Friday, March 24, 2006

วิธีทำธุรกิจของต่างชาติ คือเอาเงินชาวบ้านไปใช้

พ่อค้่าสิงคโปร์นี่ฉลาดจริงๆ ใช้เงินชาวบ้านเอาไปหมุน เอาเงินในปัจจุบันไปแลกกับสัญญาเชิงฝันหวานในอนาคต และในราคาที่เขากำหนดขึ้นตามอำเพอใจ

ลองดูสถานการณ์ทำนองนี้แล้วคิดดูสิว่าใครจะตัดสินใจอย่างไร
สมมุติว่าถ้ามีบริษัทใหญ่น่าเชื่อถือมาเสนอกับเราว่า เขามีรถยนต์หรูราคาคันละหลายล้านบาทเอาหมุนเวียนให้ไว้บริการสมาชิก เรามีสิทธิใช่รถได้ฟรี ๗ วันเต็มในช่วงเวลาแต่ช่วงๆละสองปี ไปเรื่อยๆ และเรามีสิทธิเป็นสมาชิกไปจนถึง ๒๕ ปี โดยจ่ายเงินตอนนี้เลย ๓ แสนบาท (หรือดาวน์ ๒๕ เปอร์เซ็นของยอดนี้ แล้วผ่อนต่อไปอีกเดือนละ ๗ พันกว่าบาทไปอีก ๓ ปีเต็ม) เราควรจะซื้อสิทธินั้นไหม
ถ้า ๗ วันต่อสองปีเราไม่พอ จะเช่ารถนั้นเพิ่มก็ได้ จะได้ลดราคาค่าเช่ารายวันลง ๓๐ เปอร์เซ็นต์จากราคาเต็ม และหากว่าเราไปต่างประเทศยังมีสิทธิได้ลดราคาค่าเช่ารถในต่างประเทศทั่วโลกจากบริษัทในสมาคมรถเช่าอีกกว่าสองพันแห่งอีกด้วย

ข้ออ้างของบริษัทที่มาเสนอขายคึอว่า ถ้าเราจะไปเสียเงินเช่ารถแบบนี้ทุกๆปี ปีละสามสี่วัน จากราคาค่าเช่านั้นรวมกันแล้วสู้มาซื้อสมาชิกภาพไม่ได้
และเขาพยายามจะปิดการขายให้เราตกลงรูดบัตรเครดิตวางเงินมัดจำในทันที ภายใน ๑ ชม. โดยหลอกว่าถ้าตกลงเลยจะลดราคาให้ จาก ๔ แสนบาทเหลือ ๓ แสนบาท เราจะตกลงไหม (ถ้าคนจิตไม่โลภก็จะรู้ว่าเนี่ยเป็นละครแหกตา ราคาเว่อร์ๆ แล้วก็หลอกว่าลดให้)

ประเด็นที่น่าสนใจคือ ถ้าตกหลุมไป เงิน ๓ แสนนั้นซื้อกรรมสิทธิไม่ได้ ได้แต่สิทธิใช้่งาน นอกจากนี้เรายังต้องมีภาระเสียค่าบำรุงรักษารายปีอีกปีละ ๕ พันกว่าบาทอีกด้วย ไม่ว่าเราจะใช้รถหรือไม่
ในทางตรงข้าม ต่อให้เราไม่ได้เป็นสมาชิก เราก็เอาเงินนี้ไปเช่ารถใช้เป็นบางปีหรือเช่าทุกปีก็ยังได้ ราคาไม่ค่อยแตกต่างกันมาก

อีกแง่หนึ่งคือ คนที่จะซื้อคือเรานั้นจะต้องเอาเงินสดตอนนี้ไปซื่้อโอกาสอนาคต โดยเชื่อใจบริษัท ต้องเอาเงินของเราไปให้บริษัทที่เราไม่่ใช่เจ้าของใช้ก่อน และเราก็จะไม่ได้ที่สถานะเป็นเจ้าหนี้บริษัทด้วย หากว่าบริษัทเลิกกิจการไป หรือเปลี่ยนเจ้าของเราก็อาจสูญเปล่า
แถมว่าถ้าเราเอาเงินก้อนนี้่ไปหาดอกผล หรือลงทุน ก็ยังจะได้ผลตอบแทนมากกว่าส่วนลดที่บริษัทนั้น

มาวิเคราะห์ดูดีๆ โมเดลธุรกิจของบริษัทนี้คือ ถ้่่าบริษัทนั้นสามารถสามารถหาสมาชิกได้สัก 50 คนก็จะได้เงิน 15 ล้าน เฉลี่ยแล้วเอาไปซื้่อรถได้สามคัน ปีหนึ่งมี 52 สัปดาห์ สองปีก็ 104 สัปดาห์ เผื่อรถเข้าอู่ซ่อมบำรุงด้วยสักสองสามสัปดาห์ต่อปี ก็ยังมีเวลารวมราว 3 x 100 = 300 สัปดาห์-คัน ก็เอามาหมุนเวียนให้ลูกค้าใช้สบาย แถมยังเอาไปให้คนอื่นเช่าได้อีกเป็นสัดส่วนที่แยะกว่าอีกด้วย (ซึ่งเขาอ้างว่าให้ลูกค้าภายนอกเช่าในราคาเต็ม แต่จริงๆแล้วเราไม่รู้หรอกว่า ราคาที่เขามากล่าวอ้างเพื่อขายสมาชิกภาพนั้นโอเวอร์ไปแค่ไหน) เขากำไรเห็นๆ ได้แยะมาก แถมบริษัทยังเป็นเจ้าของทรัพย์สิน หากเลิกกิจการก็ยังขายสินทรัพย์ไปได้เงินอีก

เอาละ คราวนี้เปลี่ยนเรื่องสมมุติกลับมาเป็นเรื่องจริงบ้าง โดยเปลี่ยนแค่ตัวสินค้าจากรถยนต์หรู เป็นห้องพักโรงแรมห้าดาวชายทะเลแทน อย่างอื่นคงเดิมทุกประการรวมท้ังจำนวนเงิน และความจริงที่ต่างไปก็คือ ราคาที่ดินและอาคารนั้นมีแต่เพิ่มขี้น ไม่มีลดลง แต่รถยนต์น่ะมีแต่เสื่อมราคาลง

เห็นฝีมือเสี่ยเมืองสิงห์โตหรือยัง ผ่องถ่ายเอาเงินจากกระเป๋าคนไทย(และฝรั่งจำนวนหนึ่ง) ได้เป็นเงินมหาศาล (ไม่ต่ำกว่าร้อยล้านบาท) ไปซื้อและสร้างอสังหาริมทรัพย์ที่ตัวเป็นเจ้าของถือครองในประเทศไทย แล้วมาปล่อยเช่า โดยไม่ต้องกู้แบงก์เสียดอกเบี้ย

แบบนี้แหละเงินคนไทยช่วยเขายึดเมืองไทยไปในตัว

No comments: