีนักท่องเที่ยวที่กำลังลงมาเป็นกลุ่มๆเดินสวนลงมา บอกให้กำลังใจเราว่าใจเย็นๆ เกือบถึงแล้ว ฝรั่งคนหนึ่งก็บอกว่า สวยคุ้มเหนื่อย ทนเอาหน่อย

(ยังมีต่อ)

Thursday, May 18, 2006

มานด์แมป ผังความคิด

เทคนิคการทำมานด์แมป (mind mapping) หรือ ผังความคิด เริ่มแพร่หลายมากขึ้น ผมหวลกลับไปดาวน์โหลด ซอฟต์แวร์ฟรีที่ชื่อ FreeMind มาใช้ ซึ่งมีรุ่นที่ใช้กับทุกเครื่องรวมทั้ง Mac ด้วย 
มีประโยชน์ในการช่วยการคิด หรือ ระดมสมอง (brainstorming)
รุ่นใหม่มีฟีเจอร์สที่ดีกว่ารุ่นเดิมมาก ผมว่าเกือบจะสมบูรณ์แล้ว ใช้แทนกระดาษเปล่าได้ดีทีเดียว

Saturday, May 13, 2006

วันวิสาขบูชา วันไหนแน่

ปฏิทินเมืองไทยบอกว่าวันวิสาขบูชาปี ๒๕๔๙ นี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๒ พฤษภาคม แต่ดูจากเว็บเห็นบอกว่าวันจันทร์เต็มดวงคือวันเสาร์ วันนี้ จำได้ว่าเคยอ่านเจอมานานแล้วว่า ปฏิทินไทยทางจันทรคติคลาดเคลื่อนเรื่องวันเต็มดวงไป ๑ วัน เมื่อเทียบกับหลายประเทศเพื่อนบ้าน สงสัยนี้เข้าอีหรอบเดิมอีกแล้ว


อย่างไรก็ดี ขออนุญาตสำเนารูปมาที่เขาเวียนเทียนกันเมื่อวานไว้จากเจ้าของ ณ ที่นี้ เป็นภาพที่วัดมเหยงศ์ อยุธยา ดึงมาจาก บางกอกโพสต์ มาแปะไว้ที่นี่พอเป็นบรรยากาศ วัดนี้ผมชอบมาก เพราะเป็นวัดสำคัญตั้งแต่สมัยอโยธยา (ก่อนกรุงศรีอยุธยา) ต่อมาเป็นวัดร้าง จนกระทั่งพระอาจารย์สุรศักดิ์ท่านไปตั้งสำนักวิปัสสนาขึ้นที่นี่ ตอนนี้เลยมีคนเห็นความสำคัญของวัดนี้มากขื๋น หวังว่าปีหน้าอาจจะมีเวลาไปปฏิบัติธรรมที่สำนักของท่าน แต่ตารางนานหน่อย คือท่านมักจะจัด ๙ วัน ต้องถือศีลแปดด้วย

Saturday, May 06, 2006

สร้างภาพเล่นๆ


ไปเจอลิงก์มา ก็เลยลองเล่นดู และก็ผลิตรูปออกมาที่เห็นนี่แหละ เนึ้อความเป็นคาถาภาษาบาลี ที่ต้องท่องเพราะมักจะออกสอบ

อยากทำรูปมั่งก็ไปที่
http://www.hetemeel.com/einsteinform.php

Friday, May 05, 2006

เว็บราชการไทย ที่เคยดี แต่ตอนนี้ไม่ดี

ไปเจอโดยบังเอิญ เว็บของศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สวยดี แต่ว่า คุณพระช่วย ไม่ได้อัพเดทเนื้อหามาสองปีแล้ว ต้องเรียกว่าผู้บริหารไม่มีวิสัยทัศน์เอาเลย ไม่มีใครมาอัพเดทข้อมูล ถ้าข้อมูลทันสมัยทั้งฝรั่งหรือไทยจะได้ดูตารางการแสดงได้จากเว็บ ไม่ต้องโทรไปถาม หรือขอแผ่นพับไง

