Thursday, December 13, 2012

ณ วันนี้ เราไปเว็บไหนแบบนิรนามแทบไม่ได้อีกแล้ว


เมื่อวานขณะใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คอยู่ที่บ้าน ผมเผอิญไปอ่านเจอบทความเกี่ยวกับ แอ็ปสำหรับใช้ อีเมลซอฟต์แวร์สำหรับมือถือ จากยาฮู ก็เลยตามไปอ่านที่หน้าเว็บ ปรากฎว่า บนหน้้าเว็บนั้้น ขึ้นข้อมูลหราเลย ความว่า ซอฟต์แวร์นี้ใช้กับมือถือรุ่นหมายเลข …. ที่คุณมีอยู่ได้ และชวนให้ดาวน์โหลด ผมรู้สึกประหลาดใจทีเดียว และออกจะตระหนกเล็กน้อยด้วยซ้ำ ในเรื่องความเป็นส่วนตัวที่หายไปจากการใช้เน็ต

สาเหตุก็เพราะว่าผมเพิ่งซื้อมือถือรุ่นนี้มาได้แค่ ๒ สัปดาห์ และมีคนแต่ ๓-๔ คนในโลกนี้เท่านั้นที่รู้เบอร์โทรศัพท์ใหม่ผม และผมไม่ค่อยได้ใช้เน็ตจากมือถือเลย เพราะใช้เป็นเครื่องสำรองตัวที่สอง และเมื่อใช้คอมพิวเตอร์ที่บ้าน ผมก็ไม่ได้ใช้ยาฮูเมล์มานานแล้ว เป็นไปได้อย่างไรว่าเว็บไซต์นี้รู้จักว่าคนดูเว็บคนนี้ใช้มือถือรุ่นไหน แสดงว่า เขาต้องรู้ได้จากไอพีบ้านผม ว่า ผู้ใช้คือนายคนนี้เป็นใครด้วยซ้ำ และเดาว่าคงจะได้ข้อมูลจากการจดทะเบียนลูกค้ามือถือที่เราต้องกรอกไปตอนซื้อในเมืองไทยนั่นเอง (น่าไปโวยกับบริษัทมือถือ ที่ปล่อยข้อมูลเราออกไป !) น่าทึ่ง ที่เขาเอาข้อมูลส่วนตัวเราตอนจดทะเบียนมือถือที่ซื้อที่ต่างจังหวัด ซึ่งตอนนั้นต้องระบุอีเมล์หนึ่งไปด้วย แต่ไม่ใช่ยาฮู ไปเชื่อมโยงกับไอพีที่บ้านผมที่กรุงเทพฯ ได้ นี่ขนาดว่าผมไม่ได้เล่นเฟซบุ้ค การทำเหมืองข้อมูลตัวผมจากเครือข่ายสังคมนั้น มีข้อมูลไม่มาก ก็ยังมีข้อมูลของผมได้ขนาดนี้

วันนี้ก็มีข่าวต่างประเทศมาตอกย้ำความเชื่อของผม ว่าตอนนี้ บริษัทต่างประเทศ สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ของผู้ใช้เน็ตแต่ละคนได้ จากการซื้อขายข้อมูลลูกค้าที่บริษัทต่างๆ ปะติดปะต่อได้ ก็สามารถรู้จักตัวตนลูกค้าได้สบายๆ

มีอีกเรื่อง ประเด็นน่าจะเชื่อมโยงกัน ผมเคยไปเดินบางห้างต่างจังหวัด ได้เห็นบนจอมอร์นิเตอร์วงจรปิดว่ามีการใช้ซอฟต์แวร์ติดตามตัวลูกค้าแต่ละคนจากจอทีวีวงจรปิดอยู่ เหมือนกับที่สนามบินต่างประเทศมีใช้ ดูจากกรอบสี่เหลี่ยมสีแดงที่เคลื่อนที่ตามการเดินไปมาของลูกค้าได้ ไม่ทราบว่าห้างติดตั้งเอาไว้คอยจับขโมยที่รู้จักหน้าไว้ก่อนแล้ว หรือว่าจะพยายามระบุตัวตนของลูกค้าที่เดินไปเดินมากันแน่ ในอนาคตคงจะเริ่มเป็นอย่างหลังมากขึ้น

ผมเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมฝรั่งถึงโวยวายกันนักเรื่องความเป็นส่วนตัว ซึ่งตอนนี้เราแทบไม่เหลืออะไรแล้ว

No comments: