พระอาจารย์สอนอภิธรรมรูปหนึ่งของผู้เขียนท่านพูดถึงคัมภีร์เล่มหนึ่ง คือ อภิธัมมาวตาร ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินเลย รู้สึกตัวเองเหมือนกับเป็นกบอยู่ในกะลา เพราะไม่รู้อะไรมากกว่าที่เขาให้เรียนในตำราระดับต่างๆ
พอท่านพูดถึงหนังสือเล่มนี้ เราก็ไปตามดูเลยว่า จะหาได้ที่ในกรุงเทพหรือไม่ ไป คณะ ๒๕ วัดมหาธาตุจะมีหรือไม่ ก็ไม่มี จึงต้องกลับมาบ้าน แล้วไปดูเว็บวัดท่ามะโอ ท่านมีให้ดาวน์โหลด ก็เลยจัดการดาวน์โหลดเอามาไว้อ่าน พร้อมกับหนังสืออื่นๆที่ พระคันธสาราภิวงศ์ท่านได้กรุณาแปลเป็นไทยไว้อีกเป็นจำนวนมาก รวมแล้วก็มี ๒๔ เล่ม ยังไม่นับ mp3 อีก โอ้ย เจอขุมทรัพย์เข้าแล้ว ดูดมาไว้อ่านหมดเลย (ด้วยความโลภ) ใส่ลิงก์ไว้ข้างบน นมัสการขอบคุณ พระคันธสาราภิวงศ์ ท่านไว้ ณ ที่นี้ ตอนนี้ก็กำลังอีเมลไปหาท่านจะขอซื้อหนังสือเป็นเล่มมาด้วย
นอกจากนี้ ยังไปเจอข้อมูลจากวิกิพีเดียภาษาไทยอีกด้วย
ปกิณกะ ไทย I posted about interesting items information I found, write my views on books I read, education, science and technology, Buddhism and meditation, economic and business, music, and movies, country and rural development. Articles are in English or Thai.
Sunday, February 28, 2010
ทริป ปราสาทดิน ถ้ำวัวแดง ชัยภูมิ
เคยโพสต์ไว้บ้างแล้วว่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ไปกับเพื่อนๆบนเน็ตสามสิบกว่าคน ไปปฏิบัติธรรมที่ วัดปราสาทดิน จังหวัดชัยภูมิ ที่เจ้าอาวาสคือ พระราชภาวนาวราจารย์ (หลวงปู่บุญมา) หรือ เรียกกันว่าหลวงปู่ศี ท่านเป็นพระดี เมตตามาก และพระลูกวัดท่านเล่าให้ฟังว่า ถ้าใครไปทำอะไรมาหลวงปู่รู้อะไรๆโดยไม่ต้องมีคนบอก จนทุกรูปเกรงท่านมาก ผมคิดว่า ในอนาคตคงไปกราบท่านอีก
นอกจากนี้ วันหนึ่งยังได้มีโอกาสขึ้นไปถ้าวัวแดง (ขึ้นบันไดไป ๑๔๐๐ ขั้น ชันมาก โชคดีตอนนี้มีบันไดคอนกรีต) ถำ้นี้เป็นถิ่นพระอริยะ ที่คนเรียกท่านกันว่า หลวงปู่ใหญ่ หรือ หลวงปู่เทพโลกอุดร และบรรดาพระอภิญญาท่านอื่นๆที่เป็นสายศิษย์ของท่าน เพื่อนรุ่นน้องหลายท่านศรัทธามาก ตอนบ่ายหลังจากลงเขาไปแล้ว ตอนค่ำยังขึ้นเขากลับมาบนถำ้เพื่อเรียนกัมมัฏฐานกับพระอาจารย์บนเชาอีกจนดึกดื่น ผมรู้ตัวว่าไม่ไหว หัวเข่าและกล้ามเนื้อต้นขาเร่ิมร้องเรียน ก็เลยคิดว่าขึ้นเขาหนเดียวพอ ไว้อนาคตทริปหน้าคงได้ขึ้นมาอีกแน่ๆ จะหาโอกาสขึ้นไปนั่งกัมมัฏฐานบนนั้นอีก และอาจจะกราบขอให้พระอาจารย์ท่านสอนสมาธิขั้นสูงต่อยอดให้ แต่ต้องรอให้สมาธิแก่กล้ากว่านี้หน่อย
บางคนบอกว่า ใครสนใจฝึกอภิญญาต้องมาที่ถ้าวัวแดงนี่ เสมือนหนึ่ง เส้าหลิน เพื่อต่อยอด เราก็เชื่อว่าน่าจะจริง สถานที่สัปปายะมาก ใครเข่าไม่ดีคงขึ้นมาลำบาก แต่ก็ขึ้นกับกำลังใจเป็นสำคัญ มีเรื่องเราเล่า คนขาหักยังขึ้นมาได้เลย ขอให้มีศรัทธาเท่านั้น
