Tuesday, January 31, 2006

เทมาเส็กซื้อชิน จีอีจะซื้อแบงก์กรุงศรีฯ

ผมโพสต์ไว้ไม่นานมานี้เรื่่องต่างชาติฮุบเมืองไทย ในที่สุดก็เป็นเรื่องใหญ่โต ตอนนี้เรื่องแรกคือเทมาเส็กซื้อชินไปนั้น เท่าที่ดูจากเว็บคนกำลังโกรธกันใหญ่ ว่าเอาสิทธิประโยชน์ที่ให้คนไทยไปขาย และยังเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ และยังมีเรื่องซุกหุ้นภาค ๒ อีก เสาร์นีั้คงจะรู้เรื่องว่าบานปลายอีกแค่ไหน ส่วนเรื่องที่สอง เรื่อง จีอีจะซื้อแบงก์กรุงศรีฯ ยังเป็นแค่ข่าวที่ออกมา ยังตกลงกันอยู่ ไม่เรียบร้อย แต่เท่าที่รู้ ตอนนี้แบงก์กรุงศรีเป็นธนาคารเดียวที่ยังมีคนไทยถือหุ้นใหญ่ แบงก์อื่นน่ะไทยกลายเป็นส่วนน้อยไปแล้ว ถ้าซื้อได้ก็หมดเลย ธนาคารไทยแท้

(บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์สำหรับอนาคตเท่านั้น เพราะเป็นความตั้งใจมาตั้งแต่แรกว่าผมจะไม่ให้ความเห็นทางการเมืองในบล๊อกนี้)

ตัวอย่างของ ดวงจิต ที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

ยามเมื่อรถติดไฟแดง สายตาสอดส่ายไปรอบๆ เรื่อยๆ เห็นสาวนางหนึ่งเดินกรายผ่านไป รูปอรชร หน้าตาดูดี รูปอาตมาพลันรู้ตัว แล้วบาลีก็เผลอเลื่อนไหลออกมาจากปากว่า

โสมฺนัสฺสสหคตํ ทิษฺฐิคตสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ

Saturday, January 28, 2006

หนังสือ วิปัสสนานัย เล่ม ๑


วันนี้เพิ่งได้หนังสือแจกฟรีมาจาก อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย ที่วัดสามพระยา มา ๑ เล่ม
คือหนังสือชื่อ วิปัสสนานัย เล่ม ๑ ที่เดิมรจนาโดย พระโสภณเถระ (มหาสีสยาดอ) เป็นภาษาพม่า ตั้งแต่เมื่อราวหกสิบปีมาแล้ว (พ.ศ. ๒๔๘๗) แปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทยโดย พระคันธสาราภิวงศ์ ตรวจชำระโดย พระพรหมโมลี จัดพิมพ์เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๔๘ และพระราชทานหิรัญบัตร ท่่านเจ้าคุณพระพรหมโมลี

หนังสือนี้ท่านแต่งขึ้นสำหรับประสานความเข้าใจพระและผู้ปฏิบัติธรรม ทีมีอยู่สองกลุ่มเข้าด้วยกัน คือผู้เคยเรียนอภิธรรมมา กับผู้ปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน จะได้เข้าใจมากขึ้น
ผมอ่านหนังสือเล่มนี้ไปแล้วบางส่วน ก็เห็นว่าน่าสนใจดี ก็เห็นด้วยกับที่ท่านเขียนไว้ในหนังสือของท่านว่า ถ้าผู้อ่านเคยเรียนพระอภิธรรม จะได้ประโยชน์มาก แต่ผมก็เห็นว่าถ้าคนที่ยังไม่ได้เรียน แต่มีความสนใจ เช่นผมก็เข้าข่าย ก็คิดว่าอ่านได้เรื่อยๆ ก็อ่านได้ และเห็นว่าเป็นประโยชน์ดี

ผมต้องขอขอบคุณ ท่านผู้แปลและเรียบเรียง และท่านผู้บริจาคทรัพย์ ที่สร้างหนังสือดีเล่มนี่้ไว้ด้วย ทุนทรัพย์คิดเป็นเงินก็กว่า ๑ ล้านบาท
ขออนุโมทนาบุญท่านไว้ ณ ที่นี้ หากว่าจะน้อมนำจิตใจให้บางท่านในอนาคต สนใจฝักใฝ่การปฏิบัติเพื่อมุ่งนิพพาน ก็ย่อมจะเป็นผลานิสงค์ยิ่ง

หนังสือผลงานของ อ. จำรัส เกียรติก้อง


วันนี้แวะไปชมงานแสดงผลงานในอดีตของศิลปินท่านนี้แล้ว ที่หอศิลป์แห่งชาติ จ่ายค่าชมไปสิบบาท ถูกแสนถูก (แต่หมดค่าหนังสือ และของที่ระลึกไปเป็นพันบาท) หนังสือที่ระลึก ปกแข็งเล่มละ ๘๐๐ บาท หน้าปกหนังสือนี้เป็นผลงานมีประวัติ และภาพนี้ท่านเขียนไว้ไม่เสร็จ เรื่องของเรื่องก็คือ คนที่เป็นนางแบบ(ไม่ทราบนาม)ติว่าท่านวาดไม่เหมือนตัวจริง อาจารย์ก็เลยโกรธ ขว้างทิ้ง ตอนนั้นยังไม่ได้ลงแววตา และก็ยังไม่ได้เซ็นชื่อด้วย คนอื่นเก็บเอาไว้ ได้ทราบว่าตอนนี้กำลังจะให้คนประมูลซ็้อไป เพื่อเอาเงินไปช่วยภริยาอาจารย์ที่ชรามากแล้ว

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า คนจะสนใจมากไหม เพราะส่วนสำคัญที่สุดสองส่วนคือ แววตา กับ ลายเซ็น ไม่มี

Sunday, January 22, 2006

เรื่องที่จะให้เลิกท่องจำ

ข่าวจาก สำนักข่าวไทย บอกว่านายกฯสั่งให้เลิกท่องจำ ตั้งแต่ อนุบาลยัน Ph.D.

ผมไม่เข้าใจว่าเป็นการตรงประเด็นหรือไม่
ถ้าจะบอกว่าในการเรียนการสอน ให้เน้นการปฏิบัติ และให้เน้นความเข้าใจ มากกว่าการท่องจำ อันนี้ก็คงไม่มีอะไรคัดค้านกัน
(ปัญหาอยู่ที่งบประมาณ มีสื่อการสอน และอุปกรณ์ พอทุกโรงเรียนทุกชั้นหรือไม่ต่างหาก คงไม่ใช่ครูไม่อยากสอนแบบนั้น)

แต่ถ้านายกฯจะให้เลิกเลยจำทั้งหมด และกระทรวงศึกษาบ้าจี้ไป แบบต้องทำตาม 100% ก็อันตราย

เรียนภาษาอังกฤษ ก็ต้องท่องศัพท์ได้
เรียนคณิตศาสตร์ก๋็ต้องท่องสูตรคูณ
เรียนภาษาไทย ก็ต้องท่องอาขยาน
เรียนเคมีก็ต้องท่องสูตร ต้องจำสูตรโครงสร้างสารสำคัญได้
เรียนฟิสิกส์ก็ต้องจำสมการ และค่าคงที่ อัตราแปลงหน่วยต่างๆ
เรียนกฏหมายก็ต้องแม่นมาตรา
เรียนธรรมะ ก็ต้องแม่นบาลี
ยังไงๆก็ต้องจำ

ถ้าเด็กไม่จำ fact ก็จะสมองโล่งๆ ไม่มีอะไรเป็นหลักในการไปต่อยอดความคิดอีกต่อไป เสมือนจะสร้างตึกก็ต้องตอกเสาเข็ม

Thursday, January 19, 2006

โรคความใส่ใจสั้น และ การทำงานให้ดีขึ้น

TIME magazine เล่มล่าสุด 23 มกราคม 2006 ลงเรื่องแยะมากเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานของสมองและใจ
ได้แง่คิดดีๆที่เราตัดสินใจมาปฏิบัติ บวกกับการประยุกต์ของเราเองดังนี้ เพื่อแก้โรคความใส่ใจสั้น สมาธิสั้น หรือ Attention-deficit syndrome ที่เรามีแยะมาก

เป็น manager ที่ดี คือจ่ายงานให้คนอื่นเช่นลูกน้องทำงานให้เรา อย่ากั๊กงานไว้ทำเอง เพราะจะไม่ได้ทำ
เลือกทำงานที่สำคัญที่สุดก่อน
ตัดงานที่โดนร้องขอออกไป เว้นแต่จะโดนขอซ้ำ (เจ้านายบอกวิธีให้)
ถ้าจะทำอะไร ถามตัวเองว่า KPI คืออะไร ทำงานนั้นจะได้อะไร
ทำงานทีละอย่างให้เสร็จ อย่าทำสองอย่างพร้อมกัน จะประสิทธิภาพต่ำกว่า หรือคุณภาพงานแย่กว่า
ขณะทำงานอย่างหนึ่งอย่าคิดเรื่องอื่นจนกว่าจะเสร็จ
ขณะทำงาน เพื่อให้ต่อเนื่อง อย่าเปิดโทรศัพท์ไว้ อย่าเปิดอีเมลไว้ อย่าเปิดบราวเซอร์ดูข่าวหรืออะไรๆที่ไม่เกี่ยวกับงาน
ที่โต๊ะหรือประตูห้อง ติดป้าย "ห้ามรบกวนเด็ดขาด" เอาไว้ตามช่วงเวลาที่ต้องการใช้สมอง
หลับให้พอ วันละ ๘ ชม. ทุกวัน
กินอาหารประเภทปลาและผักที่มีสีบ่อยๆ
กิน antioxidant เช่น vitamin C & E และ น้ำมันตับปลา เป็นประจำ
ออกกำลังกายทุกวัน
เข้าสมาธิทุกวัน อย่างน้อยวันละ ๑ ชม. เพื่อเพิ่ม myelin และปรับการทำงานของสมอง

ความจริงรู้อยู่แล้ว บางอย่างก็ทำอยู่แล้ว แค่ประมวลไว้กันลืม

Wednesday, January 18, 2006

ต่างชาติยึดกิจการไทย คำทำนายเมื่อหลายสิบปีก่อน

จำได้ว่า เคยอ่านจากหนังสือ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เมื่อราวยี่สิบปีก่อนมาแล้วว่า ในหนังสือเขียนไว้ว่า หลวงพ่อ เคยกล่าวทำนายไว้ว่า ในอนาคต (จากที่ผมเคยคำนวณ กะๆเอาไว้ จากวันในหนังสือ) ประมาณ พ.ศ. 2551 ต่างชาติจะยึดเมืองไทย เราก็ค่อนข้างเชื่อว่าจะจริง เพราะตอนนั้นเทียบกับกรณีซุงที่นครศรีธรรมราชไหลมาทลายหมู่บ้านราบไปหมดหลังฝนตกใหญ่เมื่อสิบกว่าปีก่อนโดยที่ท่านทำนายไว้ก่อนหน้านั้นเป็นสิบปี
ผมดูๆตอนนี้ก็เข้าไกล้คำทำนายไปทุกที ในทางธุรกิจ บริษัทใหญ๋ๆและแบงก์ไทยก็โดนซื้อไปเกือบหมดแล้ว คงไม่นานต่างชาติก็จะมาถือหุ้นรัฐวิสาหกิจอีก ต่อไปถ้ายึดพวกบริษัทเอ็นพีแอล ก็ไปหมด ชาวไร่ชาวนาที่ทำกินหลุดไปเป็นของนายทุนก็แยะ ฝรั่งเข้ามาจับจองซื้อที่ิปลูกบ้านชายทะเลหรือบนเกาะก็มาก ต่อไปเมืองไทยก็จะมีพวก ลองสเตย์ อย่างคนแก่ญี่ปุ่นเข้ามาอีก เข้าข่ายคำทำนาย ถิ่นกาขาว อีกแหละ

วันนี้นึกได้ก็เลยจดไว้เป็นหลักฐาน อีกสองปีมาดูใหม่ว่าจริงไหม

Saturday, January 14, 2006

ระลึกกุศลทำไว้เมื่อปีที่แล้ว


ระลึกได้ว่า เมื่อปีที่แล้ว ตอนวันมาฆบูชา ผมอุตส่าห์มีศรัทธาขับรถไปทำบุญที่ วิทยาเขตใหม่ของ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วังน้อย ไปถวายเงินจำนวนหนึ่งบำรุงมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งนั้น และยังได้ไปกราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุองค์ใหม่ที่ได้ประทานมาจาก พระสังฆราชของศรีลังกา จำได้ว่าตอนมัสการนั้นในใจอธิษฐานขอให้ได้เรียนรู้ธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คงจะเป็นเหตุนี้กระมัง ก็ทำให้เรามาเริ่มเรียนธรรมะในตอนนี้
ความจริง เมื่อมาทบทวนดู ก็ดูเหมือนว่าการเรียนจะเป็นภาระหนักอยู่เหมือนกัน แต่ว่าเมื่อได้ทราบอานิสงฆ์การฟังธรรม ตามที่พระอาจารย์สอนมาวันนี้ก็ทำให้คิดได้ว่า ดีแล้ว ที่ตัดสินในปุบปับเรียนเสีย แล้วก็ปฏิบัติตามความตั้งใจของตนตั้งแต่แรก เพราะไม่รู้ว่าถ้าไม่เริ่มตอนนี้่ จะได้เรียนเมื่อไร ชาตินี้หรือชาติไหน จะได้เรียนอีก

