Wednesday, October 29, 2008

พื้นที่ที่ต้องใช้สำหรับประชากร

ไปอ่านเจอข่าว ที่ว่าตอนนี้โลกไม่มีพื่นที่เพียงพอเลี้ยงคนอีกแล้ว เลยตามไปที่เว็บ Global Footprint Network
เขามีให้คลิ๊กดูว่าสถานการณ์ในประเทศไหนเป็นอย่างไรด้วย ถ้าคลิ๊กลิงก็ข้างบนก็จะแสดงสถารการณ์ของไทย

ในเรื่องนี้ คิดเล่นๆเอาเองว่า ถ้ามีการออกรณรงค์ให้ทุกครอบครัวเกษตรกรมีการทำไร่น่าสวนผสม โดยเฉพาะในภาคอีสาณ สภาพแวดล้อมในไทยมันน่าจะดีกว่านี้

อีกอย่างหนึ่ง คนเราก็คล้ายกับปลวก ที่ทำรังเพื่ออยู่อาศัยพร้อมไปกับทำลายต้นไม้แถวๆที่มันใช้ทำจอมปลวกไปด้วย โลกของคนก็กำลังถูกคนทำลายเหมือนกัน
สังเกตว่าไม่ได้ใช้คำว่ามนุษย์ เพราะคำว่ามนุษย์ มาจากภาษาบาลีว่า มนุสฺโส แปลว่าผู้มีจิตใจสูง

Tuesday, October 28, 2008

Mottos for today

After I got up early to jog at 5 a.m. today, my head spilled something up. Here are some mottos I put them up here to remind myself:-
- Exercising is good. Not only it gives physical fitness to my body, it also gives me flowing ideas. (an observation)
- Meditation can also be in the form of jogging.
- Opportunities occurred to me quite frequently, it 's the matter of not absentminded in order to see them, consider them and expand them to my advantages. (But without being greedy.)
- A good man try to improve himself, a despicable goof try to excuse himself. (a Thai adage) Oh, I am thinking of someone while writing this sentence too.

Sunday, October 26, 2008

Luncheon of K-State alumni in Bangkok

Today, a small group of KSU alumni in Bangkok had a luncheon together, at 222 Hotel, Silom Road. Most of us graduated around 20-30 years ago. I was the "youngest" of them who graduated (with a Ph.D.) 20 years ago. I did not know some of them. Some of them are already retired Professor or senior government officials. It 's nice to see some of them again today after the last time I joined them over a decade ago.

อยากมีอายุยืนยาวต้่องทำอย่างไร

ช่วงวันสองวันนี้ผมอ่านเปเปอร์จำนวนมากทาง biochem เกี่ยวกับ กระบวนการแก่ (aging) การมีอายุยืน (longevity or longer lifespan) และความเครียดระดับเซลล์ในเชิงการโดนออกซิไดซ์ (oxidative stress) ได้ข้อสรุปสำหรับตัวเองไว้บางประการ ก็เลยจะใส่ไว้ในบล๊อกนี้ เพื่อเตือนตัวเอง และเผื่อเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นด้วย

เมตะบอลิสซึมของคาร์โบโฮเดรด โดยเฉพาะวิถีที่ตอบสนองต่อการส่งสัญญาณของอินสุลิน จะทำให้เซลล์เกิดออกซิเดทีฟสเตรสต่อเซลล์ แปลเป็นภาษาชาวบ้านก็คือ ถ้ากินข้าว หรือแป้ง รวมทั้งขนมหวานเข้าไป เซลล์ในร่างกายก็จะเกิดความเครียด ผลที่เกิดขึ้นคือ โมเลกุลต่างๆ โปรตีนต่างๆจะโดนออกซิไดส์ไปบางส่วน (โดยเฉพาะที่ตำแหน่งที่มีกรดอมิโน methionine) ถ้าเซลล์ไม่สามารถซ่อมได้ทันก็จะเกิดความเสียหาย และความเสียหายสะสมก็คือกระบวนการแก่ตัวของเซลล์และอวัยวะต่างๆ และผลก็คือการมีอายุสั้นลงของทั้งตัว (เคยเห็นคนแก่อายุยืนๆเป็นร้อยปีไหม มีแต่คนผอมเป็นส่วนมาก การศีกษาในสัตว์ทดลองและแมลงหวี่ก็ให้ผลเช่นเดียวกันกับในคน สรุปว่าจริง) ดังนั้นควรกินแป้งและน้ำตาลน้อยๆ
การช่วยเซลล์ซ่อมก็คือต้องกินพวกสารต่อต้านการออกซิไดส์ (antioxidants) หรือต้านอนุมูลอิสระ อย่างเช่น ไวตามินซี ไวตามินอี เป็นต้น การทำการทดลองพบว่าช่วยยืดอายุสัตว์ทดลองได้ (ผมเลยกินทั้งสองอย่าง ทุกๆวัน นานมาเป็นปีแล้ว) แต่ที่จะต้องทำต่อไปหลังเจอหลักฐานโต้งๆจากเปเปอร์ทางชีวเคมีนั้นก็คือการลดการบริโภคข้าวและขนมลงไป ซึ่งคงจะเริ่มทำตั้งแต่บัดนี้

มีความเชื่อมโยงกันระหว่างเมตะบอลิสซีมของไขมัน โดยเฉพาะ sphingolipids (จะไม่ลงลีกในรายละเอียด) ทำให้ผนังเซลล์มีความยืดหยุ่นน้อยลง ช่วยป้องกันออกซิเดทีฟสเตรสได้ดีขึ้น ผมตีความออกมาในทางปฏิบัติว่า ควรกินไข่แดงเป็นระยะๆ อย่าไปเว้นเพราะกลัวอ้วน เพราะไข่มีพวกสฟิงโกลิปิดส์นี้แยะ แต่อย่าไปกินมากไปเดี๋ยวโคเลสโตรอลกลับไปสูง