แล้วก็มีเว็บบอร์ดด้วย แต่ก็อีกแหละ มีแต่สแปม เพราะขาดกลไกการกรอง

นี่แหละคือเว็บหน่วยราชการไทย ยังมีทำนองนี้อีกแยะ

ผมไม่ได้จะว่า แต่ต้องการจะเตือนสติ จะได้ไปแก้ไขเสีย

Tuesday, May 02, 2006

สมถะ ต่างจาก วิปัสสนา อย่างไร


สมถะ เป็นการปฏิบัติเพื่อให้จิตใจสงบ โดยมุ่งให้ระดับของสมาธิมีความลึกซื้งมาก จนเป็นระดับ อุปจารสมาธิ (สมาธิเฉียดฌาณ) และ อัปปนาสมาธิ (สมาธิจนเป็นฌาณ) วัตถุประสงค์หนึ่งคือเพื่อพักผ่อนจิต หากว่าได้ฌาณจะสามารถใช้แทนการนอนหลับได้

วิปัสสนา เป็นการตามรู้ความเป็นไปของกายและจิต ที่เรียกว่า กายานุปัสสนา และ จิตตานุปัสสนา หากว่า มีสติระลึกได้ ก็อยู่ในระดับ ขณิกสมาธิ (ลืกน้อยกว่าอุปจารสมาธิ) ก็เพียงพอ

การตามรู้อยู่เนืองๆ เป็นเหตุใกล้ให้เกิดปัญญา คือเห็นความเป็นจริงว่า ทั้งกายก็ดี จิตก็ดี เกิดมา ตั้งอยู่ และ ดับไป มีลักษณะเป็นไตรลักษณ์ เป็นทุกข์ (ทุกขัง) ไม่เที่ยง (อนิจจัง) และ (อนัตตา) ไม่ควรไปยืดถึอ ว่าเป็นตัวตน เป็นเราเป็นเขา การเห็นจริงแบบนี้ได้เรียกว่าเกิดปัญญา

การเกิดปัญญาได้นั้น ไม่ได้เกิดจากการคิดโดยใช้เหตุผลตามหลักตรรก หรือความเข้่าใจ แต่เป็นการเห็นจริงจากประสบการณ์ด้วยใจยอมรับ

การปฏิบัติธรรมควรทำให้มาก ทั้งสมถะ และ วิปัสสนา

ฮาร์ดดิสก์ 750 GB

มีข่าวว่าเพิ่งออกมาใหม่ ไม่นานหลังมีข่าวจากผู้ผลิตฮาร์ดิสก์อย่าง Seagate ว่ามี vertical storage technology ทำให้เก็บข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ได้มากขึ้น ตอนนี้ราคา 600 เหรียญ ใช้ FireWire400/800 / USB 2.0 

ผมเดาเอาว่า ปีหน้าราคาน่าจะลงมาแยะ ในสองปีราคาอาจจะเหลือเพียงครึ่งเดียว น่าสนใจสำหรับพวกที่ข้อมูลมหาศาลอย่างพวกเราบางคน

Monday, May 01, 2006

ครบปีหนึ่งสำหรับบล็อกนี้แล้ว



เวลาผ่านไปเร็วมาก เขียนที่ blogspot นี้ได้ ๑๒ เดือนแล้ว และตอนนี้กลายเป็นมีหลายบล็อกที่แยกตามประเภท ความจริงตั้งใจจะแค่ลองเทคโนโลยีเท่านั้น ก่อนหน้านี้เคยไปเขียนที่ผู้จัดการแต่ไม่ชอบสไตล์ของซอฟต์แวร์ และวัยรุ่นเพ้อฝันที่โน่นแยะไปหน่อย

ตั้งแต่ใช้แม็ค ระยะหลังใช้โพสต์จากวิดเจ็ตเป็นส่วนมาก ไม่ได้ผ่านเว็บ เว้นแต่จะแปะรูป หรือแก้ไข ทำให้สะดวกมากขึ้น หาไม่แล้วจะโพสต์น้อยลงเพราะไม่มีเวลามากเหมือนเดิม

เศรษฐกิจไทย ยังดีอยู่หรือ


ผมนั้น แม้ไม่ได้เป็นนักเศรษฐศาสตร์ แต่ก็เคยสนใจวิชานี้ และก็เพื่อนผมคนหนึ่งเขาเป็นระดับแนวหน้าคนหนึ่ง เขาคนนี้เคยบอกพวกเราไว้ตั้งแต่เมื่อสองสามปีก่อนไว้ว่า เมืองไทยเรานั้น ถ้าหากว่าจะเกิดวิกฤตใหญ่ทางเศรษฐกิจก็คงจะเป็นเพราะสาเหตุเดียว คือมาจาก เอฟทีเอ ต่างๆที่ไปทำไว้เท่านั้น ดังนั้นเรื่องเอฟทีเอต้องระวังมาก ในการไปทำ

