ในระยะหลังผมเริ่มกลับมาตามรู้กาย (กายานุปัสสนา) และ จิตตานุปัสสนา (ตามรู้จิต) ถี่ขึ้น แต่จริงๆแล้วในประเด็นหลังมักเป็นการ เวทนานุปัสสนา (ตามดูเวทนา หรือ ความรู้สึกสุขทุกข์) เสียมากกว่า ช่วงนี้พยายามเดินจงกลมทุกคืน หลังอาหารเย็น(เบาๆ) อย่างน้อย ๑ ชม. โดยไม่ได้เพื่อจะเจริญสมถะภาวนา แต่เพื่อจะเป็นวิปัสสนา เอาการจงกลมเป็นการออกกำลังกายแทนการวิ่ง จ็อกกิ้ง เพราะขาแข้งเริ่มมีปัญหาตามวัย (ตอนนี้ต้องไปซิื้อรองเท้าวิ่งคู่ละสองพันมาใส่จงกลมโดยเฉพาะ เพราะส้นเท้าเจ็บ หมอกระดูกเพื่อนกันบอกว่าเป็นโรครองช้ำ ต้องรองส้นเท้าไว้นิ่มๆตลอดเวลา จนกว่าจะหายเอง)
ระยะนี้ผมพยายามระลึกว่า กายก็ดี ใจก็ดี เป็นไตรลักษณ์ คือ ทุกขัง (เป็นทุกข์) อนิจจัง (ไม่เที่ยง เกิดมา ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป เป็นธรรมดา) อนัตตา (ไม่ใช่ตัวเรา ตัวตนเราจริงๆไม่มี ทุกอย่างเป็นของสมมุติ) และว่างๆก็ฟัง iPod คำสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ไปเรื่อยๆ เท่าที่มีอยู่เกือบ ๘๐ ตอนก็ฟังไปหลายรอบแล้ว
No comments:
Post a Comment