มีความเชื่อมโยงกันในวิถีการส่งสัญญาณในเซลล์ระหว่าง circadian rhythm หรือนาฬิกาชีวิตของเซลล์ (ที่ per ยีน) กับ oxidative stress response และ aging นอกจากนี้ก็มีเปเปอร์บอกว่า การที่คนนอนไม่หลับ หลับๆตื่นๆนั้น เป็นอาการแสดงออกของความแก่ ทำเลียนแบบได้ในสัตว์ทดลองเช่นแมลงหวี่ อนุมานได้ว่า อย่ากินข้าวเย็นแยะ หรืออดไปได้ก็ยิ่งดี จะช่วยได้ (อันนี้ก็ได้กะตัว ช่วงไปเข้ากัมมัฏฐานถือศีลแปด อดข้าวเย็น หลับง่ายดี เร็วด้วย ส่วนหนึ่งคงจะหิวโหย แต่ตื่นเช้าๆตีสี่ก็ยังได้)

ที่ยังไม่เจอเปเปอร์ตรงๆก็เรื่องผลของการออกกำลังกาย แต่นั่นอาจจะเป็นในระดับสรีรวิทยาของทั้งร่างกายมากกว่าในระดับชีวเคมีภายในเซลล์แต่ละเซลล์ ตอนนี้หน้าหนาวเริ่มเข้ามา ฝนก็น้อยลง ก็เริ่มออกกำลังกายได้อีก

Friday, October 24, 2008

ข่าวเลือกตั้งในอเมริกา

หลายวันมานี้ผมเสียเวลาแต่ละวันไปกับการติดตามข่าวเลือกตั้งในอเมริกาโดยไม่รู้ตัว ภาษาพระเขาเรียกว่าขาดสติ ต่อไปตั้งใจว่าจะไม่ขาดสติอีกกับเรื่องนั้น แต่ก่อนอื่นก็มาโพสต์เสียหน่อย

ก่อนจะเข้าเรื่องก็สรุปก่อนเลยว่า ตอนนี้ผมค่อนข้างจะฟันธงว่าโอบาม่าน่าจะชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป แล้วในใจผมตอนนี้ก็ค่อนข้างจะเชียร์เขาพอสมควร (เอาใจช่วยคนอเมริกันว่า สมควรจะได้ประธานาธิบดีที่มีวิสัยทัศน์ดีๆอีกสักครั้งหนึ่ง) ก่อนจะวกกลับมานึกถึงเมืองไทยว่า ทำไมการเมืองเมืองไทยถึงแย่อย่างนี้ ไม่มีคนมีสติปัญญา วิสัยทัศน์ และมีคุณธรรมสูงเข้ามาเป็นผู้บริหารประเทศชาติเสียเลย และคนในประเทศตอนนี้ก็มีกลุ่มที่จ้องจะทำร้ายกัน จนต่างชาติได้ใจ คิดแล้วก็ต้องปลงอุเบกขา หาไม่แลัวโทสมูลจิตจะพาตกต่ำเสียเปล่า
ข่าวการเลือกตั้งอเมริกาทำให้เห็นว่านักข่าวเขาเสาะแสวงหาข่าวมาป้อนสังคมเป็นอย่างมาก และกฎหมายเขาก็บังคับให้เปิดเผยมากทีเดียว เรื่องต่างๆที่ออกมาเป็ข่าว ทำให้เรื่องฉาวโฉ่ต่างๆปรากฎไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องล่าสุดอย่างค่าเครื่องแต่งตัวราคากว่่าแสนห้าหมื่นเหรียญ คิดเป็นเงินไทยเกิน ๕ ล้านบาท ของสตรีผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นรองประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกัน หรือ ความไร้วิสัยทัศน์ของหล่อน กลายเป็นเรื่องโจ๊กบนอินเตอร์เน็ต และคนอเมริกันก็ได้รับรู้ข่าวสารเป็นอย่างมาก ส่วนการเลือกตั้งของไทยน่ะหรือ ไม่มีเรื่องแบบนี้ออกมามากนัก สังคมไทยไม่เคยรับรู้เรื่องภายในของแต่ละพรรคการเมืองของไทย หรือไม่เคยรู้ว่า ผู้สมัครส.ส.แต่ละคนในแต่ละเขตมีอะไรซุกซ่อนอยู่บ้าง ดีหรือเลวอย่างไร ภายใต้ภาพถ่ายชุดเต็มยศประดับเหรียญตรานั้น แถมบางคนก็ยังสวมครุยทับไปอีกเหมือนเสนาบดีในยุคโบราณ แสดงให้เห็นถึงความคิดค่านิยมล้าสมัยของคนบางคน และตีนไม่ติดดินเลย

ไม่รู้ว่าเมื่อไรการเมืองไทยจะเข้าสู่ยุคข้อมูลข่าวสารเสียทีนะ

Thursday, October 23, 2008

ได้พักหนี่งวัน เลยฟังเทปธรรมะ

วันนี้ได้พักหยุดงานหนี่งวัน เนื่องจากเป็นวันปิยมหาราช จำได้ว่าสมัยอยู่เมืองนอกก็มักจำวันหยุดสำคัญในเมืองไทยไม่ได้ แต่ถ้าอยู่เมืองไทยก็จะไม่ลืมเพราะว่ามีวันหยุดราชการ วันหยุดทำให้นอกจากได้พักกายแล้วยังได้พักจิตด้วย ก็เลยไปงัดเอาเทปคาสเซ็ตเพลงเก่าๆมาฟังสองสามม้วน หลังจากห่างเหินมานาน เพราะมัวแต่ไปฟังธรรมะผ่านไอพ็อดหรือซีดี หรือฟังจากคอมพิวเตอร์แทนเสียเป็นปีละมัง และวันนี้ก็ทำกัมมัฏฐานเล็กน้อย
และด้วยเหตุที่ไปค้นเทปในตู้เทปมาฟังเพลงในตอนแรก เลยไปเจอเทปของดี ที่ซื้อมาจาก วัดผาณิตาราม ที่แปดริ้ว คือ เทปธรรมบรรยาย โดย พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิ) เรื่อง เทศน์ลำดับญาณ มีอยู่สองม้วน ฟังจนจบก็ ๒ ช.ม. ดีมาก (เคยฟังมานานแล้ว รอบแรกหลายเดือนก่อน ยังไม่ค่อยเก็ตเท่าไร รอบนี้เป็นครั้งที่สอง รู้สีกเก็ตมากขึ้น คาดว่าคงจะมีรอบสามในอนาคตอันใกล้) ใครอ่านเจอแล้วนึกอยากได้เทปชุดนี้ก็คงต้องไปซื้อจากที่ ศาลาพัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ วัดผาณิตาราม จังหวัดฉะเชิงเทรา เพราะเป็นผู้ผลิตเทปชุดนี้ ราคาดูเหมือนจะตามกำลังศรัทธา ได้ใส่เว็บลิงก์ของวัดไว้ข้างบนแล้ว

ขอหมายเหตุไว้ด้วยว่า ท่านเจ้าคุณโชดกท่านมรณภาพไปนานแล้ว ท่านเคยอยู่ที่ คณะ ๕ วัดมหาธาตุ เป็นวิปัสสนาจารย์ที่เก่งมากและมีศิษย์จำนวนมากอยู่ทั่วประเทศ (ไม่บังอาจเอ่ยชื่อหลายๆท่าน) วันนี้ผมได้ฟังเทปของท่านด้วยความซาบซื้งก็ ในการฟังเทปเสียงท่านนี้ ก็เกิดมโนภาพท่านนั่งเทศน์ให้เราเห็นในใจไปด้วย ก็เลยนึกทึกทักเอาเองว่า เราก็น่าจะถือว่าเป็นศิษย์ท่านด้วยเหมือนกันนะ หลังจากก่อนหน้านี้เคยเป็นแค่ศิษย์ของศิษย์ท่านมาก่อน
แปะรูปวัดผาณิตารามเอาไว้ดูข้างล่าง


Tuesday, October 21, 2008

โรงงานในจีนเริ่มทะยอยปิดแล้ว

ข่าวจากซีเอ็นเอ็นในลิงก์ข้างบนบอกว่าโรงงานในจีนเช่นโรงงานของเล่นเริ่มทะยอยปิดแล้ว คนงานตกงานระนาว เป็นผลมาจากวิกฤตการณ์การเงินในสหรัฐอเมริกา
น่าสงสารคนงานเขาเนาะ
ก็คาดการณ์ได้ว่า เมืองไทยก็กำลังจะโดนเหตุการนี้เล่นเช่นกัน แบบนี้จะคล้ายๆวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้งรอบสอง ที่โรงงานปิดแยะมาก คนงานต้องกลับบ้านไปอยู่ชนบท (แล้วคนงานชาวพม่า กะเหร่ียงจะไปอยู่ไหนกันนะ ? ) พวกนักธุรกิจไทยเขารู้ตัวกันมาเป็นเดือนๆแล้วแหละ แต่พวกมนุษย์เงินเดือนส่วนมากยังไม่รู้ตัวกัน
ปีแรกนี้ หลังจากโรงงานต้องปิดตัวลง ผู้บริโภคก็อาจจะได้ซื้อสินค้าเลหลังราคาถูกอยู่พักหนี่ง จากนั้นของก็จะแพงขึ้นในปีต่อไป

คำแนะนำการใช้จีเมล์

ดูบทความได้จากลิงก์ข้างบน ผมอ่านดูแล้วดีมาก แต่ผมตอนนี้ยังอ่านไม่จบเลย มีตั้ง ๔๐ ข้อ

Sunday, October 19, 2008

ศิษย์เก่าสวนกุหลาบรุ่น ๙๐ จัดงานมุทิตาจิตให้อาจารย์ผกาวดี

เพิ่งกลับจากไปร่วมงานแสดงมุทิตาจิต ของรุ่นผม คือ สวนกุหลาบรุ่น ๙๐ (Suan 90, SK90) ที่จัดให้อาจารย์ผกาวดี ทิพย์พยอม ที่ท่านสอนพวกเรามา ตั้งแต่ ๓๘ ปีก่อน ท่านเข้ามาสอนที่สวนกุหลาบพร้อมพวกเราเข้าไปเรียน ม.ศ. ๑ ปี ๒๕๑๔ แต่อยู่ต่อมาเพิ่งจะเกษียณไปเมื่อปลายเดือนกันยายน ๒๕๕๑ นี้เอง นอกจากรุ่นผมจะร่วมไปจัดงานให้ท่านที่โรงเรียนเมื่อเดือนที่แล้วแล้ว ก็ได้จัดงานแยกมาให้ท่านคราวนี้เฉพาะรุ่นผมด้วย ที่โรงแรมที่ สวนสามพราน มีเพื่อนๆผมไปแยะปานกลาง ไปได้หนังสือมาหนึ่งเล่ม ที่มีบทความที่ผมเขียนอยู่ด้วยหนี่งเรื่อง ถือโอกาสเปิดตัวว่าเขียนบล๊อกนี้เป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้ ส่วนมากคนอ่านจะเป็นพรรคพวกไม่กี่คนที่รู้จัก

ก็ลงรูปตัวเองในกลุ่มไว้ด้วย ทายเอาเองว่าคนไหน

ไปพลิกอ่านดูบทความในหนังสือด้วยความพูมใจ แต่ก็พบว่ามีพิมพ์ผิดบ้างเล็กน้อย ที่ไม่น่าผิดก็คือเลขประจำตัวนักเรียนของผม ทำไมคอมพิวเตอร์มันผิดได้ ตอนพิมพ์ไปก็ไม่ผิดเสียหน่อย ต้องโทษโปรแกรมที่บรรณาธิการไปใช้แก้ว่าไม่ดี หรือว่าบรรณาธิการเผลอไปแก้ ผมเองก็ไม่มีเวลาปรู้ฟ นี่แหละหนอ ทุกอย่างเป็นอนิจจัง ของที่ว่าแน่ๆ ไม่น่าผิดก็ยังผิด

