ช่วงนี้เรียนเรื่องกรรมจตุกกะอยู่ ท่านอาจารย์เน้นในทางปฏิบัติว่า อาจิณณกรรม เป็นเรื่องสำคัญ เพราะยามเมื่อสิ่งมีชีวิตใกล้จะตายนั้นจะไปไว้ใจ อาสัณณกรรมไม่ได้ ส่วนกฏัตตากรรมก็ไม่ไหว น่าจะเสี่ยงไป ส่วนครุกกกรรมนั่นคงไม่ได้ทำอยู่แล้ว เมื่อเป็นดังนั้นก็จัดแจงเลย ทำบุญหยอดตู้ทั้งเสาร์และอาทิตย์ และจะพยายามทำไปทุกอาทิตย์ต่อจากนี้ไป เมื่อไรที่ไปวัดก็จะทำให้เป็นอาจิณณกรรมเข้าไว้ และจะนึกถึงการทำกุศลให้บ่อยๆด้วย จะได้เป็นความเคยชิน นึกถีงก่อนจะทำ และขณะกำลังทำ และก็หลังจากทำแล้วบ่อยๆ เรียกว่าได้บุญสามเด้ง
ที่เขียนเรื่องกรรมนี้ อีกเหตุหนึ่งก็เพราะช่วงนี้อ่านดูจากเว็บต่างๆ ท่าทางดูสถานการณ์หลายอย่างไม่น่าไว้ใจ อะไรต่างๆจะเกิดก็ต้องเป็นไปตามกรรม ทั้งของคนในสังคม และของบ้านเมือง สำหรับผมนั้น ไม่อยากคิด (มีวิตก) เพราะว่าจิตมันจะปรุงให้เกิดกิเลสขึ้นมา อาจจะเป็น โทสะ (โกรธ หรือ เสียใจ ก็ตามแต่) หรือ โลภะ คืออยากจะให้มันเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ หรือ โมหะ (ก็หลงไปคิดจนขาดสตินั่นแหละ) ก็ต้องวางอุเบกขาไป เซฟตัวเอาไว้ก่อน เรื่องนี้คนอ่านตีความเอาเองว่าหมายความถึงเรื่องอะไร แต่สมควรพูดเพียงว่า ความจริงนั้นผมมีนัยยะมากกว่าหนึ่งเรื่อง
No comments:
Post a Comment