หาทรัพย์มามากพอเลี้ยงตัวแล้ว ต่อไปตายก็เอาไปไม่ได้ ดังนั้น ต้องหาบุญและปัญญาบารมีติดตัวไปบ้าง

เรียน อภิธรรม วันแรก (My first day of Apidhamma study)



วันนี้ไปเรียนวันแรกที่ วัดสามพระยา เรียกว่า อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย เข้าใจว่าเหมือนที่สอนที่วัดมหาธาตุ ถือว่าอยู่ใน มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย แต่ที่นี่ไม่หนาแน่นเท่า ลานจอดรถก็ได้แยะพอควร ผมเพิ่งเรียนเป็นหลักสูครแรก เรียกว่า ชั้น จูฬอาภิธรรมิกะตรี ได้ซื้่อหนังสือไว้หลายเล่ม มาไว้อ่านประกอบ ราคาถูกมาก รวมแค่ ๑๕๐ บาท เท่านั้น หนังสือว่าด้วย ปรมัตถโชติกะ ปริจเฉท ๑ ๒ และ ๖ ว่าด้วยเรื่อง ปรมัตถธรรม ๔ ประการ ได้แก่ จิต เจตสิก รูป นิพพาน ฟังดูหัวเรื่องก็น่าสนุกแล้วแฮะ ในชั้นเรียนมีราว ๔๐ กว่าท่าน ที่แก่สุดเห็นเป็นแม่ชี ท่านน่าจะอายุสัก ๘๐ กว่าละมัง ที่หนุ่มสาวกว่าก็มี แต่ดูแล้วไม่มีรุ่นทีนเอจ เว้นมี เณร อยู่รูปหนึ่ง ท่านอาจารย์เป็นพระครู นักธรรมเอก ท่านสอนดี ไม่มีหลับ หัวเราะร่วนตลอด หลักสูตรนี่้เรียน ๖ เดือน เสาร์ อาทิตย์ ครึ่งวัน เรียนฟรี ตอนนี้เรียนไปก่อน ยังไม่รับลงชื่อแต่อย่างใด แต่วันนี้ผมก็ไม่อยากเป็นหนี้สงฆ์เลยหยอดตู้บริจาคช่วยค่าน้ำค่าไฟฟ้าไปแล้ว ตั้งใจว่าจะบริจาคช่วยทุกเดือน เห็นว่ารุ่นที่แล้วคนสอบผ่านหลักสูตรนี้่แค่ครึ่งเดียว แต่ความจริงเรียนไม่ยาก เพราะคนเฒ่าคนแก่กว่าผมหน่อยก็ยังมีเรียน แต่เพื่อนกระซิบว่า หลักสูตรนี้ท่องแหลก

แม่น้ำเจ้าพระยา Chao Phraya River, Bangkok 2006


ผมถ่ายรูปแม่น้ำเจ้าพระยาเอาไว้ เป็นวันสงบช่วงหยุดปีใหม่ ตอนข้่ามไปมาที่ท่าวัดระฆัง เลยโพสต์เอาไว้นี่สักรูป

พระนอนวัดโพธิ์


ไปวัดโพธิ์ ก็ต้องไปไหว้พระนอน รูปนี้ผมถ่ายไว้เอง แต่เป็นมุมกล้องที่โดนบังคับไว้ด้วยเสาสองต้น วิหารก็แคบมาก (อันที่จริง ควรบอกว่า พระนั้นองค์ใหญ่มาก คับวิหารจึงจะถูก) ก็เลยไปเหมือนๆกับที่เห็นคนอื่นๆุุถ่ายไว้ ผมตั้งใจโพสต์รูปไว้ เผื่อเด็กบางคนมาเจอรูปในอนาคต อาจจะได้ก๊อปเอาไปทำรายงานส่งคุณครูได้ไง (ผมหวังลึกๆเสมอว่า บล๊อกผมอาจจะเป็นประโยชน์กับเยาวชนบางคนในอนาคต ก็เป็นการช่วยเมืองไทยก้าวสู่ยุคความรู้อีกแรงหนึ่ง)