ดูจากรูปทั้งสอง เห็นมีดวงกลมๆขาวๆอยู่ด้วนทางด้านซ้ายของเวที เป็นครั้งแรกที่ผมถ่ายติดแบบนี้ ผมถ่ายกล้องดิจิตอลมาก็หลายปีแล้ว ถ่ายมาราวๆหกพันรูป ก่อนหน้านี้ไม่เคยมี ไม่รู้ว่าดวงอะไรแน่ บางคนบอกว่าเป็นฝุ่น บางคนก็เชื่อว่าเป็นอย่างอื่น ก็เลยเขียนบอกไว้ให้คนอ่านสังเกต


ไปปฏิบัติิวิปัสสนา ณ โพธิปักขิยธรรมสถาน

เพิ่งกลับจากพาครอบครัวไปปฏิบัติิวิปัสสนา ณ โพธิปักขิยธรรมสถาน ทับกวาง มวกเหล็ก สระบุรี จำนวน ๒ คืน
จุดประสงค์หลักคือต้องการจะพาลูกไปหัดวิปัสสนาเอาไว้ (ใส่ลิงก์ไว้ข้างบน)
สำนักนี้ พระวิปัสสนาจารย์คือพระอาจารย์มหาเหล็ก จนฺทสีโล ท่านเป็นศิษย์ของพระอาจารย์ภัททันตะ พระอาจารย์ชาวพม่าที่เป็นพระอาจารย์ของ ท่านเจ้าคุณธรรมธีรราชมุณี (เจ้าคุณโชดก ญาณสิทธิ มรณะภาพไปนานแล้ว) แห่งวัดมหาธาตุคณะ ๕ นั่นเอง สายนี้สอน สติปัฎฐาน ๔
ผมไปฝึกแล้ว ทำเอาได้สติกลับมาเยอะกว่าเดิมมาก นับว่าคุ้มสำหรับทุกคนในครอบครัว ต้องขอบคุณเพื่อนของคนใกล้ตัวที่เป็นคนชักชวนไปและเป็นวิทยากรท่านหนี่งด้วย ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคณะศิษย์ท่านอาจารย์มหาเหล็กที่ได้จัดสร้างสถานแห่งนี้ขึ้น ผมคิดว่าคงทำบุญกันไปรวมเป็นสิบๆล้าน เกือบจะเป็นรีสอร์ทอยู่แล้ว และก็ท่านที่มาเป็นวิทยากรก็ตั้งใจกันมาก ผมว่าท่านจัดคอร์สได้ดีมากทีเดียว นั่งกัมมัฏฐานคืนเดียว ตอนเช้าก็ได้ส่งอารมณ์กับท่านอาจารย์เองเลย นับว่าโชคดีมาก
วันอาทิตย์ก่อนกลับได้ร่วมทำบุญทอดกฐินด้วย ร่วมกับมูลนิธิวิปัสสนามิตรภาพ เมื่อทบทวนดูแล้วก็เป็นโอกาสดีมาก เพราะปกติผมไม่เคยไปร่วมทอดฯด้วยตัวเองเลย เคยแต่ใส่ซอง คราวนี้เป็นโอกาสดีมาก ได้ทำปฏิบัติ และได้ทำบุญบริจาคเงิน กลับมาด้วยความสุข

ถ่ายรูปไว้แค่นี้เพราะแบตเตอรี่หมด บรรยากาศร่มรื่น อากาศโอเค ดีกว่ากรุงเทพฯ


Wednesday, October 15, 2008

ปัญหาชายแดนไทยกับเขมร

เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่มาหลายเดือน ผมก็พยายามไม่เขียนถึง เพราะมันมีผลกระทบต่อกระแสจิตของผู้เขียนให้กระวนกระวายไร้สมาธิถ้าไปตอกย้ำ (หรือต่อผู้มาอ่านบล๊อกก็เถอะ) แต่วันนี้มีการปะทะกันแถวเขาพระวิหาร ทหารไทยบาดเจ็บไปหลายคน ผมเองในฐานะคนในครอบครัวทหารเก่า ก็รู้สึกว่าต้องออกมาแสดงความสนับสนุนทหารไทยในบล๊อกของผมไว้เป็นหลักฐานบ้าง เพราะได้เห็นมาว่าสังคมไทยในยุคนี้ดูจะมีคนหนุ่มสาวบางส่วนที่มีอคติต่อทหารและให้ความเห็นอะไรที่ไม่เข้าท่าอยู่ตามฟอรัมต่างๆ (แม้ว่า ความรู้สึกในทางธรรมจะบอกตัวเองว่า ในฐานะประชาชนตัวเล็กๆ ไม่มีหน้าที่อะไรที่ต้องไปสู้รบ ต้องวางอุเบกขา คืออย่าให้มีความรู้สีกชอบไม่ชอบปรุงแต่งอยู่ก็ตาม)

เคยอ่านเจอ ก็มีบางคนเชื่อว่ามีประเทศใหญ่บางประเทศขายอาวุธให้และหนุนประเทศเพื่อนบ้านให้ทำอย่างนั้น แต่ผมไม่อยากคิดไปไกล แค่คิดว่า ประเทศเพื่อนบ้านมีผู้นำที่ความคิดยังไม่มีวิสัยทัศน์ที่ดีพอ และขาดคุณธรรม ก็หาทางสร้างสถานการณ์เพื่อให้เอื้อประโยชน์ต่อตัวเอง โดยไม่คิดเอาว่า เพื่อนร่วมชาติหรือประชาชนของตัวจะต้องเอาชีวิตไปสังเวยเท่าไร หากว่าความขัดแย้งชายแดนบานปลาย เพราะอย่างไรเสียประเทศใหญ่กว่าอย่างไทยก็คงยอมไม่ได้