ตอนนี้มาเจอเรื่องราคาน้ำมันเข้าไปอีก (อันนี้ผมว่าเอง เพราะใครๆก็พูดกันอยู่แล้ว) เรื่องนี้ต้องโทษไอ้กัน ทำงบประมาณขาดดุลย์มากไป กะพวกเก็งกำไรซื้อขายล่วงหน้าอีก พวกน้ันตายไปก็เอาเงินมหาศาลไปใช้ไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ผมไปซูเปอร์ฯเมื่อเร็วๆนี้ สังเกตเห็นว่า ทำไมของเดี๋ยวนี้ราคาถูกจัง ผมว่า ซัพพลายเออร์ไทยเจอห้างฝรั่งกดราคามากเลย แถมสินค้าจีนเข้ามาตีตลาดอีกแยะมาก เดี๋ยวนี้หาของทำเมืองไทยไม่ค่อยมีขายแล้ว แบบนี้ธุรกิจไทยพวกโรงงานเอสเอ็มอีตายลูกเดียว ชาวสวนผลไม้นั้นแย่ไปนานแล้ว เพราะไหนจะเด็กไทยยุคใหม่ไม่ค่อยกินผลไม้ กินแต่ขนมขบเคี้ยว แถมเจอผลไม้จีนราคาถูกเข้ามาตี ใครๆก็แย่กันไปหมด คนเชื่อกันว่าอาจจะมีแต่พวกพ่อค้าคนกลางส่วนน้อยที่มีเอี่ยวเท่านั้นละมัง ที่รวยเอาๆ

Sunday, April 30, 2006

นกพิราบชักแยะมากไปแล้ว

บ้านชานเมืองบางที่มีนกพิราบแยะมาก ประชากรเพิ่มอย่างรวดเร็วในสี่ห้าปีที่ผ่านมา ถ่ายสกปรกเลอะเทอะไปหมด บ้านก็เหม็นถ้าบางทีเข้ามาอืในใต้หลังคา แหม หวัดนกไม่ยักกะจัดการพวกนี้แฮะ 

อันที่จริงนกแยะ เป็นเพราะธรรมชาติขาดสมดุลย์ ไม่มีเหยี่ยว หรือ รุ้ง อะไรมาคอยกิน เพื่อควบคุมปริมาณ

นกพวกนี้เป็นพาหะโรคให้กับคนในอนาคตได้สบายๆ 

Saturday, April 29, 2006

ติดฟิล์มบนจอโน้ตบุ้ค

ติดแล้วรู้สึกว่าจอมันชัดขึ้น สว่างขึ้น และสีสดขึ้น และจอก็ใสเหมือนกระจก ทำเอาจอผมดูดีขึ้นไม่น้อยหน้าเครื่อง ไวโอ ของโซนี่อีกต่อไป เวลาพิมพ์งานหรือดูเว็บก็จะแจ้ง

แต่แพงชมัด ๑๗๐๐ บาท เท่ากับฟิล์มติดกระจกหน้ารถยนต์ทั้งบานเลย

Friday, April 28, 2006

คนคิดไม่ได้ทำ คนทำไม่ได้คิด

จำได้ว่าสมัยก่อนมีงานการกุศล คนคิดโปรเจ็คอาจจะเป็นพวกไฮโซหรือผู้ใหญ่ ทำเอาคนระดับ ขรก. ชั้นผู้น้อยพลอยลำบาก บางทีก็ต้องเสียเงินซื้อของการกุศลที่บังคับซื้อหรือเรี่ยไรบ้าง ไม่งั้นบางทีก็ต้องไปออกแรง เช่นเดิน หรือ วิ่งการกุศล ฯลฯ (แต่คนส่วนใหญ๋ก็คงไม่ว่าอะไร บ้างก็เต็มใจ แต่พวกไอ้เณรที่ไปวิ่งเหงื่อตกจะเต็มใจหรือเปล่าไม่ทราบ) แต่น่าสนใจที่ว่า คนคิดโปรเจ็คลางทีอาจจะไม่ได้เสียเงิน หรือไม่ได้ต้องออกแรงก็ได้ แต่ว่าคงจะได้หน้าอยู่โข