พระพุทธเทวปฏิมากร


เพิ่งอ่านเจอรูปท่านเมื่อไม่นานมานี้ อยากไปกราบ ก็ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาเลยแวะไปทำบุญที่วัดโพธิ์ หรือ วัดพระเชตุพนฯ เลยเข้าไปในพระอุโบสถ งามมาก แต่คนแน่นเอี้ยด ถามว่างามแค่ไหน ก็ขนาดว่า มีฝรั่งหญิงชายไปนั่งเงียบๆอยู่ด้วยมองอยู่เป็นนานหลายคน มีแหม่มคนนึง นั่งพนมมือแต้จ้องพระ ตาไม่กระพริบ สงสัยแกจะเปลี่ยนมาถือพุทธกระมัง (แต่ก็อย่างว่าแหละ แกนั่งไม่เรียบร้อย นั่งชันเข่ากางขา แต่เราดูแก เห็นแล้วก็ซาบซึ้งแล้ว) ผมเลยถ่ายรูปมาหลายรูป ก็ไม่ค่อยดี คงเป็นเพราะกล้องไม่ค่อยดี แต่เราก็ไม่ใช้มือกล้องด้วยแหละ รูปนี้เต็มขนาดมีละเอียดสวยดี ผมเลยเอามาเป็นแบ็คกราวด์บนเครื่องแม็คโน้ตบุ้คของผมแล้ว อ้อ ควรบันทึกไว้ตรงนี้ด้วยว่า ที่ใต้พระที่นั่งของพระพุทธรูป (ใต้พระ) บรรจุพระบรมอัฏฐิ ของ ร. ๑ เอาไว้

หอไตร วัดระฆัง เรือนไทยมีประวัติศาสตร์


รูปนี้ถ่ายไว้ตั้งแต่ช่วงวันปีใหม่ แวะไปทำบุญวัดระฆัง ไปกับครอบครัว ก็เลยไปเดินดูสถานที่สำคัญที่อยากไปดูมาตั้งหลายสิบปีแล้ว คือ หอไตร ที่เดิมเป็นบ้าน หรือ เรือน ของ พระราชวรินทร์ แต่ครั้งสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี ต่อมาพอท่านขึ้นปราบดาภิเษก เป็น รัชกาลที่ ๑ ก็พระราชทาน ถวายวัด เป็นหอไตร กลางน้ำ (เพื่อกันปลวกกินพระคัมภีร์) ต่อมาสมัย รัชกาลที่ ๙ นี้บุรณะใหม่ ย้ายที่ใหม่ อยู่เยื้องๆพระอุโบสถ ข้างในมีรู้ลายรดน้ำปิดทองสวยงาม

ซีดีเพลงไทย บรรเลงเปียโน การกุศล


ผมไปซื้อซีดีเพลงไทย บรรเลงเปียโน การกุศล เพื่อมอบให้ มูลนิธิอาสา เพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย ชื่อ Piano-Opus 1 มาจากเพื่อนผม ซึ่งเป็นทีมงานจัดทำ ผมซื้อฟังเองด้วย และไว้แจกคนอื่นสองสามคนช่วงปีใหม่ ฟังแล้วก็ใช้ได้ เป็นผลงานของกลุ่มคนรักเปียโน ราคาไม่แพง เห็นจะว่ามีวางจำหน่ายทั่วไปด้วย คงเร่ิมวางขายช่วงนี้แหละ ถ้าใครจะทำบุญก็ขอให้ไปอุดหนุนของแท้ อย่าไปซื้อซีดีผีของเพลงชุดนี้

การ์ตูน สำหรับ วันเด็ก Thai comics for the Children's Day


วันนี้เป็นวันเด็กในประเทศไทย เลยจะพูดถึงหนังสือการ์ตูนเล่มหนึ่ง ที่เพิ่งไปซื้อมาให้ลูกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คือ การ์ตูนเรื่อง อริยสงฆ์ จะได้สนใจพระ และ ธรรมะ มากขึ้น เขาก็กำลังอ่านดูอยู่ตอนนี้ สองวันก่อนผมหยิบมาแอบพลิกๆดูบ้างก็สนุกดี มีเกล็ดบางอย่างที่ไม่รู้มาก่อนเหมือนกัน หวังว่าเนื้อหาเขาคงไม่ผิดหรอกน่ะ

Friday, January 13, 2006

Westerners' meditation

I just revisited one of my old bookmarks and found this internal page. It shows that more and more westerners come to visit Thailand to learn its ultimate secret lesson of life, Vipassana meditation. Congratulations to them.

Keep notebook running with good efficiency

In the use of a Mac notebook computer, I just realized a number of things:-

Some widgets would wasted all the memory. I used to have one which occupied 2 GB of RAM in a G5 dual cpu machine. That one was thus long disabled. However, in the laptop, some widgets that you do not need should be disabled as well, since it would waste your cpu and RAM, and thus waste the battery.
Some widget also show abnormal high cpu load during off line: I just found that out when monitor cpu usage. When the laptop was just awaken from sleep at home, it would be off-lined unti I connect to the ADSL again, until then some widget might try its best to download some information (news) without any success, and it would keep cpu busy and your notebook would be getting hotter and wasting the battery.

I think having a software to monitor the cpu is good. And one must always watch out to monitor behaviors of one's own machine.

Wednesday, January 11, 2006

ต่อไปนี้ แล็ปท้อป หรือ โน้ตบุ้ค จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

ในรอบสองปีที่ผ่านมาต้องนับว่า โน้ตบุ้คคอมพิวเตอร์ที่วางขายในท้องตลาดโดยเฉพาะบ้านเราค่อนข้างดูน่าเบื่อ ไม่มีอะไรหวือหวาในเรื่องคุณสมบัติของเครื่อง มีแต่การเน้นการขายเครื่องสเป็คต่ำราคาไม่แพงเป็นหลัก ไม่ว่าจะไปดูที่ห้างใดๆ หรือตามแมกกาซีนก็ตาม สาเหตุหนึ่งคงเป็นที่ไมโครซอฟต์ออกโอเอสใหม่ล่าช้ากว่ากำหนดเดิมอย่างน้อยสองปี ทำให้ผู้บริโภคไม่มีเหตุจำเป็นต้องใช้เครื่องใหม่สมรรนะสูงมากนัก และอินเทลเองก็เพิ่งออกซีพียูใหม่ที่ใช้พลังงานต่ำสำหรับโน้ตบุ้คออกมาเร็วๆนี้เอง
จะมีก็แต่เพียง แอปเปิ้ล แม็คอินทอช ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ โอเอสเท็น รุ่น ๑๐.๔ ทีชื่อ ไทเกอร์ เท่านั้น ที่ทันสมัยลำ้หน้าเพียงพอที่จะต้องการซีพียูรุ่นใหม่ และเป็นโอเอสระบบ ๖๔ บิท ไม่ใช่ ๓๒ บิท ทำให้การประกาศในสุนทรพจน์เของ สตีฟ จ้อบส์ ซีอีโอของ แอปเปิ้ล ในงานแม็คเวอล เรื่องจะออกจำหน่ายโน้ตบุ้ครุ่นใหม่ในเดือนหน้า ในรุ่น แม็คบุ้ค โปร ที่ใช้ ดูอัลคอร์ ซีพียู กลายเป็นรุ่นชั้นนำไปในทันที ในราคาคงเดิม มิใยที่ เดล จะพยายามออกข่าวเครื่องรุ่นใหม่ของตนออกมาตัดหน้าพร้อมๆกันก็ตาม

เชื่อว่าปีหน้าผู้ผลิตโน้ตบุ้คบริษัทอื่นๆคงจะเปิดตัวดูอัลคอร์ออกมาอีกระนาว และราคาก็คงจะไม่เพิ่มไปกว่าเดิมเนื่องจากต้องทำราคาแข่งกับแม็คจากแอปเปิ้ล

คาดว่า กว่าเครื่องแม็คโน้ตบุ้ครุ่นใหม่จะมาถึงเมืิองไทย คงตกราวเดือนเมษายน ๒๕๔๙ ไปแล้ว ดังนั้นถ้าใครจะซื้อ ไฮเอ็นโน้ตบุ้ค รอซื้อแม็คตอนเมษายน น่าจะดีกว่า อย่างไรก็ตามมีคนให้ความเห็นว่า การซื้อเครื่องที่เปลี่ยนซีพียูใหม่ทันทีอาจจะเสี่ยงไปหน่อย น่าจะรอไปอย่างน้อยหนึ่งปี เพื่อให้ปัญหาต่างๆที่อาจจะมีได้นั่นโดนค้นพบและแก้ไขไปเสียก่อน และก็กว่าที่ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ๆจะออกมาก็คงปีหน้าไปแล้ว อย่างของอโดบีก็ช้ากว่ากำหนด

Back to school, er ... quite an unusual one

จากการพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานท่านหนึ่ง ผมเลยตัดสินใจทันทีว่าจะเข้าชั้นเรียนตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อนมาแล้ว รอแค่มหาวิทยาลัยเปิดเท่านั้น ซึ่งก็คือสัปดาห์นี้ แต่นี่เป็นไม่ใช่มหาวิทยาลัยธรรมดา ที่มีแต่วัยจ๊าบเรียน นี่เป็นมหาวิทยาลัยพุทธ คือ มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย คนเรียนมีทุกวัย และมีสมณเพศด้วย และการเรียนก็เป็นที่วัด และหลักสูตรก็ ๗ ปีครึ่ง แน่ะ หลักสูตรคือ พระอภิธรรม เรียนเฉพาะเสาร์และอาทิตย์ครึ่งวัน คอร์สแรกจะเปิดเสาร์นี่แล้ว จะเรียนไป ๖ เดือน ก่อนจะมีสอบ ผมรู้ว่าผมไม่มีเวลามากนัก และเสาร์อาทิคย์ปกติผมจะพักผ่อน หรือใช้เวลากับครอบครัว แต่ว่าคนเราอายุมากขี้นเรื่อยๆ เวลาเหลือน้อย จะทำอะไรก็ทำเสียนะ ผมว่าจะเรียนดูไปเรื่อยๆ

แล้วจะมาโพสต์ต่อ

My reaction to Jobs' speech at MacWorld

Gee. Awesome. Good news, new softwares, stuffs and services.

And the new Mac with Intel cpu ...
Argh...... , I just got my G4 PowerBook for only 2 months and they are releasing a dual core Intel cpu (4x faster) with a built in VDO camera at the same price next month.

My current G4 laptop (or notebook) is no match for my dual cpu G5 PowerMac tower and I think dual core in the new laptop will eliminate the minor observable stall in the laptop.

However, I think so far the screen resolution for the 15" G4 laptop is already great, 1440x960 pixels. Even currently-selling Vaio is no match. I can not see any notebook PC with better screen resolution than this PowerBook, and I don't expect one in the future since this tiny pixel size already strains my aging eye-sight. :-)

Looks like in 4 years time, I 'll buy a tetra-core Mac laptop then. No way to go back to Windows: although using Linux is O.K.

Monday, January 09, 2006

กูเกิ้ล เริ่มขาย วีดีโอ และ รายการทีวี ออนไลน์

ดูเหมือนยักษ์ใหญ่ Google จะเริ่มเปลี่ยน โมเดลธุรกิจ แล้ว จากเดิมที่ขายโฆษณาบนหน้าแสดงผลการค้นหาเป็นหลัก กับซอฟต์แวร์ที่ใช้ค้นหาบนระบบขององค์กร และบริษัทต่างๆ เร่ิมมาขายของเองแล้ว บน อินเทอร์เน็ต เป็นนโยบายเดียวกับ e-Bay คือเป็นนายหน้าคอยฟันค่าต๋ง โคยขายวีิิดิโอ แบบเดียวกับร้านที่ขายเพลงและวีดิโอให้ iPod เพราะว่า online transaction นั่นคือที่ที่เงินอยู่ นอกเหนือจากให้บริการ local listings & google earth

Friday, January 06, 2006

News: senate committee recommendations on amendments of the constitution

Agreeable.

Exhibition on work of Chamras Kiatkong at National Gallery

I noted down in my calendar that I really want to see the exhibition of a late Thai famous painter, Chamras Kiatkong, to be held at National Gallery from next week to next month.

จำนวนคนที่ใช้ Mac

ไปดูจากข่าวบนเน็ท ปรากฏว่าจำนวนคนใช้แม็คปีนี้่เพิ่มตลอด อย่างในเดือนธันวาคม 2548 มีคนใช้แม็คโอเอสอยู่ราว 4.35 % (เข้าใจว่าดูจากการใช้เว็บดังๆเป็นหลัก) เพิ่มจากเดิอน พฤศจิกายน 2548 ที่ 4.11% เห็นว่าเดือนเดียวเพิ่มอีก 0.24% ถ้่าให้ประมาณเอาเอง ผมว่าสิ้นปีหน้า กว่าวินโดวส์วิสตาร์จะออกมา จำนวนแม็คอาจจะเพิ่มอีกเป็นราว 6.5% ก็ได้ และตอนนั้นแอ้ปเปิ้ลก็จะออกโอเอสรุ่นใหม่ที่ดีกว่าไทเกอร์ออกมาชนด้วยอีก ที่เรียกว่า ลีโอพาร์ด หรือ OS-X 10.5 codename Leopard ตอนนั้น แม็คก็น่าจะยังมีคนใช้เพิ่มขึ้นอยู่ดี