อาทิตย์หน้าอาจารย์ผมท่านหนี่งและคณะนักศีกษาอภิธรรมจำนวนหนี่ง มีกำหนดจะไปทอดกฐินที่วัดในเขมร และไปเที่ยวนครวัด แต่ผมน่ะเบี้ยว ไม่ไปด้วยเพราะรู้สีกสังหรณ์ใจมาสามเดือนแล้วว่าไม่ควรไป และทำใจเอาว่า อย่าไปตามใจกิเลส ไม่ต้องไปอยากไปอังกอร์วัตหรอก เพราะแกยังไม่ตายง่ายๆตอนนี้ (มีคำกล่าวเป็นสำนวนภาษาอังกฤษไว้ว่า See Angor and Die ) แต่ผมเดาว่า อาทิตย์หน้าท่านอาจจะยกเลิกแผนก็ได้ แต่ไม่งั้นก็ภาวนาขอให้ทุกท่านไปและกลับมาโดยสวัสดิภาพ

นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลหนุนโอบามา

อ่านดูตามลิงก์แล้วรู้สีกว่า ว้าว และก็ไม่ใช่แค่คนสองคนนะ แต่มีชื่อถึง 65 คน พวกเขาเรียกร้องให้ประชาชนอเมริกันเลือกโอบามา เพราะมีวิสัยทัศน์มากกว่า

ผมเคยดูและฟังเขาพูดทางยูทิวบ์ ก็รู้สึกว่าเขาดีจริง

โพลตอนนี้ โอบามากำลังนำ อีกแค่สามอาทิตย์เองก็รู้ผลแล้ว

คิดดูเมืองไทยบ้าง ผมว่าไม่มีนักวิทย์หรือนักวิชาการสาขาอะไรก็ตามจำนวนมากนักที่จะออกมาเรียกร้องอะไรต่อประชาชน ให้ทำอะไรหรือให้มีความเห็นที่ถูกต้อง ตามที่มันควรจะเป็น (ส่วนมากก็ระวังตำแหน่งราชการของตัวกันอยู่)

แอปเปิ้ล แม็คบุ๊ค ออกมาใหม่

วันนี้แอปเปิ้ลออกแม็คบุ๊คและแม็คบุ๊คโปรรุ่นใหม่ออกมา ดูแล้วก็น่าซื้อใช้ กราฟฟิกเร็วกว่าเดิมมาก แต่ผมยังจะคงรอปีหน้า อย่างน้อยก็ต้องให้ซีพียูรุ่นคว็อดคอร์(สี่แกน)ออกมาก่อน (แต่เดาเอาเองว่าจะออกราวมกราคม หลังกำหนดของอินเทลออกชิปออกมา) เพราะเครื่องปัจจุบันที่ใช้จีโฟว์ซีพียูยังคงโอเคอยู่ แต่ตั้งใจว่าเมื่อไรเปลี่ยนเครื่องใหม่ก็จะยกเครื่องเก่าให้ลูกไป เพราะอยากให้เขาได้ใช้ของดี (แต่ความที่ตอนนี้เขาใช้ในการบันเทิงเป็นหลัก ผมก็เลยไม่ได้รีบร้อนจะยกให้มากเท่าไร) ผมเป็นผู้ใช้เครื่องแม็คอินทอชมาสองรอบ รอบแรกเมื่อราวๆ 18 ปีก่อน อีกรอบหนึ่งคือปัจจุบัน ที่ใช้แม็คมาราว ๓ ปีครึ่ง ต้องบอกว่าพอใจมากกับระบบปฏิบัติการ OS-X (โอเอสเท็น) เทียบกับระบบปฏิบัติการอื่นๆแล้ว โอเอสเท็นเหนือชั้นกว่ามาก ที่รองลงมาก็คือ Linux (โดยเฉพาะอย่าง Ubuntu นั้นขนาด ลินุส ทอร์วาล คนพัฒนาลินุกส์ก็ยังชอบ แต่เขาก็ใช้เครื่องเป็นแม็คนะ) คนทำงานทาง ชีวสารสนเทศ หรือ ชีววิทยาเชิงประมวลผล ส่วนมาก ใช้แม็ค

พบว่าการใช้เน็ตค้นหาข้อมูลช่วยกระตุ้นสมอง

จากข่าวที่ลิงก์ไว้ข้างบน สรุปว่า การค้นข้อมูลจากกูเกิลบนอินเตอร์เน็ทช่วยกระตุ้นสมอง ดีกว่าการอ่านหนังสือธรรมดา(อย่างเดียว)

น่าสนใจ ผมคิดเอาว่า เมื่อค้นหาข้อมูลนั้น คงเป็นเพราะสมองมันได้คิดตั้งคำถามไปเรื่อยๆ และพอเจอข้อมูลใหม่ๆอะไรก็เกิดความพอใจ ทำให้เป็นการสร้างความพอใจให้แก่จิต เป็นการสนองความปราถนา (ตัณหา ซึ่งเป็นกิเลสอย่างหนี่ง) และก็กระตุ้นให้มันเคยชินกับการคิด หรืออาจจะเพราะมีการกระตุ้นโดย รูปารมณ์ (visual objects) ดีกว่าการอ่านตัวอักษรอย่างเดียว หรืออาจจะเป็นทั้งสองอย่าง ช่วยให้คนอายุที่เริ่มเยอะได้มีโอกาสออกกำลังทางสมอง ชะลอการเกิดความจำเสื่อมในคนชรา

