ข่าวที่ลงใน น.ส.พ. หลายวันนี้ ที่ผมรู้สึกอยากจะคอมเม็นต์เป็นพิเศษ ก็เรื่อง ภาพยนต์พุทธประวัติ งบ 1200 ล้าน ของกระทรวงวัฒนธรรม
ว่าที่จริงโดยเริ่มแรก ความคิดเรื่องนี้ ก็เป็นเจตนาที่ดี และเป็นแนวคิดที่ดี
แต่ดูไปๆ การ implement เจตนาที่ดีนั้นมีปัญหา ก่อให้เกิดเรื่องโต้แย้งสูง และคนเริ่มไม่เห็นด้วยเป็นส่วนมาก
เรื่องที่สังคมไม่เห็นด้วยโดยหลักๆก็คือ การจะหาตัวแสดงที่เหมาะสมมาสวมบทเป็นพระพุทธองค์นั้นทำได้ยากมาก จะทำอย่างไรกับเรื่องนี้
ผมว่า ว่าที่ผู้กำกับเรื่องนี้ อาจจะไม่มีความลึกซื้งมากพอในเรื่องคัดตัวแสดงนี้ ก็เลยดูเป็นการสุกเอาเผากิน ไปๆมาๆ นักแสดงที่เลือกไว้แล้ว โดยเอาหน้าตาคมเข้มเข้าว่า ก็มีปัญหา เพราะมีคนกล่าวและแสดงหลักฐานว่า มีปัญหาเรื่องพฤติกรรม และคุณธรรม
ความเห็นของผมนั้น คิดว่าเรื่องนี้ ต้องดูไม่เพียงหน้าตาหล่อเหลา น่าจะดูผู้แสดงที่หน้าตาดูแล้วเห็นว่า สดใส สว่าง เปี่ยมไปด้วยเมตตามากกว่า และควรเคยปฏิบัติธรรมมาด้วย ก็จะดีที่สุด (แต่คงหาไม่ง่าย) เพราะผู้แสดงนำจิตใจดีสูงส่ง มันจะสะท้อนออกมาที่สีหน้า แต่ถ้าเอาหน้าตาหล่ออย่างเดียว สีหน้าไม่ให้ มันก็จะทำให้คนสมัยใหม่ไม่เข้าใจ หรือไม่เก๊ตเรื่องอารมณ์นั้นเอง แต่ถ้าจะไม่ให้มีปัญหาก็ใช้ 3D animation ไปเลยจะดีที่สุด
เรื่องที่ตามมาก็คือ แล้วมีการเลือกผู้กำกับอย่างไร ดีพอแล้วหรือยัง ท่านเคยไปปฏิบัติธรรมบ้างหรือไม่ ผมคิดว่า ถ้าจะสร้างหนังธรรมะ แล้วคนกำกับเองไม่ทราบว่าเคยไปเข้ากัมมัฏฐานที่วัดป่ามาหรือไม่ เขาก็ไม่มีทาง"เก๊ต"หรอก แล้วจะถ่ายทอดออกมาให้คนดูได้อย่างไร
เชืื่อว่า เมื่อสังคมไม่เห็นด้วยเช่นนี้ หนังเรื่องนี้ก็คงไม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากสังคม (แหม รู้สึกสำนวน "ไม่ได้รับการตอบรับ" ที่ผมก๊อบมาจากวงการโชว์บิซ ในทีวีเรานี่ มันมีกลิ่นนมเนยชอบกล)
No comments:
Post a Comment