ผมไปแวะร้านคอมพิวเตอร์ที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าวมาเร็วๆนี้เอง ผมดูๆเครื่องโน้ตบุ้คที่ราคาเท่าๆกับแม็ค แต่ใช้ระบบวินโดวส์​ เห็นแล้วก็ต้องปลง ลำพังสเป็คเครื่องอย่างเดียวก็สู้แม็คโน้ตบุ้คไม่ได้แล้ว อย่างของยี่ห้อดังระดับโลกรุ่นหนึ่งราคาเกือบเก้าหมื่นบาท ความละเอียดของจอ ยังสู้ของแม็ค PowerBook ราคาใกล้กันไม่ได้เลย ถ้ายิ่งไปดูโอเอสด้วยแล้ว ยิ่งน่าใช้แม็คใหญ่ น่าสงสารคนส่วนมากที่พอจ่ายได้แต่ไม่เคยรู้จักแม็คจริงๆ ตอนนี้ความเห็นผมเหมือนๆกับแฟนของแม็คบนเน็ทไปแล้ว

Thursday, January 05, 2006

BusinessWeek, Asian edition, no more issues

I got what looked like an impromptu letter from BusinessWeek indicating that they would discontinue the Asian edition and mailing back a refund to me. However, they also offered me to subscribe either their global edition or online edition instead. I think I will get the cash back: not having much time to read these days. One day, a ten years old habit (like browsing this magazine) has to stop for some reason. This is a norm, or a part of Dhamma: a thing could be initiated, run, and terminated (like a life could be born, live, and die), called Triluks or "the 3 characters". A thing occurs because of a cause: Itappajjayata.

Incidentally, I learned later when I receive the last issue that they also discontinued the European version.

My PowerBook hanged. What a surprise !

For the first time, my new PowerBook hanged unexpectedly after few weeks. It might have caused by memory leaks. I am not sure if my toting of the notebook back and forth between home and office networks without shutting down might have caused confusion to the machine and be part of the problem or not. Luckily I saved my files often and I did not lose anything. Had I left opened a terminal before it stopped responding, I could check to see if I could kill some troubling process and avoid hard shutdown. That is a Unix way.

Monday, January 02, 2006

Changes in Thailand's IT scenario expected in 2006

There are 2 major issues which are related to IT and both of them just came out in the news a couple weeks ago.

1) The National Communication Board (perhaps I did not use its official name, nevermind) would liberate the setting up of international Internet gateways and now any Thai company (>51% Thai share ownership) would be allowed to do so: just informing the board. Previously, CAT and TOT, both former state's agencies, locked up as duopoly on the international gateway set up. As a consequence, Internet access cost has been expensive, since no other companies could set up an international link. Now I can see that in 2006 onward, the Internet access cost should slightly come down. Personally, this might not affect me immediately since I have a 1 yr contract with my current broadband Internet service provider (True Corp.) but perhaps my rate might come down in January 2007. Anyway, I can see that bandwidth will likely improve, both for Thailand's international bandwidths as well as domestic (inter-ISP) bandwidths.

2) The purchase of 250,000 PC for Thai public schools. The price tag of 13 billion Baht looked like they would be buying laptops but I guess that the price tag include the peripherals as well. I do not have strong objection on this too much, except that if the purchase is from each school, we would eliminate much of the corruption associated with centralized procurement of MOE. Against the wish of the Thai public, I guess politicians will try to milk benefit from this nevertheless and the central procurement will go on as usual: I can bet on that.

My major concern, however, is on technicality. I hope they would use the free (and yet higher stability) Linux OS with them, instead of buying the 3 yr old (virus prone and less stable) WindowsXP. (I have a sense that this wish of mine would not be a reality.) That would save billions of Baht from the software purchase. It will also generate millions of Linux users in the future. New generation of Thai should learn to use free softwares, not illegal softwares.

Also I wish that a part of the big budget would go to the development of the contents for the school. I also suspect that this wish of mine would not become true as well.

Will see in a few months how things will turn out.

Interesting Mac resource

Found a link from Bangkok Post article.
It is called the X lab. Useful for me.

First post for 2006: resetting my biological clock, hopefully

Passing another year: this New Year thing is just a supposed time line. For many other people it might mean party time: for many in the lower income bracket it 's just hard work to earn meager meals as usual. For me, New Year is just a reminder of my time running past half-time for my lifespan and a reset of my mind for the next one more year, hopefully with new improvement in a number of ways.

I have set several goals to accomplish. They are in my private notes in the laptop: not on public blog like this. Anyway, whenever I come back to see this blog, it would remind me to go back to see my targets again.

One thing in general I think I want to do is to double the rate of my biological clock. No, I don't want to get old too early, but I mean I want to get any jobs done twice as fast, at least. I do not have much time left, I need all the time I can spare. Every second counts. I 'll give it a try if I can do it.