อีกอย่างที่คนในวงการอภิธรรมพูดกันมานานแล้วก็คือ เขาบอกว่า คนเรียนอภิธรรมจะช่วยชะลอไม่ให้คนที่ส่วนมากเป็นคนเกษียณอายุงานแล้วไปเรียน เกิดเป็นโรคอัลไซม์เมอร์ ไม่รู้ว่ามีหลักฐานหรือเปล่า แต่ว่าเขาเชื่อกันเช่นนั้น (แต่ก็เป็นไปได้ในทางกลับกันว่า ใครที่ถีงวัยนั้นแล้วเริ่มมีอาการเอ๋อ ก็คงไม่ไปเรียนหรอก)

Saturday, October 11, 2008

กฐิน สร้างพระ

ตอนนี้กำลังจะถึงเทศกาลออกพรรษา ปลายเดือนนี้ก็มีกฐินบ่อยหลายวัด ดูน่าไปหลายงาน แต่มีงานที่ผมกำลังสนใจมาก กำลังคิดว่าอาจจะไปร่วมด้วยตนเองด้วย คือกฐินของวัดป่าห้วยลาด ที่ ภูเรือ จังหวัดเลย กำลังจะสร้างพระประธาน องค์ใหญ่ หน้าตักกว้าง ๒๐ เมตร สูง ๑๙ เมตร สูงเท่ากับตึกห้าชั้น เป็นพระประธานในศาลาฯ ในวันที่ ๑ และ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๑

ความจริงผมเคยบริจาคเงินไปแล้ว เมื่อคราวขึ้นไปภูเรือคราวก่อน แต่ก็ยังอยากไปบริจาคให้อีก แต่ใกล้ๆต้องดูสถาณการณ์อีกทีว่าจะไปได้ไหม

ความเมตตา ที่ควรทำให้เจริญยิ่งขึ้น

ผมเพิ่งโอนเงินบริจาคของตนเองกับครอบครัว จำนวนหนึ่ง ไปยังบัญชีของมิตรที่เคารพนับถือท่านหนึ่ง ผู้ที่ทีแรกก็รู้จักกันผ่านทางเว็บไซต์ลานธรรม ต่อมาก็เคยเจอตัวกันบ้าง ตอนหลังนี้ก็ถือว่าเป็นมิตรที่เคารพนับถือกันท่านหนึ่ง ท่านอายุมากกว่าผมสองสามปี และเป็นผู้มีคุณธรรมสูง และเมตตาธรรมสูงยิ่ง ท่านมีโครงการทำบุญอยู่เรื่อยๆ สร้างพระละบ่อย สร้างอาคารต่างๆให้วัดป่าต่างๆก็บ่อย ซื่้อชีวิตวัวควายทุกปี ท่านเข้าสมาธิเป็นประจำ ผมคิดเอาเองว่า ในประเทศไทยนี้หาคนไทยคนไหนมีกิจกรรมทำบุญทำทานบ่อยๆเท่าท่านผู้นี้ยากมาก ตอนนี้ท่านนี้ก็กำลังชักชวนเพื่อนบนเน็ตเพื่อบริจาคเงินเพื่อจะไปไถ่ชีวิตวัวอีกจำนวนหนึ่งจากโรงฆ่าสัตว์ในต่างจังหวัด ปีนี้เข้าใจว่าคงจะเป็นที่อุบล ผมถือโอกาสไปบอกบุญกับลูก และคนใกล้ตัว ก็ได้เงินมาสมทบกับเงินส่วนตัว ก็ได้ทำบุญไปกับมิตรท่านนี้ด้วย รู้สึกดีที่ได้ทำบุญ ได้ช่วยชีวิตสัตว์ นอกเหนือจากที่ผมถือว่าได้ช่วยชีวิตคนเป็นประจำทุกสามเดือนด้วยการบริจาคโลหิตอยู่แล้ว และต่อไปก็จะพยายามแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์มากยิ่งกว่านี้ ผมถือว่า ตอนนี้ยังมีลมหายใจอยู่ก็ทำทาน ทำบุญ สร้างบารมีไป นอกเหนือจากปฏิบัติบูชาที่ทำอยู่แล้วรายวัน และสุดสัปดาห์หน้าก็มีแผนว่าจะไปนั่งสมาธิที่ต่างจังหวัดกันทั้งครอบครัว

อนุสนธิจากเรื่องไถ่ชีวิตสัตว์นี้ก็มามีโอกาสได้ฉุกคิดว่า คนไทยในสังคมเราตอนนี้ เมตตาธรรมหายไปแยะ ยิ่งในสถาณการณ์การเมืองแยกขั้วแบบนี้ มีการแบ่งฝ่ายและเกิดโทสจริตใส่อีกฝ่ายกันอย่างควบคุมไม่ได้ ไม่ได้จำแนกเป็นคนๆไปเลยว่าคนไหนดีคนไหนไม่ดี กลับเห็นว่าเมื่อเป็นคนในสังกัดอีกข้างแล้วก็ต้องถือเป็นศัตรูต้องเข้าทำร้าย อย่างนี้ก็ทำให้เกิดความรุนแรง
หลายๆคนก็เชื่อกันว่าเหตุการณ์กำลังจะรุนแรงขึ้นอีก ก็เป็นที่น่าสลดใจ

Thursday, October 09, 2008

เหตุการณ์ที่จะระทึกกว่าอาจจะมาในอนาคตอันใกล้

เหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตในการชุมนุมในกรุงเทพฯเมื่อสองวันที่ผ่านมา และมีผู้บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้ผมรู้สึกสลดใจ ส่วนการที่ตลาดหุ้นไทย และทั่วเอเซียตกระนาวเป็นประวัติการ ตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีทของสหรัฐ ตกต่ำสุดในรอบหลายปีๆ ผมรู้สึกเฉยๆ ปลงเสียแล้ว เงินมันเป็นของนอกกาย