ผมเข้าไปในถ้าหลัก ข้างในลึกทีเดียว มีหลายห้อง ห้องแรกสุดใกล้ปากถ้ำ เทพื้นปูนไว้ มีโต๊ะหมู่พระพุทธรูป ผมเข้าใจว่า คนที่มาปฏิบัติธรรม สามารถนอนกันตรงบริเวณห้องแรกนั้นได้ในถ้ำ แถวถำ้วัวแดงและวัดปราสาทดินนี้ดี ยุงไม่ค่อยชุม ในถ้ำก็มีน้ำซับจากบ่อในถ้ำ ถ้าไม่มีน้ำขวดมาก็มีน้ำบ่อกินประทัง (ใครอยากจะแบกของหนักขึ้นเขามาล่ะ) บนนั้นมีหลายถ้ำอีกแถวนั้น แต่ไม่ได้ปีนเข้าไป กลัวตกลงมาแข้งขาหัก หมดแรงด้วย และนุ่งกางเกงยีนส์สีเนื้อ กลายเป็นสีน้ำตาลหมดแล้ว ไว้คราวหน้าคงจะเตรียมตัวลุยเข้าไป
ไปทริปนี้คุ้มค่ามาก ได้แวะกราบพระหลายองค์ ได้ทำบุญ ทำทาน และ ระหว่างอยู่วัดก็ได้ ปฏิบัติบูชา กัมมัฏฐาน และ ยังได้มีโอกาสเรียนการเข้าฌาน ๔ ได้เรียนวิชา จาก อ. เล็ก ก่อนหน้านี้เรียนแต่จากเสียงที่ดาวน์โหลดมาจากเว็บ เพิ่งมีโอกาสเจอตัว ทำให้เห็นกับตัวว่าพลังจิตเป็นเรื่องจริง (แต่เป็น ปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหิ คือ วิญญูชนพึงรู้ได้ด้วยตนเอง เล่ารายละเอียดในที่สาธารณคงไม่ดี) ทริปนี้ทำให้ได้รู้ว่าตนเองเป็นพวก ติเหตุกบุคคล
ได้ไปประสบกับไฟป่าบนเขาใกล้ถ้ำวัวแดง อาจจะเพราะอากาศร้อน หรือมีคนจุดไล่สัตว์ป่าเพื่อล่าก็เป็นได้ พวกเราจึงขึ้นไปช่วยกันดับไฟป่าสองรอบตอนบ่าย และตอนค่ำๆก็ยังออกลาดตระเวณตรวจไฟป่ารอบวัดปราสาทดินอีก ทำให้เห็นว่า ถ้าไม่มีพระอยู่ในป่า ไม่มีวัดอยู่ในป่า ไฟมาป่าวอด หรือไม่ก็ชาวบ้านหรือนายทุนตัดป่าแบบไม่เกรงใจมากกว่านี้ ตอนนี้มันก็เกรงบ้างไม่เกรงบ้าง
เรื่องต้องปลงอีกหนึ่ง
จากข่าวที่ลิงก์ไว้ข้างบน กำธร สุวรรณปิยศิริ อดีตนักแสดง และนักพาย์ภาพยนต์ เสียชีวิต (พระเอกละครทีวีขาวดำ สมัย ช่อง ๔ บางขุนพรหม ตอนนี้สถานีรื้อไปสร้างเป็นแบงก์ชาติไปแล้ว) ขออนุญาตทวนความหลังเสียหน่อย
สี่สิบกว่าปีก่อน คุณแม่ผมเป็นแฟนละครโทรทัศน์ของคุณกำธร เล่นเป็นพระเอกกับนางเอกหลายคนในเรื่องต่างๆ ทั้งคุณ อารีย์ นักดนตรี คุณ นันทวัณ เมฆใหญ่ คุณกนกวรรณ ด่านอุดม สังกัดคณะ นาฏศิลป์สัมพันธ์ ของครูสัมพันธ์ พันธุ์มณี เล่นประจำอยู่ช่อง ๔ ของ บริษัท ไทยโทรทัศน์จำกัด สมัยนั้นผมอายุสักสิบขวบได้ละมัง ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษให้ดูละครทีวีตอนดึก ๔ ทุ่มได้เป็นบางครั้ง (ตามปกติต้องเข้านอน ๒ ทุ่ม) ผมเลยพลอยเป็นแฟนละครคุณกำธรไปด้วย ส่วนมากจะเล่นเรื่องที่เกี่ยวกับไทยรบพม่า บทประพันธ์ของ รพีพร หรือไม่ก็ ไม้เมืองเดิม ต้องมีการฟันดาบกัน ผมเห็นว่าตื่นเต้นดี สมัยนั้น คุณสมจินต์ ธรรมทัศน์โดนจับเล่นเป็นตัวโกงประจำ
เรื่องที่เด่นๆก็เช่น ขุนศึก ขุนศึกมหาราช และ เลือดอยุธยา ส่วนละครเรื่องที่ผมไม่ชอบ เพราะออกจะเศร้าก็เช่น เรื่อง แผลเก่า
ตัวละครที่เล่นเป็นพระรอง(แต่ออกแนวตลกๆ)ก็เช่น คุณรอง เค้ามูลคดี และมีตัวตลกที่ผมยังคงคิดถึงคือคุณ จำรูญ หนวดจิ๋ม (น้อยทิพย์) เสียชีวิตไปนานแล้ว
ว่างๆผมจะงัดเอาเทปเพลงละครช่องสี่มาเปิดทวนความหลังสักที
กำธรเสียชีวิตด้วยวัย ๗๕ ปี เท่าอายุขัยของคนยุคปัจจุบันตามพุทธศาสนาพอดี ถือว่าหมดอายุ แต่อย่างไรก็ต้องแสดงความเสียในกับคุณนันทวัณด้วย
คนที่ผมรู้จักเสียชีวิตด้วยวัยเท่านี้ก็มีอีก ต้องปลง เพราะทุกอย่างเกิดมาแล้วต้องดับไป
ตอนนี้ผมก็อายุมากเกินกว่าจะดูละครไร้สาระทางทีวีปัจจุบันเสียแล้ว ขี้เกียจให้อารมณ์แกว่งไปมีโทสะกับการแสดงเว่อร์ๆของนักแสดง เช่น การตะโกนและตะคอกใส่กันอย่างกะหนังหรือละครทีวีจากฮ่องกง คนไทยในกรุงเทพฯสมัยก่อนเขาไม่พูดตะโกนหรือตะคอกเสียงดังกันหรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพ่อแม่ ครูอาจารย์ หรือผู้ใหญ่ (ดังคำพังเพยว่า คนจีนปราศรัยเหมือนไทยตีกัน) นี่ ถือโอกาสบ่นเสียเลย
สี่สิบกว่าปีก่อน คุณแม่ผมเป็นแฟนละครโทรทัศน์ของคุณกำธร เล่นเป็นพระเอกกับนางเอกหลายคนในเรื่องต่างๆ ทั้งคุณ อารีย์ นักดนตรี คุณ นันทวัณ เมฆใหญ่ คุณกนกวรรณ ด่านอุดม สังกัดคณะ นาฏศิลป์สัมพันธ์ ของครูสัมพันธ์ พันธุ์มณี เล่นประจำอยู่ช่อง ๔ ของ บริษัท ไทยโทรทัศน์จำกัด สมัยนั้นผมอายุสักสิบขวบได้ละมัง ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษให้ดูละครทีวีตอนดึก ๔ ทุ่มได้เป็นบางครั้ง (ตามปกติต้องเข้านอน ๒ ทุ่ม) ผมเลยพลอยเป็นแฟนละครคุณกำธรไปด้วย ส่วนมากจะเล่นเรื่องที่เกี่ยวกับไทยรบพม่า บทประพันธ์ของ รพีพร หรือไม่ก็ ไม้เมืองเดิม ต้องมีการฟันดาบกัน ผมเห็นว่าตื่นเต้นดี สมัยนั้น คุณสมจินต์ ธรรมทัศน์โดนจับเล่นเป็นตัวโกงประจำ
เรื่องที่เด่นๆก็เช่น ขุนศึก ขุนศึกมหาราช และ เลือดอยุธยา ส่วนละครเรื่องที่ผมไม่ชอบ เพราะออกจะเศร้าก็เช่น เรื่อง แผลเก่า
ตัวละครที่เล่นเป็นพระรอง(แต่ออกแนวตลกๆ)ก็เช่น คุณรอง เค้ามูลคดี และมีตัวตลกที่ผมยังคงคิดถึงคือคุณ จำรูญ หนวดจิ๋ม (น้อยทิพย์) เสียชีวิตไปนานแล้ว
ว่างๆผมจะงัดเอาเทปเพลงละครช่องสี่มาเปิดทวนความหลังสักที
กำธรเสียชีวิตด้วยวัย ๗๕ ปี เท่าอายุขัยของคนยุคปัจจุบันตามพุทธศาสนาพอดี ถือว่าหมดอายุ แต่อย่างไรก็ต้องแสดงความเสียในกับคุณนันทวัณด้วย
คนที่ผมรู้จักเสียชีวิตด้วยวัยเท่านี้ก็มีอีก ต้องปลง เพราะทุกอย่างเกิดมาแล้วต้องดับไป
ตอนนี้ผมก็อายุมากเกินกว่าจะดูละครไร้สาระทางทีวีปัจจุบันเสียแล้ว ขี้เกียจให้อารมณ์แกว่งไปมีโทสะกับการแสดงเว่อร์ๆของนักแสดง เช่น การตะโกนและตะคอกใส่กันอย่างกะหนังหรือละครทีวีจากฮ่องกง คนไทยในกรุงเทพฯสมัยก่อนเขาไม่พูดตะโกนหรือตะคอกเสียงดังกันหรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพ่อแม่ ครูอาจารย์ หรือผู้ใหญ่ (ดังคำพังเพยว่า คนจีนปราศรัยเหมือนไทยตีกัน) นี่ ถือโอกาสบ่นเสียเลย
Thursday, February 25, 2010
ไปปฏิบัติธรรมมา
ผมมีความเห็นว่าปีหนึ่งๆ ต้องหาทางออกไปปลีีกวิเวกสักอย่างน้อยหนึ่งหรือสองครั้ง
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไปฝีกสมาธิกับกลุ่มคนหนุ่มสาวผู้ทรงคุณธรรมสูงจำนวนหนึ่งกว่า ๓๐ ท่าน ไปที่ชัยภูมิ ได้มีโอกาสทำบุญด้วยการบริจาคเงินหลายๆที่ ได้ใส่บาตรกับพระอริยะ ได้ไปกราบพระผู้ทรงคุณก็หลายรูป ได้ไปฝึกสมาธิเต็มที่ ได้ไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไดัเห็นความมหัศจรรย์ของจิต ได้ไปพัฒนายกระดับคุณธรรมของจิต
ต้องขอบคุณคนในครอบครัวที่เข้าใจ และเสียสละ เมื่อสมาชิกหลักในครอบครัวไม่อยู่บ้าน ในยามที่สภาพการณ์ในครอบครัวไม่ปกติ มีผู้ใหญ่เจ็บป่วยอยู่ แต่ผมรู้สึกว่า จะไม่ไปไม่ได้ มันเป็นโอกาสพิเศษจริงๆ และก็พบว่า การตัดสินใจไปนั้น ไม่ผิดหวัง และเป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดในชีวิต
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไปฝีกสมาธิกับกลุ่มคนหนุ่มสาวผู้ทรงคุณธรรมสูงจำนวนหนึ่งกว่า ๓๐ ท่าน ไปที่ชัยภูมิ ได้มีโอกาสทำบุญด้วยการบริจาคเงินหลายๆที่ ได้ใส่บาตรกับพระอริยะ ได้ไปกราบพระผู้ทรงคุณก็หลายรูป ได้ไปฝึกสมาธิเต็มที่ ได้ไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไดัเห็นความมหัศจรรย์ของจิต ได้ไปพัฒนายกระดับคุณธรรมของจิต
ต้องขอบคุณคนในครอบครัวที่เข้าใจ และเสียสละ เมื่อสมาชิกหลักในครอบครัวไม่อยู่บ้าน ในยามที่สภาพการณ์ในครอบครัวไม่ปกติ มีผู้ใหญ่เจ็บป่วยอยู่ แต่ผมรู้สึกว่า จะไม่ไปไม่ได้ มันเป็นโอกาสพิเศษจริงๆ และก็พบว่า การตัดสินใจไปนั้น ไม่ผิดหวัง และเป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดในชีวิต
Saturday, February 13, 2010
A nice place for a break with music
Today I just had to drive my kid to a symphony concert at Mahidol University College of Music, in Salaya campus. It has a decent music auditorium. As a secondary school student, she was asked by her teacher to attend a classical music concert and write up a report. Thus kids from the same school went there today as well. After the concert, she was very happy and smilingly told me that she did not know she 'd love this kind of concert a lot. Previously, the only type of concert she knew was the type that most Thai teenagers are already over-exposed. Now she has discovered