ตอนนี้ก็ยังมีอยู่อีกแฮะ

เลยไปนึกถึงคำทายสมัยเด็กๆที่ว่า อะไรเอ่ย คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ และก็เลยดัดแปลงไปเป็นจ่าหัวข้อข้างบน

Wednesday, April 26, 2006

"Do it whatever you want, that is the real Thai"

That 's from a common Thai saying :-

ทำอะไรตามใจคือไทยแท้

A new 25 floor condominium is being built on a Bangkok road near my home, and it can accommodate 700 cars, and there would be a thousand residential units in it. Imagine the already worse rush hour traffic both in the morning and in the late evening. Sometimes, the vehicles already filled up the entire street already. I certainly wish the buyers of those condominium units a good patience whenever they decide to use their cars. Imagine that each morning and evening they will take an hour coming out or getting into their parking garages.

I think Thailand or Bangkok so far has not incorporated the calculation of car flux into the town planning. Any real-estate developers now can do whatever they want, sometimes against BMA 's rule(s) by using "under the table tactics."  I also wonder when they would have local community hearing like those in towns or cities in the US. Like another Thai saying, perhaps one has to wait until his "next life, in the afternoon" ( ชาติหน้าตอนบ่ายๆ ).

web censorship in Thailand

A recent blog from http://linux.thai.net/planet informed that a website relevant to an internet software tool, http://tor.eff.org/, has been censored by a Thai government agency. 

I can't help but feel "bored" as it shows to the World how lack-of-judegement or narrow-minded or low-IQ some low ranking Thai officials are.

Wednesday, April 19, 2006

เลือกตั้ง ส.ว.


วันนี้ผมไปเลือกตั้ง ส.ว. ตั้งแต่ ๘ โมงกว่าๆ เลือกท่านหนึ่งที่ผมศรัทธา โดยที่ไม่เคยเห็นมีป้ายหาเสียงของหมายเลขนี้ที่ไหนเลย จะดูซิว่าเข้าป้ายไหม

(หมายเหตุเพิ่มทีหลัง ... สรุปว่าคนที่ผมเลือกได้ครับ เย้)

ว่าแต่ว่า รัฐธรรมนูญบอกว่าห้ามหาเสียงเนี่ยนะ ป้ายปักเต็มกรุงเทพฯอย่างกะดอกเห็ด ลูกผมบอกว่าเต็มไปหมดเหมือนดอกไม้ เพราะโผล่ออกมาจากสนามหญ้าหรือโคนไม้ใหญ่สลอนเต็มเมือง ความเห็นที่ผมรำพึงก็คือ ๑) นี่ไม่ใช่หาเสียงนะเนี่ย ๒) เมื่อไรหนอผู้สมัครรับเลือกตั้งเมืองไทยส่วนมากหรือท้ังหมด จะเลิกใส่ชุดเต็มยศข้าราชการ หรือ ครุยปริญญา มาหาเสียงเสียที คนสมัยใหม่ไม่น่าจะโดนหลอกด้วยเรื่องเปลือกๆเช่นนั้นอีกแล้ว และป้ายเยอะแยะไปหมดเนี่ยไปบังทัศนวิสัย ก็ทำเอาคนขับรถที่ออกจากซอยต่างๆเดือดร้อน มองรถที่วิ่งมาตามถนนทางตรงไม่ค่อยเห็น อาจเกิดอุบัติเหตุรถชนกันได้ง่าย

มีอีกข้อนึงคือผมไม่เข้าใจความต้องการของคนบางคนที่ลงสมัคร สักแต่ว่าอยากให้คนอื่นรับรู้หรืออย่างไร คนคงไม่เลือกคนเหล่านั้นเพราะท่านจบดีกรีมา หรือเคยเป็นข้าราชการได้สายสะพายมา โดยสังคมไม่เคยรู้จักท่าน มันไม่ได้การันตีว่าท่านเป็นคนมีวิสัยทัศน์ และ มีคุณธรรม แต่อย่างใด

อีกเรื่องที่รู้สึกประหลาดก็คือในกรุงเทพฯมีผู้สมัครอยู่ ๑๒ คน จาก ๒๖๐ คน ที่อายุมากเกิน ๗๐ แล้ว เจ็ดสิบต้นๆพอว่า จะแปดสิบก็ยังมี ขอโทษที่จะพูดตรงๆว่า ท่านเหล่าน้ันขาดความรู้สึกสำนืกตัว ไม่ตระหนักว่าจะต้องให้ประเทศเสียเงินเลือกตั้งซ่อมหรือ หากว่าเกิดบางท่านได้ และก็ไปเสียชีวิตก่อนครบเทอม ๖ ปี คนที่อายุมากปานนั้น น่าจะไปหาที่สงบๆปฏิบัติธรรมเต็มเวลาท่าจะดีกว่า

Saturday, April 15, 2006

ฝนตกช่วงสงกรานต์ กับ โลกร้อน

ดูเหมือนเพิ่งจะสองสามปีนี้เองที่มีฝนตกหนักที่กรุงเทพฯช่วงสงกรานต์ สมัยสามสี่สิบปีก่อนมีที่ไหนกัน พอหน้าหนาวก็ไม่หนาว เห็นได้ชัดว่าภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนไป โลกกำลังร้อนขี้น และผู้นำประเทศใหญ่ๆเพียงสองสามคนเท่านั้นที่ตัดสินใจไม่ทำอะไร ในเรื่องการควบคุมปริมาณการปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์จากอุตสาหกรรมของประเทศตัว เพราะเห็นว่าความเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศตัวในสมัยที่ตนเป็นผู้นำนั้นมีความสำคัญกว่าความเป็นไปของทั้งโลก ไม่ต้องเอ่ยชื่อที่นี่ก็รู้ว่าใคร ถ้าไปตามข่าวดูเอาก็รู้

อีกร้อยปีกรุงเทพฯก็จะต่ำกว่าระดับน้ำทะเลราว ๒ ถึง ๓ เมตรแล้ว และร้อนกว่านี้อีก

ไม่ทราบว่า ผู้นำเหล่านั้นเห็นแก่ตัว หรือว่าจิตนั้นบอด หรือว่าโง่กันแน่ อาจจะทั้่งหมดก็ได้

Thursday, April 13, 2006

น้ำพริกกุ้่งเสียบ




ของอร่่อยที่ซื้อมาจาก เกาะปันหยี จังหวัดพังงา ก็คือน้ำพริกกุ้งเสียบสามรส ใช้ได้ทีเดียว ซื้อมาจากของคุณยายคนนึงชื่อ นางปิก สุทธิเส็ม โทร 06-267-0357 โพสต์รูปเกาะไว้ด้วยแล้ว
เกาะนี้ไม่ไกลจากถ้ำลอด เขาพิงกัน เขาตะปู เท่าไรนัก

RAM กับ notebook

โน้ตบุ้ค Mac PowerBook ของผมตอนแรกมีปัญหาเรื่องเครื่องชะงักบ่อยๆ เวลาเปลี่ยนจากโปรแกรมหนึ่งไปใช้โปรแกรมอื่น ดูเหมือนระบบต้องใช้ swap สำหรับ memory เลยเพ่ิม RAM ไปอีก ตอนนี้กลายเป็น 1.5 GB RAM ปรากฎว่าเรืื่องอาการชะงักหายไปแล้ว ไม่มีปัญหาอีกต่อไป ส่วนเรื่อง hard disk ที่มี 80 GB แล้วยังไม่พอใช้นั้นก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เว้นแต่จะไปซื้อ external hard drive สัก 300 GB มาใช้พ่วง แต่ก็จะไม่สะดวกนัก ตอนนี้เลยต้องพยายามก็อปปี้แฟ้มที่ไม่ใช้ลง CD / DVD ไว้ แล้วลบออกไปบ้าง

มหากาพย์พุทธจริต


ดูเหมือนจะเคยโพสต์ถึงหนังสือเล่มนี้่มาแล้วเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ก็ยังไม่ม่ีเวลาอ่านจนแล้วจนรอด วันนี้เลยไปหยิบเอา มหากาพย์พุทธจริต ออกมาดูพลิกๆดูอีกครั้ง แล้วเลยสแกนรูปมาโพสต์ไว้ด้วย อย่างน้อยสำหรับผมแล้วเล่มนี้ก็น่าจะให้อรรถรสถูกอัธยาศัยกว่า ดอนกิโฆเต้ เล่มนั้น ซึ่งหลังจากเคยกวาดสายตาผ่านๆเป็นช่วงๆไปแล้วก็คงเก็บไว้ยาวเลยไม่มีเวลาอ่านอีกนาน