อย่างไรก็ดี ในเดือนหน้า หรือ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ มีเรื่องที่ต้องเฝ้าดูมากกว่า อย่างแรกคือการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่มีโอกาสสูงมากที่จะได้ผู้นำเป็นคนผิวสีเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อีกอย่างคือเหตุการณ์ในตะวันออกกลาง ซึ่งตอนนี้อิสราเอลกำลังจะมีรัฐบาลใหม่ คาดว่าจะได้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิง ภายในเดือนหน้าเช่นกัน และก็มีข่าวว่าตอนนี้สหรัฐกำลังระดมขายอาวุธให้อิสราเอลเป็นอย่างมาก ซึ่งนักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศบางแห่งคาดการณ์ว่า อาจจะมีการโจมตีโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยอิสราเอลก็เป็นได้ เพราะมีการคาดเอาว่า อิหร่านจะสามารถผลิตพลูโตเนียมได้ปริมาณมากพอทำอาวุธได้ในปีหน้า และก็อีกอย่าคืออิหร่านกำลังจะซื้อขีปนาวุธ เอส ๓๐๐ จากรัสเซียอยู่ (ก็เป็นต้นแบบของจรวดที่ไทยเราจ้างส่งดาวเทียมไปเมื่อเร็วๆนี้นั่นเอง คิดเอาว่า มันมีพิสัยไกลแค่ไหน) และช่วงปลายพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนธันวาคม เป็นเวลาก่อนที่ประธานาธิบดีคนใหม่จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง อาจจะมีอะไรๆเกิดขึ้นได้ ซึ่งหลายคนเชื่อว่าหากว่ามีเหตุการรุนแรงเช่นการโจมตีเกิดขึ้นจริง มันก็จะเกิดวิกฤตการณ์ของโลกที่คาดว่าจะบานปลายเป็นอย่างมาก ผมก็มีความเห็นว่า เป็นไปได้สูง และถ้าเป็นอย่างนั้น เรื่องในเมืองไทยเนี่ยกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลยก็ว่าได้ และชาวเราก็ต้องปลงกันอีกขนานใหญ่

Saturday, October 04, 2008

My Linux froze and how I solved it

How did I crash my machine ?
Well, I ran a computationally intensive program (called BLAST) which made the cpu busy for hours, generating gigabyte size file each time, and then I was also doing many other things in other windows as well. After a while, the Gnome file system stop responding and the machine did not respond to mouse clicking so I had no choice by to do the hard shutdown by pressing the power button. Several rebooting of the machine did not help.
Apparently the Gnome failed, perhaps some files were corrupted while the cpu was very busy during the first hard shutdown. But the machine hardware still looked o.k.

How did I solve the problem ?
Here is what I did. This is after a suggestion on the web, and my good friend also suggested the same. Thanks for that.
I had to switch into text mode by pressing Ctrl-Alt-F2 simultaneously, then logged in as root and add a new user account by adduser command. After that, I could successfully log into the new account. And after opening a terminal window, I changed into root by su command and then I could copy files recursively from key folders that I needed from the old account 's directories into the new account 's directories. Then I have to start using the new account.

What did I learn from this lesson ?
I learned a good lesson that when running computational jobs at full cpu speed, don't do something else in other windows. Even a Unix or a Linux machine could crash.

Thursday, October 02, 2008

ถีนะ มิทธะ ในช่วงนี้

ช่วงนี้ผมมีถีนะ และ มิทธะเกิดขึ้นมาก บางทีก็รู้สึกเบื่อ เสมือนกับว่ามีนิพพิทธา แต่ความจริงก็เป็นกิเลสแหละ ภาษาชาวบ้านก็คือขี้เกียจ เหตุหลักๆคืองานยุ่งๆ ก็เลยไถลไม่ค่อยไปเรียนหนังสือในวันหยุด

(คำสองคำนี้ คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จัก ถีนะ แปลว่า ความท้อถอยของดวงจิต มิทธะ แปลว่า ความท้อถอยของเจตสิก)

อ้อ ขอหมายเหตุไว้หน่อยว่า วันนี้โพสต์จากเครื่องที่ใช้ อูบันตู ลินิกส์

Wednesday, October 01, 2008

ความเป็นไปได้เรื่องน้ำท่วมจากแผ่นดินไหวที่กาญจนบุรี

วันนี้อ่านข่าวเจอจากเว็บมติชน ตามลิงก์ข้างบน มีคนเมืองกาญจน์บางคน ออกมาประท้วงและจะยื่นฟ้องผู้ที่ออกมาเตือนด้วยความหวังดีเรื่องแผ่นดินไหวอาจจะทำให้เขื่อนแตกและน้ำท่วมผู้คนเสียชีวิตจำนวนมาก (และความจริงเขาเตือนเรื่องน้ำท่วมกรุงเทพฯที่เกิดจากโลกร้อนด้วย) ผมอ่านแล้วรู้สึกสลดใจ กับพวกที่มีโทสะโมหะมากเกินไป คนเขาหวังดีออกมาเตือนก็ไม่เชื่อ กลับไปโกรธเขา มัวเมาไม่ยอมตื่นขึ้นมารับความจริงที่มันมีอยู่ สถิติแผ่นดินไหวช่วงนี้บ่อยกว่าเดิมมาก ในพม่าก็เกิดบ่อย อย่างราวสองอาทิตย์ที่ผ่านมาก็มีเกิดแผ่นดินไหวไม่ไกลจากเมืองมะริดเท่าไร ดูเหมือนจะระดับ ๖ ริกเตอร์ คนส่วนมากไม่ได้ติดตาม ตอนผมเห็นข่าวที่ท่านออกมาเตือนผมก็รู้สึกว่าดีมาก ท่านคงเห็นอันตรายคืบคลานเข้ามา ท่านถึงเปลืองตัวออกมาเตือนสังคม แต่ผมก็เชื่อว่า รัฐบาลนี้คงไม่ทำอะไร และเห็นว่าหน่วยงานรัฐต่างๆก็คงไม่ทำอะไร กลไกภาครัฐมันมีเฟืองจักรกลแยะ และส่วนมากมีแนวโน้มที่จะไม่ขยับไม่หมุน เปรียบเหมือนนาฬิกาที่เครื่องขึ้นสนิม การที่ท่านออกมาเตือนเนี่ยคล้ายๆกับพยายามเคาะสนิม หวังว่าเฟืองกลไกต่างๆของรัฐมันจะกลับมาเดิน ผมเชื่อว่าคงต้องออกมาเคาะอีกหลายรอบ แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จึงจะเดิน