a new kind of cool and classy experience. (I think she has already been exposed to classical music lessons from her weekly piano classes, although she did not realize that.) We agree that next time we 'll try to find time together to listen to such concert. That will be a rare opportunity to spend good time with a teenage daughter. I also shopped several music CD from there too. I just realized that I have not listened to classical and Thai classical music for quite a while.
Thursday, February 11, 2010
Cambodian soldiers sneaked in to occupy more Thai territory last night
According to news from the Thai newspaper website linked above, over 300 Cambodian soldiers sneaked across border to seize a Ta-Khwai ancient relic near the border last night. The tension is increasing. It is possible that their big boss intends to attack Thai soliders outposts at the Ta Muen Thom ancient relic in the coming week, to coincide with the planned protest by Thai pro-Thaksin redshirts in Bangkok. Last week, some big guy was turned back when his aides tried to negotiate for him and his entourage to come over to visit the Ta Muen Thom ancient relic without properly arranged diplomatic protocols, and fully armed.
Last year I visited the Sisaket and Surin border area on my way driving back from Ubol. I was depressed that some parts of Thai territory was occupied by Cambodians and the past Thaksin and subsequent pro-Thaksin governments of Thailand forbade Thai army from pushing them back. Now it looks like they are trying to seize an opportunity of impending red-shirt protest in coming week trying to get more land at the Ta Muen Thom. I think they will attack our soilderrs first and it looks like we will lose some brave men before we can take action of repelling them back, perhaps down the cliff this time. I can't believe the Cambodians don't want to challenge the Vietnamese about their lost territory at their eastern border but turn to invade us on their west instead. I think they will get deadly consequence. We 'll see. For me, I feel sadden by the possible loss of lives on both sides. Many of them are people in the neighboring areas and likely the descendents of people of the same ethnicity anyway, regardless of their official nationality.
อันเนื่องมาจากภาพยนต์ที่เคยดู
ถ้าใครเคยดูภาพยนต์เรื่อง "Charlie Wilson's War" ที่แสดงนำโดย Tom Hanks & Julia Roberts จะรู้สึกประทับใจ หนังสนุกมาก เป็นเรื่องของ ส.ส. อเมริกันจอมเพลบอย แต่สู้กับรัสเซียในสงครามอัฟกัน ผ่านการเมืองในอเมริกน ต้องหาทางจัดสรรงบประมาณของรัฐสภาอเมริกันไปช่วย ต้องติดต่อต่างประเทศ และหาทางซื้อของ และยุทธภัณฑ์ไปช่วยชาวอัฟกันสู้กับรัสเซีย สุดท้ายรัสเซียต้องถอยทัพ
ที่พูดเรื่องนี้ เพราะวันนี้มีข่าวว่า Charlie Wilson ตัวจริงเสียชีวิตแล้ว ดังข่าวในลิงก์
ที่พูดเรื่องนี้ เพราะวันนี้มีข่าวว่า Charlie Wilson ตัวจริงเสียชีวิตแล้ว ดังข่าวในลิงก์
Wednesday, February 10, 2010
จะป้องกันโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองอุดตันได้อย่างไร
ใส่ลิงก์ไว้ให้แล้วข้างบน โรคนี้ทำให้เกิดการตายเป็นลำดับสามในอเมริกา ไม่รู้ว่าในเมืองไทยเป็นยังไง แต่ญาติๆผมบางคนเจอโรคนี้เข้าไปเท่าที่รู้ก็ ๒ คน โรคนี้เป็นปัญหากับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ บวกกับอาหารฝรั่ง จั๊งก์ฟู้ด ไขมันสูง เกลือมาก และนั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานๆหลายชั่วโมง นั่งดูทีวีนานๆ และไม่ยอมออกกำลัง (ก่อนหน้านี้ ผมเข้าประเภท ถูกทุกข้อที่กล่าวมา)
จากที่ไปอ่านมา ก็สรุปประเด็นวิธีป้องกันก็คือ
ต้องออกกำลังกายประจำทุกวัน เพิ่มกิจกรรมการเคลื่อนไหวในแต่ละวัน อย่านั่งเฉยๆนานๆหลายๆชั่วโมง ควรใช้บันไดแทนลิฟต์บ้าง ลดคอเลสโตรอล ลดปริมาณโซเดียมในอาหาร งดอาหารไขมันสูง เพื่อคุมความดันให้ต่ำเข้าไว้ ย่ิงต่ำกว่า ๑๒๐ /๘๐ ก็อัตราเสี่ยงต่ำ
หากใครน้ำหนักเกิน ก็ต้องลดน้ำหนัก ด้วยการกินแป้งและน้ำตาลในแต่ละวันแต่น้อยๆ สำหรับบางคน ถ้ากำลังใจสูงพอ ก็งดมื้อเย็น และออกกำลังทุกวัน ตลอดไปได้ก็ยิ่งดี ผมพบอีกอย่างว่า มื้อเย็นเป็นส่วนเกินของความต้องการของร่างกาย ตอนนี้เข้าใจแล้วว่า ทำไมพระท่านจึงไม่ฉันอาหารหลังเพลไปแล้วในแต่ละวัน เพราะนอกจากเป็นภาระต้องไปวิ่งหาอะไรมารองท้องสนองกิเลสแล้ว ยังแย่ต่อสุขภาพ(คนสูงอายุ)อีกด้วย
โพสต์นี้อาจจะช่วยชีวิตคนที่มาเผอิญอ่านเจอในอนาคตได้หลายคน ถ้านำคำแนะนำไปปฏิบัติ
จากที่ไปอ่านมา ก็สรุปประเด็นวิธีป้องกันก็คือ
ต้องออกกำลังกายประจำทุกวัน เพิ่มกิจกรรมการเคลื่อนไหวในแต่ละวัน อย่านั่งเฉยๆนานๆหลายๆชั่วโมง ควรใช้บันไดแทนลิฟต์บ้าง ลดคอเลสโตรอล ลดปริมาณโซเดียมในอาหาร งดอาหารไขมันสูง เพื่อคุมความดันให้ต่ำเข้าไว้ ย่ิงต่ำกว่า ๑๒๐ /๘๐ ก็อัตราเสี่ยงต่ำ
หากใครน้ำหนักเกิน ก็ต้องลดน้ำหนัก ด้วยการกินแป้งและน้ำตาลในแต่ละวันแต่น้อยๆ สำหรับบางคน ถ้ากำลังใจสูงพอ ก็งดมื้อเย็น และออกกำลังทุกวัน ตลอดไปได้ก็ยิ่งดี ผมพบอีกอย่างว่า มื้อเย็นเป็นส่วนเกินของความต้องการของร่างกาย ตอนนี้เข้าใจแล้วว่า ทำไมพระท่านจึงไม่ฉันอาหารหลังเพลไปแล้วในแต่ละวัน เพราะนอกจากเป็นภาระต้องไปวิ่งหาอะไรมารองท้องสนองกิเลสแล้ว ยังแย่ต่อสุขภาพ(คนสูงอายุ)อีกด้วย
โพสต์นี้อาจจะช่วยชีวิตคนที่มาเผอิญอ่านเจอในอนาคตได้หลายคน ถ้านำคำแนะนำไปปฏิบัติ
Subscribe to:
Posts (Atom)