Sunday, October 26, 2008

อยากมีอายุยืนยาวต้่องทำอย่างไร

ช่วงวันสองวันนี้ผมอ่านเปเปอร์จำนวนมากทาง biochem เกี่ยวกับ กระบวนการแก่ (aging) การมีอายุยืน (longevity or longer lifespan) และความเครียดระดับเซลล์ในเชิงการโดนออกซิไดซ์ (oxidative stress) ได้ข้อสรุปสำหรับตัวเองไว้บางประการ ก็เลยจะใส่ไว้ในบล๊อกนี้ เพื่อเตือนตัวเอง และเผื่อเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นด้วย

เมตะบอลิสซึมของคาร์โบโฮเดรด โดยเฉพาะวิถีที่ตอบสนองต่อการส่งสัญญาณของอินสุลิน จะทำให้เซลล์เกิดออกซิเดทีฟสเตรสต่อเซลล์ แปลเป็นภาษาชาวบ้านก็คือ ถ้ากินข้าว หรือแป้ง รวมทั้งขนมหวานเข้าไป เซลล์ในร่างกายก็จะเกิดความเครียด ผลที่เกิดขึ้นคือ โมเลกุลต่างๆ โปรตีนต่างๆจะโดนออกซิไดส์ไปบางส่วน (โดยเฉพาะที่ตำแหน่งที่มีกรดอมิโน methionine) ถ้าเซลล์ไม่สามารถซ่อมได้ทันก็จะเกิดความเสียหาย และความเสียหายสะสมก็คือกระบวนการแก่ตัวของเซลล์และอวัยวะต่างๆ และผลก็คือการมีอายุสั้นลงของทั้งตัว (เคยเห็นคนแก่อายุยืนๆเป็นร้อยปีไหม มีแต่คนผอมเป็นส่วนมาก การศีกษาในสัตว์ทดลองและแมลงหวี่ก็ให้ผลเช่นเดียวกันกับในคน สรุปว่าจริง) ดังนั้นควรกินแป้งและน้ำตาลน้อยๆ
การช่วยเซลล์ซ่อมก็คือต้องกินพวกสารต่อต้านการออกซิไดส์ (antioxidants) หรือต้านอนุมูลอิสระ อย่างเช่น ไวตามินซี ไวตามินอี เป็นต้น การทำการทดลองพบว่าช่วยยืดอายุสัตว์ทดลองได้ (ผมเลยกินทั้งสองอย่าง ทุกๆวัน นานมาเป็นปีแล้ว) แต่ที่จะต้องทำต่อไปหลังเจอหลักฐานโต้งๆจากเปเปอร์ทางชีวเคมีนั้นก็คือการลดการบริโภคข้าวและขนมลงไป ซึ่งคงจะเริ่มทำตั้งแต่บัดนี้

มีความเชื่อมโยงกันระหว่างเมตะบอลิสซีมของไขมัน โดยเฉพาะ sphingolipids (จะไม่ลงลีกในรายละเอียด) ทำให้ผนังเซลล์มีความยืดหยุ่นน้อยลง ช่วยป้องกันออกซิเดทีฟสเตรสได้ดีขึ้น ผมตีความออกมาในทางปฏิบัติว่า ควรกินไข่แดงเป็นระยะๆ อย่าไปเว้นเพราะกลัวอ้วน เพราะไข่มีพวกสฟิงโกลิปิดส์นี้แยะ แต่อย่าไปกินมากไปเดี๋ยวโคเลสโตรอลกลับไปสูง

มีความเชื่อมโยงกันในวิถีการส่งสัญญาณในเซลล์ระหว่าง circadian rhythm หรือนาฬิกาชีวิตของเซลล์ (ที่ per ยีน) กับ oxidative stress response และ aging นอกจากนี้ก็มีเปเปอร์บอกว่า การที่คนนอนไม่หลับ หลับๆตื่นๆนั้น เป็นอาการแสดงออกของความแก่ ทำเลียนแบบได้ในสัตว์ทดลองเช่นแมลงหวี่ อนุมานได้ว่า อย่ากินข้าวเย็นแยะ หรืออดไปได้ก็ยิ่งดี จะช่วยได้ (อันนี้ก็ได้กะตัว ช่วงไปเข้ากัมมัฏฐานถือศีลแปด อดข้าวเย็น หลับง่ายดี เร็วด้วย ส่วนหนึ่งคงจะหิวโหย แต่ตื่นเช้าๆตีสี่ก็ยังได้)

ที่ยังไม่เจอเปเปอร์ตรงๆก็เรื่องผลของการออกกำลังกาย แต่นั่นอาจจะเป็นในระดับสรีรวิทยาของทั้งร่างกายมากกว่าในระดับชีวเคมีภายในเซลล์แต่ละเซลล์ ตอนนี้หน้าหนาวเริ่มเข้ามา ฝนก็น้อยลง ก็เริ่มออกกำลังกายได้อีก

No comments: