สองสามวันมานี้ ผมรู้สึกระวังระไวกับความเป็นไปในบ้านเมืองมากขึ้น (แต่พยายามปล่อยวาง ไม่ได้กังวลมากนัก) คนกรุงและคนในเมืองต่างจังหวัดส่วนมากก็คงเป็นเหมือนกัน ผมก็ได้แต่หวังว่า เหตุการณ์คงจะค่อยๆคลี่คลายไปด้วยดี ตามหลักอนิจจัง ที่ว่าทุกอย่างเกิดมาแล้วก็ต้องดับไปเป็นธรรมดา แม้ตอนนี้ดูยังมืดมนต์ว่ามันจะดับเมื่อไร และเลวร้ายไปกว่าเดิมอย่างไร เหตุการณ์อื่นๆในประเทศก็มี อาทิตย์ที่แล้วโรงงานใหญ่ก็เริ่มปลดคนงานเป็นพันๆคนกันแล้ว เป็นที่น่าสงสาร ในยามนี้ คนที่เป็นลูกจ้างของรัฐ ดูจะได้ประโยชน์แม้เงินเดือนจะน้อย อย่างน้อยก็คงอยู่ไปได้ไม่โดนให้ออก
หันไปดูเหตุการณ์ในต่างประเทศบ้าง ในสหรัฐอเมริกา ทีมงานถ่ายโอนอำนาจให้กับประธานาธิบดีคนใหม่เริ่มทำงานอย่างหนักมาได้สองสัปดาห์ ก็มีการทะยอยเปิดตัวบุคคลหลักๆที่จะไปรับตำแหน่งต่างๆ รวมทั้งที่ปรึกษา และมีการทำแผนงานอย่างเร่งรีบ โดยเฉพาะเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อว่าพอถึงเดือนมกราคม ประธานาธิบดีคนใหม่ของเขา จะได้เริ่มลุยงานได้ทันที เราดูแล้วก็นึกอิจฉาประเทศเขา เพราะหันมาดูบ้านเรา เหมือนกับประเทศไทยตอนนี้ไม่มีหัวมาบริหาร แม้จะมีรัฐบาลก็เหมือนไม่มี มีนายกก็เหมือนไม่มี รู้สึกสลดใจ เพราะสังคมของปัญญาชนและคนระดับกลางนั้นไม่ได้ยอมรับรัฐบาลนี้
No comments:
Post a Comment