แต่ถามว่าแล้วการออกมาเตือนสังคมไปกระทบธุรกิจคนที่เมืองกาญจน์เขาไหม ผมคิดๆดูก็คงกระทบเหมือนกันนั่นแหละ อย่างผมถามตัวเองว่า อยากไปเมืองกาญจน์ไหมช่วงนี้ ก็ตอบว่า ไม่อยากไป แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะเคยไปมาแล้วเมื่อไม่กี่ปีมานี้ และตอนนี้ไม่มีธุระอะไร แต่ถ้ามีธุระก็คงไป อย่่างไรก็น่าจะมีคนที่ไม่เชื่ออีกมากที่จะไป ก็ถัวๆกันไป การเตือนสังคมเรื่องความเสี่ยงเป็นสิ่งที่ดี คนที่รู้จะได้ระวัง หากทางแก้ไข แต่ก็ต้องมีสติไม่ไปตระหนกมากเกินเหตุ เมืองไทยดูเหมือนจะมีอะไรอีกหลายอย่าง ที่หน่วยงานต่างๆของรัฐไม่ยอมออกมาให้ข้อมูลกับประชาชนตามความเป็นจริง ผมมองว่าผู้บริหารองค์กรต่างๆของรัฐเขาเห็นแก่ตัว คนในหน่วยงานต่างๆเขาคงเห็นว่าเหตุการณ์ไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อไร ออกมาเตือนไม่ดีกับตัวเอง พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง แต่มันจะทำให้ผลกระทบเลวร้ายหากถึงเวลาเกิดขึ้น เพราะไม่มีมาตราการป้องกันเพียงพอ อย่างกรณีสึนามิมีการเตือนล่วงหน้าหลายปีแต่คนก็ไม่เชื่อไม่ทำอะไรป้องกัน

เมื่อวานตอนค่ำนั่งรถกลับกรุงเทพฯ ตอนผ่านราชบุรี โพธาราม บ้านโป่ง ก็นึกถึงเรื่องน้ำท่วมนี้อยู่เหมือนกัน

กลับมาใช้ อูบันตู ลินิกส์ อีกครั้ง

ไม่ได้ใช้ลินิกส์มาเป็นปี (คนไทยมักเรียกว่า ลินุกส์) เวลาผ่านไปเร็วมาก สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไปปัดฝุ่นเครื่อง Pentium 4 HT 3.0 GHz อายุสามปี รุ่นที่เป็นเสมือนสองซีพียู ออกมาใช้ เพราะจะต้องลงโปรแกรมอะไรบางอย่างมาใช้รันงาน เครื่องนี้ซื้อมาแล้วแทบไม่ได้ใช้ เพราะหันไปใช้แม็คแทน พอซื้อมาก็ตั้งตากฝุ่นเอาไว้เฉยๆสามปี ใช้ไม่กี่ครั้ง ผมนึกตระหนักเอาเองว่าเป็นเครื่องที่ซื้อมาสนองตัณหาตัวเองจริงๆ เพราะว่า ตอนซื้อมาจากพันธุ์ทิพย์ตอนนั้นก็พอใจที่ได้เครื่องมา จากนั้นไม่นานพอได้แม็คมาก็หมดความต้องการมันอีก เงินที่ละลายจากการซื้อไปหลายหมื่นบาทตอนน้ันก็ถือว่า สนองความต้องการของกิเลสไปแล้ว นี่เห็นธรรมะจริงๆจากตัวเอง

เครื่องนี้ที่เมื่อต้นปีที่แล้วลง อูบันตู ลิินิกส์รุ่น 7.04 (Ubuntu Linux) เอาไว้ แต่ตอนนี้รุ่นใหม่ออกมาแล้วสองรุ่น เลยเสียเวลาไปอัพเกรดโอเอสอยู่สองรอบ วันหนึ่งเต็มๆ โอเอสตอนนี้เป็นรุ่น 8.04 LTS ชื่อรหัสรุ่นว่า Hardy Heron ผมพบว่าใช้ง่ายกว่าเดิม และอะไรๆที่มันมีบั๊กอยู่ในรุ่นเก่าก็ดูจะหายไป และก็คอนฟิกเกอร์คีย์บอร์ดเป็นภาษาไทยง่ายมาก ผมจัดแจงเซ็ทคีย์สลับภาษาบนแป้นพิมพ์ให้คล้ายกับเครื่องแม็คที่ผมใช้อีกสองตัว จะได้สะดวก แต่ยังไม่รู้ว่า ฟอนต์ไทยตระกูล UPC ของแม็คจะเอาไปใส่ให้ใช้ในระบบนี้ได้ไหม ยังไม่ได้ลอง

อูบันตู เป็นดิสทริบิวชั่น ของลินิกส์โอเอสที่ดีมาก เหมาะสำหรับใครๆก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเป็นมือโปร มือใหม่ก็ใช้ได้ ถ้าคนไหนไม่รู้จักลินุกส์ก็สมควรจะลอง ผมเคยติวให้น้องชาย ชั่วโมงเดียวก็เป็นแล้ว และสำหรับคนที่ไม่ต้องการจะไปใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย และได้โอเอสที่ทนทาน เสถียร และอัพเดทอยู่เสมอ ก็ควรเลือกใช้ โอเพ่นซอสโอเอส ตัวนี้